วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

0005059 จิตวิทยาเพื่อสัมพันธภาพทางสังคม กลุ่ม 1 (ดร.รังสรรค์ โฉมยา)

ให้นิสิตเรียงความเกี่ยวกับเพื่อนที่นิสิตประทับใจ โดยให้เล่าประวัติของเพื่อนคนนั้นโดยคร่าวๆ ความสัมพันธ์ระหว่างนิสิตกับเพื่อนคนนั้น ประเด็นที่นิสิตประทับใจในตัวเขา เพราะอะไร ขนาดความยาวประมาณ 1 หน้ากระดาษ ส่งภายใน 31 กรกฎาคม 2552 http://www.sanook.com/

103 ความคิดเห็น:

วิภาพรรณ รัตนปัญญา กล่าวว่า...

นางสาว วิภาพรรณ รัตนปัญญา
รหัสนิสิต 51011012127 2HOS กลุ่มเรียนที่ 1

เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ
คำว่า เพื่อน บางคนอาจจะคิดว่าเป็นเพียงบุคคลที่อยู่ร่วมกับเราในยามที่เรามีความสุขเพียงเท่านั้น แต่แท้ที่จริงแล้ว เพื่อนมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ เพื่อนกินและเพื่อนแท้ โดยที่คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนแท้นั้น คือคนที่อยู่กับเราตลอดเวลา ทั้งยามที่เรามีความสุขและมีทุกข์ แม้แต่ยามที่เราเหงาหรือไม่มีใคร เราก็จะมีเพื่อนแท้นี่แหละที่อยู่คอยให้กำลังใจเราตลอดเวลา ถ้าเป็นเพื่อนกิน เพื่อนประเภทนี้จะต่างจากเพื่อนแท้โดยสิ้นเชิง เพราะเพื่อนประเภทนี้จะอยู่กับเราเฉพาะเวลาที่มีความสุขเท่านั้น แต่ยามที่เรามีความทุกข์เพื่อนกินจะไม่มีวันช่วยอะไรเราได้เลย โดยที่เขาจะไม่ยอมรับฟังความทุกข์ของเรา ในทางกลับกันถ้าหากเพื่อนคนนั้นเป็นเพื่อนแท้ของเราจริงๆ เขาจะรับฟังทุกเรื่องของเราโดยไม่มีข้อยกเว้นว่าจะเป็นเรื่องสุขหรือทุกข์ก็ตาม
เพื่อนที่ข้าพเจ้าประทับใจที่จะนำมาเล่าในครั้งนี้ เราทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อนของข้าพเจ้าคนนี้มีชื่อว่า นางสาววรรณิศา ศรีภูธร ชื่อเล่น นิสา โดยนิสากับข้าพเจ้าเริ่มรู้จักกันตอนเข้าเรียน ม. 4 ที่โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ เราเรียนห้องเดียวกันไปไหนด้วยกันตลอด จนกลายเป็นเพื่อนที่สนิทกันที่สุด สำหรับความประทับใจที่ข้าพเจ้ามีต่อเพื่อนคนนี้คือ นิสามีอาชีพเป็นหมอลำซิ่ง ซึ่งเป็นวงหมอลำที่นิสาเป็นหัวหน้าวงเอง ตอนกลางวันเธอก็จะมาเรียนตามปกติ แต่พอถึงตอนกลางคืนหากวันไหนมีงาน เธอก็จะไปแสดงตามงานนั้นโดยมีพ่อกับแม่ไปด้วยทุกครั้ง ข้าพเจ้าเคยไปดูนิสาทำการแสดงหลายครั้ง มันทำให้ข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่า เพื่อนของข้าพเจ้าคนนี้เป็นคนที่เก่งและมีความสามารถมาก เธอเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง โดยที่เธอเป็นหลักในการหาเลี้ยงครอบครัวเลยก็ว่าได้ เพราะครอบครัวของเธอไม่มีใครไปทำงานอื่นเลย นอกจากเปิดร้านขายของชำในหมู่บ้านและคอยรับงานหมอลำของเธอเท่านั้น แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอท้อเลย เธอกลับบอกว่าเธอมีความสุขกับการที่ได้ร้องหมอลำและหากคนที่มาฟังเธอมีความสุขสนุกสนานยิ่งทำให้เธออยากมีงานทุกวันเลยก็ได้ อาจเป็นเพราะความสามารถในตัวของเธอที่มีอยู่มากมาย และการที่เธอเป็นคนที่มีน้ำใจ ไม่ทิ้งเพื่อนและแม้ว่าเธอจะเหนื่อยแค่ไหนเธอก็ไม่เคยทิ้งการเรียน และยังมีความตั้งใจที่จะทำทุกอย่างจนสำเร็จด้วยตัวเอง ด้วยเหตุผลทุกอย่างนี้ จึงทำให้ข้าพเจ้าประทับใจในตัวของเพื่อนคนนี้มาก จนบางครั้งข้าพเจ้าอดที่จะคิดไม่ได้ว่าเธอคือ idol ในใจของข้าพเจ้าเลยก็ว่าได้
สุดท้ายนี้ การที่เราจะคบใครเป็นเพื่อนด้วยความจริงใจนั้น ขอให้มีความรู้สึกดีดี ที่จริงใจต่อกันก็พอ และความสำเร็จของเพื่อนที่เรารักก็เปรียบได้กับความสำเร็จของเรา เมื่อเราเห็นเขามีความสุขเราก็ควรดีใจด้วย เพราะการที่เป็นเพื่อนกันอย่างแท้จริงนั้นไม่ควรอิจฉาเพื่อน แต่ควรยินดีกับความสำเร็จนั้นมากกว่า

ปิยะวรรณ กล่าวว่า...

นางสาวปิยะวรรณ ธรรมรังษี
รหัสนิสิต 52011313464 สาขา นิติศาสตร์
กลุ่มเรียนที่ 1

เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ
เพื่อนที่ดิฉันประทับใจเป็นเเป็นเพื่อนที่รู้จักกันตั้งแต่เรียนประถมศึกษาปีที่ 5 แต่ก็ยังไม่สนิทกันจนจบป.6 ที่จะต้องต่อมัธสมก็ได้เรียนที่เดียวกันจนกระทั่งม.2จึงเริ่มสนิทกัน และคบกันเรื่อยมาจนปัจจุบัน แต่ก็ไม่เคยทะเลาะหรือมีปัญหากันเลย เพื่อนดิฉันชื่อน.ส.สุภาวดี ศรีสุข ชื่อเล่น อัง อายุ 19 ปี เกิดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2533 อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 4 ต.ดอนทอง อ.หนองโดน จ.สระบุรี ปัจจุบันศึกษาอยู่ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สระบุรี อังเป็นคนเรียนเก่งมากๆ อาจารย์ทุกคนรักและชื่นชมอัง เพราะอังเรียนเก่ง เรียบร้อย ไม่ชั่งพูด
ดิฉันกับอังคบกันมา5ปี แต่รู้จักกันมาประมาณ8ปี อังเป็นเพื่อนที่ดีปรึกษาได้ทุกเรื่อง ไม่เคยเลยที่จะไม่ช่วยเหลือเพื่อน ดิฉันกับอังไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ ถ้ามีการบ้านก็เอามาแบ่งกันลอก ผลัดกันลอก จนเรียนจบม.6 ต่างคนต่างเดินตามความฝันของตัวเอง อังสอบติดพยาบาลส่วนดิฉันก็admistionติดที่ม.มหาสารคาม แต่เราก็ยังติดต่อกันเสมอ
ดิฉันประทับใจในตัวอังที่อังเป็นคนตลก มีน้ำใจ ชอบช่วยงานเพื่อน อังเป็นคนวาดรูปสวยมาก ดิฉันจึงขอให้อังวาดรูปส่งอาจารย์ให้บ่อย อังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของดิฉันตั้งแต่มีเพื่อนมา ถึงแม้เราจะอยู่ไกลกัน เราก็ยังคิดถึงแก เพื่อนรัก

อรณี กล่าวว่า...

นางสาว อรณี เครื่องเงิน
รหัสนิสิต 52011011584 sec.1
Hos1 ระบบปกติ
เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทบใจ

คำว่าเพื่อนนั้นเป็นแค่คำสั้นๆ แต่คามหมายของคำว่าเพื่อนนั้นลึกซึ้งมาก เพื่อนจะคอยอยู่ข้างเราเสมอเวลาที่เราท้อ เวลาที่เราเศร้า ดิฉันมีเพื่อนที่ดิฉันรักมากอยู่คนหนึ่ง ชื่อ นางสาว ทิพวรรณ ภาระศรี ชื่อเล่น ปุ๊กปิ๊ก เกิด 14 กุมภาพันธ์ 2533 ที่อยู่ 18/7 ต.ไหล่ทุ่ง อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เรียนคณะศิลปศาสตร์ สาขา วิชาภาษาญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นิสัย คุยเก่ง เรื่อยเปื่อย ไร้สาระไปวันๆๆ น่ารัก สีที่ชอบ ขาว ดำ แดง ฟ้า ชมพู เขียว ส้ม เกือบทุกสีแหละ อาหารที่ชอบ ข้าว ขนมหวาน ช็อกโกแลต คำคมที่ชอบ ทุกคนมีจุดยืนคือส้นตีน คติประจำใจ ฝันซะให้พอ
ถึงแม้ว่าเราจะรู้จักกันได้แค่1ปี แต่เราก็จะสนิทกันมาก เหมือนกะว่ารู้จักกันนานมาก ดิฉันได้รู้จักกับเพื่อนคนนี้ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เราเรียนเอกเดียวกัน เราจะไปไหนกต้องไปด้วยกัน ลงเรียนก็ลงเรียนด้วยกัน ก่อนที่ดิฉันจะย้ายมาเรียนที่นี่ดิฉันเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
มาก่อน มีเรื่องไม่สบายใจเราก็จะปรึกษากัน ปุ๊กจะคอยปลอบดิฉันตอนที่ดิฉันมีเรื่องไม่สบายใจ และก็อีกอย่างหนึ่งเราจะชอบไปเดินตลาดนัดด้วยกัน เป็นอะไรที่มีความสุขมากเลย
สิ่งที่ดิฉันประทับใจคือ เวลาที่เราเสียใจร้องไห้เค้าจะเป็นคนที่เราลืมความเครียดไปได้ ทำให้หัวเราะ เป็นคนที่พูดตรงไปตรงมา ตลก ช่วยเหลือเราตลอดเลย เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันจะใจตรงกันไปด้วยกันได้ ไปด้วยแล้วไม่รู้สึกเบื่อ

อัจฉิมา กล่าวว่า...

นางสาวอัจฉิมา ชูราษี
รหัสนิสิต 49011321324 LW ระบบพิเศษ
กลุ่มเรียนที่ 1

เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ
"เพื่อน" คำสั้น ๆ ที่ทำให้เราไม่เคยเหงา ที่อยู่กับเรายามที่เราหัวเราะ ร้องไห้ มีความสุข ความทุกข์ หรือคนที่ทำให้เรางอน แล้วก็ง้อหรืออะไรอีกหลาย ๆ อย่างสุดแท้แต่เพื่อนจะทำให้กันได้
ในชีวิตเรานั้นมีทั้งเพื่อนที่เป็นคนที่เราประทับใจและอยากมีเพื่อนแบบนั้นตลอดและอาจจะมีที่มีเพื่อนแบบนั้นหรือแบบนั้นที่เราไม่อยากเจอก็เป็นได้เราเองก็มีเพื่อนที่ประทับใจเยอะแต่มีคนหนึ่งที่อยู่กับเรามาตลอดเลย ซึ่งเพื่อนเราคนนี้ชื่อ ป๋อม ซึ่งตอนนี้ป๋อม เรียนที่คณะวิทย์ ที่ มมส.นี่เอง เรากับป๋อมรู้จักกันมาตั้งแต่เรียน ม.1 ซึ่งเราสนิทกันมมากกว่าคนอื่นซึ่งแถบจะตัวติดกันตลอดเวลาเลยก็ว่าได้ เราเรียนห้องเดียวกันแล้วก็นั่งด้วยกันมาตลอดจนบ้างครั้งเรายังเคยถามกันว่าไม่คิจะแยกกันนั่งบ้างหรอแต่คำตอบที่ได้คือเราก็นั่งด้วยกันเหมือนเดิมไม่รู้เพราะรัย เราสองคนดูแลกันมาตลอดซึ่งป๋อมเป็นเพื่อนที่เข้าใจเราที่สุดจนบ้างครั้งเราไม่ต้องพูดอะไรเราก็สามารถเข้าใจกันไดก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเวลาที่เรามีปัญาเราปรึกษาป๋อมได้และเขาจะคอยรับฟังเราตลอด เราประทับใจป๋อมมากเลยป๋อมจะคอยช่วยเราทำงานส่งเวลาที่เราทำงานไม่ทันแม้จะมีเสียงบ่นตลอดแต่ก็ไม่มีสักครั้งที่ป๋อมจะไม่ช่วยเรา หรอแม้แต่บ้างครั้งที่เราต้องทำงานแยกกัยเราก็ยังคอยช่วยกันตลอดแม้บ้างครั้งป๋อมจะขี้โกงบ้างก็ตามและมันก็เป็นอย่างนี้มาตลอด เราชอบที่ป๋อมเป็นคนที่คุยเก่งมีเรื่องมาเม้าท์ให้ฟังตลอดแม้บ้างครั้งเราไม่รู้ว่าคนที่เขาพูดถึงเป็นใครก็ตาม แม้แต่ในเวลาเรียนเธอคนนี้ยังพูดเลย บ้างครั้งคุยเสียงดังไม่ได้เราก็จะเขียนในสมุดหรือในหนังสือจนหนังสือบางเล่มมั่วไปหมดเลยไม่รู้ว่าเขียนอะไรลงไปบาง เวลาสอบแถบอ่านไม่รู้เรื่องเลย
มีครั้งหนึ่งที่เราเคยชวนกันหนีเรียนซึ่งมีเพื่อนร่วมกระบวนการอีกหนึ่งคนเพราอยากรู้ว่าการหนีเรียนเป็นยังไง ซึ่งครั้งนั้นเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เราหนีเรียนเพราเราไม่รู้ว่าจะหนีเรียนไปทำอะไรสรุปแล้วเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคนอื่นชอบหนีเรียนกันนักสุดท้ายพวกเราก็กลับเข้ามาเรียนเหมือนเดิม นอกจากนี้เรากับป๋อมยังมีวีระกรรมที่ทำด้วยกันอีกเยอะเลย
แม้จะมีบ้างที่เราสองคนทำอะไรขัดใจกันแต่เราก็ไม่เก้บเอามาคิดมากหรอกเพราะเราคือเพื่อนกันแม้แต่ตอนนี้ที่เรามาอยู่ที่นี้เราก็ยังติดต่อกันเสมอแมจะไม่มากเท่าเมื่อก่อนเพราะเราต่างก็เรียนหนักด้วยกันทั้งคู๋แต่ถ้ามีเวลาเราจะนัดเจอกันตลอดซึ่งป๋อมก็ยังเหมือนเดิมเสมอนี้แหละคือความประทับใจซึ่งมันอาจจะบรรยายได้ไม่หมดหรอกแต่มันจะยังคงอยู่ในความทรงจำของเพื่อนตลอดไป
ในชีวิตเราอาจมีเพื่อนมากมายแต่จะมีสักกี่คนที่จะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป แม้เราอาจจะไม่ได้เป็นคนที่อยู่ในความทรงจำและความประทับใจของเขาก็ตามแต่เขาก็เข้ามาเป็นความประทับใจของเราโดยที่เขาไม่รู้ตัว เฉกเช่นกันเราก็มีเพื่อนที่เป็นเพื่อนที่อยู่ในความทรงจำและความประทับใจตลอดมา

ลินดา ฟองลม กล่าวว่า...

นาวสาวลินดา ฟองลม
รหัสนิสิต 52010919292
คณะการบัญชีและการจัดการ สาขาการบัญชี ระบบปกติ กลุ่มที่1

เรื่องความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ
คำว่า"เพื่อน" เป็นคำสั้นๆแต่ความหมายนั้นมันช่างมากมายเหลือเกิน เพื่อนก็มีหลายประเภท มีทั้งเพื่อนที่ดีและเพื่อนที่ชักชวนเราไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ดี ขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะเลือกคบเพื่อนประเภทไหน
สำหรับตัวข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าเองก็มีเพื่อนอยู่หลายประเภท มีทั้งเพื่อนทั่วๆไป เพื่อนสนิทและก็เพื่อนรัก ดิฉันให้คำนิยามเพื่อนแต่ละประเภทไม่เหมือนกัน
เพื่อนทั่วไป เป็นเพื่อนที่เรารู้จักแต่ไม่สนิทสนมกับเขาเท่าไหร่ อาจจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ้างแต่ไม่ค่อยบ่อย ตัวอย่างเช่น เพื่อนร่วมห้องเรียน เพื่อนร่วมโรงเรียน เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย
เพื่อนสนิท คือเพื่อนที่อยู่ด้วยกันบ่อยๆไปไหนมาไหนกันบ่อยๆ เข้าใจเราบ้างบางเวลา รู้จักตัวตนที่เราเป็นบางแง่มุม รู้ว่าเราชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ให้คำปรึกษาเราได้ ปลอบใจเราในยามที่เราไม่สบายใจ เพื่อนสนิทจึงเป็นพื่อนที่ค่อนข้างจะพิเศษ เพื่อนสนิทไม่จำเป็นต้องมีมากมาย
เพื่อนรัก คือเพื่อนที่เข้าใจเราในทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเป็น มันรู้ว่าเราคิดอะไร แค่มองตาเรามันก็รู้แล้วไม่ต้องบอกอะไรมันก็รู้ เวลาเรามีปัญหาหรือมีเรื่องอะไรไม่สบายใจมันก็รู้ทันทีอีกเช่นกัน เวลาเรามีเรื่องเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือจากมัน มันก็จะมาหาเราทันทีไม่ว่ามันกำลังจะทำอะไรอยู่หรือมันจะมีธุระก็ตามมันจะรีบร้อนมาหาเราทันที ความหมายมันยังมีอีกมากมายสุดจะบรรยายก็มาได้
นี่แหละนิยามคำว่าเพื่อนของข้าพเจ้า ส่วนเพื่อนที่ประทับใจของข้าพเจ้า เขาชื่อว่า นายวศิน วงษ์คำหาน
เรารู้จักกันมาเป็นเวลา 13 ปีแล้ว เวลา 13 ปี มันทำให้รู้ว่าคำว่า เพื่อน คืออะไร ตอนนี้ข้าพเจ้าเข้าใจคำๆนี้แล้ว
ความประทับใจในเพื่อนคนนี้มีมากมายค่ะ ในเวลาที่ข้าพเจ้ามีปัญหาไม่รู้ว่าจะปรึกษาใครเพื่อนคนนี้ก็เป็นหนึ่งในบุลคลที่ข้าพเจ้าจะปรึกษา ในยามที่ข้าพเจ้าเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่เพื่อนคนนี้ไม่เคยปฏิเสธเลย ไม่ว่าเขาจะว่างหรือไม่ว่างเพื่อนคนนี้ก็จะมาหาข้าพเจ้าเสมอ
ในเวลาที่ข้าพเจ้าไม่สบายใจหรือว่ามีปัญหาไม่ต้องพูดอะไรออกมาเพื่อนคนนี้ก็จะรู้ทันทีว่าข้าพเจ้ากำลังไม่สบายใจหรือมีอะไรอยู่ในใจ เพื่อนคนนี้ก็จะพยายามซักถามข้าพเจ้าว่ามีอะไรไม่สบายใจหรือป่าว เล่าให้ฟังได้นะ คำถามนี้มันทำให้น้ำตาของข้าพเจ้าแทบจะไหลทุกครั้งเมื่อได้ยินมัน นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งดีดีที่เพื่อนคนนี้ทำให้ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าคิดว่าชาตินี้โชคดีมากๆที่มีเพื่อนดีดีแบบนี้ น้อยคนในโลกนี้ที่จะเจอเพื่อนที่ดี จริงใจ และหวังดีกับเราจริงๆ ไม่เสียใจเลยจริงๆที่ให้เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนรัก ข้าพเจ้าจะเก็บรักษาสิ่งดีดีที่เพื่อนคนนี้มอบให้ไว้ให้ดีที่สุด ข้าพเจ้าจะตอบแทนทำสิ่งดีดีให้เพื่อนคนนี้เช่นกัน มิตรภาพของเราสองคนนี้จะยังคงอยู่แบบนี้เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหน คำว่าเพื่อนของเราจะไม่จางไปตามกาลเวลา

ดุษฎี กล่าวว่า...

นายดุษฎี แก้วศรีนวม
รหัสนิสิต 52010918290 สาขาการบัญชี
กลุ่มเรียนที่ 1

เพื่อนรักของข้าพเจ้า

คำว่าเพื่อนนั้นเป็นคำที่มีความหมายลึกซึ้งกินใจ ไม่สามารถที่จะบรรยายได้ บางคนเป็นเพื่อนตั้งแต่เด็กจนโตและเข้าถึงวัยเรียนก็ยังเป็นเพื่อนกัน เพื่อนนั้นต้องมีความเข้าใจกัน
มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีความเอื้ออาทรต่อกัน มีทุกข์ร่วมทุกข์ มีสุขร่วมสุข และเพื่อนนั้นต้องมีความรักต่อกันอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะมาจากไหนศาสนาใดก็ตาม และฐานะก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญก็สามารถเป็นเพื่อนรักกันได้

ในชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีเพื่อนมากมาย แต่เพื่อนที่ประทับใจข้าพเจ้ามากที่สุดคือ นางสาวธีร์จุฑา วังวงษ์ ชื่อเล่น อาย เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ชั้นประถมจนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย ทำให้เรารู้จักนิสัยและสนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อยๆ อายเป็นเพื่อนคนหนึ่งของข้าพเจ้าที่มีฐานะทางครอบครัวค่อนข้างยากจน ส่วนครอบครัวของข้าพเจ้าอยู่ในระดับปานกลาง แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคที่จะขัดขวางความเป็นเพื่อนรักของเราได้และไม่ได้ทำให้ความเป็นเพื่อนของเราลดลง แต่กลับทำให้เราเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทกันมาก เพราะอายเป็นคนมีน้ำใจ เมื่อมีขนมขบเคี้ยวก็แบ่งปันให้เพื่อนๆ ชอบช่วยเหลือเพื่อนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนมีปัญหาก็คอยให้กำลังใจ เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์
ไม่ชอบเอาเปรียบผู้อื่น จะคอยรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่เคยลักเล็กขโมยน้อยของเพื่อนแม้แต่ครั้งเดียว อายเป็นคนประหยัดอดออม ไม่เห็นแก่ตัว เมื่อเพื่อนๆไม่เข้าใจการบ้านอายก็จะคอยช่วยอธิบายให้ฟังจนเข้าใจ โดยเฉพาะกับข้าพเจ้า มีอยู่ครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าไม่เข้าใจงานที่อาจารย์มอบหมายให้กลับมาทำแต่ข้าพเจ้าไม่เข้าใจสักที จนมีความรู้สึกท้อ อายก็ให้กำลังใจและอธิบายงานให้ข้าพเจ้าเข้าใจและทำงานชิ้นนั้นได้เสร็จทันเวลา ข้าพเจ้าประทับใจในความมีน้ำใจของอายในครั้งนั้นมาก ทุกครั้งที่ข้าพเจ้ามีความสุขก็สุขด้วย คงจะรู้แล้วว่าทำไมอายถึงเป็นเพื่อนรักและเพื่อนสนิทของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ปฏิบัติตนอย่างที่อายได้ปฏิบัติกับข้าพเจ้าด้วยดีตลอด ฐานะไม่ใช่อุปสรรคที่ขัดขวางความเป็นเพื่อนสนิทของเรา ข้าพเจ้าคิดเสมอว่าอายคือเพื่อนรักและแสนดีของข้าพเจ้าตลอดไป

คนเราจะอยู่คนเดียวไม่ได้เราต้องมีเพื่อน แต่เราจะต้องเลือกที่จะคบเพื่อนที่เป็นคนดีมีน้ำใจ
และมีความเสียสละ ชักชวนทำในสิ่งที่ดีๆต่อประเทศชาติและบ้านเมือง “มีเพื่อนดีหนึ่งคนเหมือน
กับมีเพื่อนหลายคน”

นายมนูศักดิ์ อุ่นตลาด กล่าวว่า...

นายมนูศักดิ์ อุ่นตลาด
รหัสนิสิต 52011011486 กลุ่ม 1 ระบบปกติ
ปี 1 HOS
เรียงความเรื่องที่ประทับใจ
คำว่าเพื่อน ทุกคนอาจมีความคิดที่แตกต่างกันไปแต่สำหรับผม คิดว่าเพื่อนคือคนที่อยู่ข้างเราทุกเวลาไม่ว่าจะเศร้า เสียใจ ร้องไห้ สนุกเฮฮา มันก็ยังอยู่กับเราตลอดเวลาและที่สำคัญปรึกษาได้ทุกเรื่องส่วนใหญ่ผมคิดว่าทุกๆคนเวลามีเรื่องอะไรจะปรึกษาเพื่อนก่อน พ่อ แม่ซะอีก ดังนั้นคำเพื่อนสำคัญมากสำหรับผม
ผมมีเพื่อนคนหนึ่งที่รู้จักกันตอน ม.4ซึ้งเราเล่นด้วยกันตลอดไม่ว่าจะไปไหนก็ตามมีวันหนึ่งผมได้รู้จักมันเพราะเกมส์ออดิชั่นบางคนอาจงงว่ามันคือเกมส์อะไรแต่บางคนก็อาจรู้จักเข้าเรื่องเลยนะครับตอนนั่นผมไปนั่งอยู่ในกลุ่มเพื่อนซึ้งมีมันอยู่ด้วยก็นั่งคุยกันตามประสาเด็กขึ้น ม.4และมันเป็นคนเข้ามาถามผมว่าเลนเกมส์ออดิชั่นเป็นป่าว ผมเลยบอกว่าเล่นไม่เป็น มันเลยบอกว่าเออเดี๋ยวสอนให้ ผมเลยบอกว่าเออก็ได้ตั้งแต่วันนั้นก็เริ่มสนิทกันเวลาเลิกเรียนก็จะไปแวะร้านเกมส์ทุกวันเลยจนผมเล่นเป็นนานไปรู้สึกว่าเบื่อเลยเลิกเล่นซักพักหนึ่งแต่ไม่ได้เลิกเป็นเพื่อนกันมันเป็นคนที่ตลกมากและผมก็เป็นคนตลกเหมือนกันอยู่ด้วยกันยิ่งตลกไปใหญ่เพื่อนๆในห้องมักจะตะโกนด่าพวกเราสองคนว่ารำคาญเป็นประจำแต่ก็ไม่เคยทะเราะกันรุนแรงเพื่อนในห้องบอกว่ากุชินแล้วกับเสียงกระจุ๊กกระจิ๊กเอะอะโวยวายสองคนพวกมึง
มีวันหนึ่งอาจารย์นัดจ่ายค่าเรียนพิเศษผมได้ใช้ตังค์ที่แม่ให้มาจ่ายหมดเลยยืมมัน มันบอกว่ายังไงรู้มั้ยครับตอนนั้นผมตื่นเต้นมาก มันบอกว่า......เอาเท่าไหร่ผมโครตดีใจเลยผมบอกว่า2000บาทมันบอกว่าเออเดี๋ยวเอาให้ผมเลยได้เอาไปจ่ายอาจารย์พวกเราคอยช่วยเหลือกันตลอดเวลามีอีกอีกมากมายที่เราผ่านมาด้วยกันแต่สุดท้ายก็ผ่านมันไปได้จนวันสุดท้ายต้องแยกจากกันคือจบ ม.6เราร้องไห้และกอดกันให้ของขวัญกันและเวลาผ่านไปถึงแม้จะไม่ได้เรียนที่เดียวกันแต่เราก็ยังติดต่อกันเสมอเพราะมันใช้โปรโมชั่นโทรฟรี555555555555555+
สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกว่า
เพื่อนคือ...ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ยิ่งกว่าแฟนก้อว่าได้ ไม่ตามใจมัน ก็ไม่ด่า
แต่ถ้ามันไม่ตามใจ เราก็ด่าได้ โดยที่มันและเราไม่โกรธกัน
เพื่อนเมื่อโกรธกันสามารถกลับมาคืนดีกันได้ โดยไม่ต้องเก็บความสงสัยว่า เรื่องที่โกรธกันคืออะไร ผ่านแล้วก็ผ่านไป
เพื่อนคือที่พึ่ง ยามเป็นทุกข์
เพื่อนคือที่ปรึกษา ตั้งแต่เรียน ทำงาน จนจะแต่งงานก็ยังต้องปรึกษามัน
เพื่อนคอยสับรางเวลารถไฟจะชน
เพื่อนคอยโกหกพ่อแม่เวลาไปเที่ยวแต่บอกว่าไปทำงาน
เพื่อนคอยบอกแฟนว่าเรากำลังอยู่กับมัน ทั้งที่จริงเราไม่ได้อยู่กับมันหรอก
และเพื่อนก็คือ คนจ่ายค่าข้าวเวลาเราไม่มีเงิน
เพราะฉะนั้นทุกคนต้องเลือกสิ่งที่มีค่ามากกว่า และสิ่งที่เราเลือก สิ่งนั้นก็คือ ''เพื่อน''
เพื่อน คือ กระดาษทิชชู...เมื่อยามที่เราร้องไห้ไม่หยุด
เพื่อน คือหัวไหล่...ให้เราซับ เมื่อเรารู้สึกย่ำแน่
เพื่อนรับฟังทุกอย่าง...เวลาเรามีเรื่องจะพูด
เพื่อน คือไม้ดามหัวใจ...เวลาที่คุนอกหัก
เพื่อน คือ กาว...เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างดูจะแตกสลาย
เพื่อน คือ แสงอาทิตย์...เมื่อฝนไม่หยุดตก
เพื่อนคล้ายกับแม่...หากเราต้องขึ้นโรงพัก
เพื่อน คือความรักที่คุณไม่ต้องค้นหา และ ผมหวังว่า..มิตรภาพระหว่างเราจะเป็นแบบนี้ตลอดไป

ศุภกฤต วังคะฮาต กล่าวว่า...

นายศุภกฤต วังคะฮาต รหัสนิสิต 52011214201 ICT กลุ่ม 1 ระบบปกติ




เพื่อน เพื่อน เพือน และเพื่อนมันคือคำที่มีความสำคัญมากับการดำรงชีวิตของมนุษย์เนื่องจากคนๆนึงมิอาจอยู่บนโลกใบนี้ได้ด้วยเพียงลำพังเพื่อนนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นมนุษย์ด้วยกันก็ได้เพราะ คำว่าเพื่อนเป็นคำนี่มนุษย์นิยามขึ้นมาเพื่อที่จะหาสิ่งที่ตนเองเรียกและหาบุคคลบุกคลหนึ่งที่จะมาเข้าใจและช่วยอ่ะไรๆหลายๆอย่างให้ดีขึ้นเพื่อนแต่อันที่จริงแล้วเราไม่สามารถนิยามคำว่าเพื่อนได้อย่างตายตัวหรอกเพราะแล้วแต่ล่ะคนจะคิด เพื่อนอาจเป็น สุนัข อาจเป็นขอนไม้ก็ได้ หากบุกคลนันจะคิดว่าสิ่งนั้นเป็นเพื่อน แต่เพื่อนที่ผมประทับใจและอยากพูดถึงเค้าในตอนนี้คือเพื่อน ที่ชื่อ ณิชาภา เจริญรัตน์ ใช่ครับ เพื่อนผมคนนี้เป็นผู้หญิง มีหลายคนครับที่มีเพื่อนเป็นผู้หญิง หลายคนมองว่าการมีเพื่อนผู้หญิงเป็นสิ่งที่แปลกมาก ผมก็ว่ามันแปลกมากครับ เพราะว่าบางทีผมรู้สึกหวั่นไหวยังไงก็บอกไม่ถูก ก็ผู้ชายกับผู้หญิงเป็นเพื่อนกันผู้หญิงอาจไม่คิดอ่ะไร แต่ผู้ชายอย่างผมสิ ผมคิดน่ะ จะก้าวต่อเป็นเฟนกันดีไมน้าในเมื่อเราก็สนิดกันปานนี้ทำไมเขาเข้าใจเราจัง คิดอ่ะไรกับเรารึป่าว ถ้าคิดเราเป็นแฟนกันดีไหมน้า ผมเคยคิดครับแต่ผมก็สามารถผ่านช่วงนั้นมาได้ทำให้ผมเข้าใจว่าการที่เราผ่านจุดๆนั้นมาได้ทำให้เราได้เพื่อนที่เหมือนแฟนการมีแฟนเป็นสื่งที่ดีครับแต่บางครั้งก็ไม่ใช่เสมอไปแต่การมีเพื่อนที่เหมือนแฟนสิเข้าทำกับเราเหมือนแฟนแต่เข้าไม่ได้ขีหึงเหมือนแฟนมันรู้สึกดีครับและทำให้ผมรู้สึกประทับใจเพือนคนนี้มาก และผมก็อยากจะให้มันเป็นอย่างนี้ตลอดไป แต่ผมคิดว่าถ้าวันได้วันหนึ่งเพือนผมคนนี้มีคนที่รู้ใจ ผมก็เข้าใจและพร้อม ที่จะยินดีกับเขาแลผมก็รู้ได้ว่าการกระทำต่างๆคงไม่เหมือนเดิมเพราะแฟนของเพื่อนผมคงไม่ยอมให้มาทำอย่างนี้กับคนที่ไม่ใช่แฟน


แต่เธอก็ทำให้คำว่าเพื่อนคำนี้ติดตรึงอยู่ใจสมองของผมไปตราบนานเท่านาน ผมคงจะไปมาหาสู่เธอเป็นประจำครับเพราะเธอเป็นเพื่อนรักของผม

วรเชษฐ์ กล่าวว่า...

นายวรเชษฐ์ แสงศักดิ์
รหัสนิสิต 50010514033 ETC
กลุ่มเรียนที่ 1


เพื่อนที่ผมประทับใจที่สุด ชื่อ นายพรทวี วันไชย ชื่อเล่นว่า ต่าย
เราเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ ม.1 และสิ่งที่ทำให้ผมประทับใจในตัวเพื่อนคนนี้ก็คือ ต่ายเค้าจะเป็นคนที่เสียสละ เป็นเพื่อนที่ดี มีนิสัยแบ่งปัน จะทำอะไรก็จะคิดก่อนเสมอ หากเพื่อนทำอะไรไม่ถูกหรือไม่ดีต่ายเค้าก็จะคอยเตือนอยู่เป็นประจำ นอกจากนี้ต่ายยังเป็นคนเรียนเก่ง เรียนรู้เร็ว จดจำสิ่งที่เรียนได้ดี และยังเป็นคนที่คำนวณได้รวดเร็ว มีความเป็นผู้นำ ทำนาเก่ง
แต่สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจในตัวเพื่อนคนนี้มากที่สุด คือ ต่ายจะไม่เหมือนกับเด็กเรียนทั่วไปที่ชอบทำตัวเรียบร้อย ประพฤติตนอยู่ในกรอบ แต่ต่ายจะเป็นคนประเภทที่ว่า “กฎมีไว้แหก” คือไม่ค่อยชอบถูกควบคุม รักความอิสระ ไม่ชอบความซ้ำซากน่าเบื่อ เพราะพื้นฐานนิสัยของต่ายเป็นคนเฮฮา สนุกสนาน ดังนั้นจำทำให้เขาชอบหาอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ทำ เป็นคนที่กระตือรือร้น แต่ก็ไม่เคยทำเรื่องเสียๆหายๆ ไม่ถึงขั้นเป็นเด็กนิสัยเสีย
เพื่อนผมคนนี้ถึงแม้จะเรียนเก่ง นิสัยดี แต่ฐานะทางบ้านของเขาไม่ค่อยจะดีนัก ต่ายนั้นสอบติดคณะวิศวะที่ ม.สารคามได้ แต่ไม่มีเงินพอที่จะมามอบตัว เขาจึงไม่มีโอกาสได้เรียน แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ยอมแพ้ หลังจบ ม.6 ต่ายเข้ากรุงเทพไปหางานทำ เพื่อที่จะหาเงินมาเรียนต่อ ม.ราม แต่ด้วยงานที่ทำนั้นยุ่งมาก จึงทำให้เขาไม่มีเวลาไปสมัครเรียน
ปัจจุบันเพื่อนคนนี้ของผมบวชเป็นพระแล้ว อยู่ที่วัดแถวบ้าน โดยการบวชครั้งนี้ของเขา เป็นการบวชทดแทนพระคุณพ่อแม่ ถึงอย่างไรความสัมพันธ์ของผมกับเพื่อนคนนี้ก็ยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ โดยเราจะเป็นเพื่อนรักที่ไม่มีวันทิ้งกัน และจะครองมิตรภาพของกันและกันตลอดไป

threerawat กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
threerawat กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
threerawat กล่าวว่า...

นาย ศิวดล สัสดีไกรสร
รหัสนิสิต 52010913551 BC กลุ่มเรียนที่ 1
เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ

หลากหลายสถานการณ์ที่ทำให้คนเราได้เป็นเพื่อนกันการเจอกันโดยบังเอิญอาจทำให้ เพื่อน ดูยิ่งใหญ่หรือวคามบาดหมางบางอย่างความขุ่นข้องหมองใจสามารถจบลงได้ด้วยความเป็นเพื่อนกัน เราอาจเจอใครบางคนที่เมื่อตอนเราร้งไห้ไม่อยากไปโรงเรียนตอนอนุบาลแล้วก็เล่นด้วยกันจนไม่อยากกลับบ้านหรือการถามคำถามคนแปลกหน้าที่พอดูได้ตอนปฐมนิเทศแล้วก็กลายเป็นเพื่อนกันจนทุกวันนี้ เหล่านั้นก็สามารถเรียกว่าเพื่อนได้ เพื่อนของฉัน...?มีหลายคนเนื่องจากว่าฉันเป็นคนที่ไม่ชอบเข้ากลุ่มกับเพื่อนจึงไม่มีใครสนิทสนมเป็นพิเศษมากนัก เพราะการที่จะให้ฉันเดินเอื่อยๆไปไหนต่อไหนกับคนราว5-6คน เป็นเรื่องที่ฉันจะใจขาดตายก่อนเสียให้ได้ แต่กระนั้นก็มีเพื่อนที่เข้ามาพอที่จะไว้ใจหรือสนิทสนมกันได้ เพราะเล่นด้วยกันมาตั้งแต่อยู่ม.1แต่สนิมสนมเข้าจริงก็ตอนที่อยู่ม.4เพื่อนของฉันคนนี้เกิดในครอบครัวที่ทำการค้าขายพ่อแม่สู้ชีวิตจนประสบความสำเร็จเริ่มแรกครอบครัวของเขาตั้งมั่นอยู่ที่เลข1หรือพึ่งเริ่มสร้างทุกอย่างขึ้นมากจากศูนย์ แต่เมื่อแม่ของเขานั้นผันอาชีพไปเป็นแม่ค้าตลาดสดก็ทำให้ฐานะทางบ้านดีขึ้นสร้างรายได้ มากกว่าอาชีพของพ่อซึ่งเป็น รปภ.โรงเรียนเสียอีก เมื่อมีฐานะดีขึ้นบ้านของเขาจึงเปิดกิจการร้านค้าที่ได้กำไรดีจากที่นาผืนเล็กก็สามารถกว้านซื้อที่นาได้หลากหลายขึ้นกระนั้นลักษณะส่วนตัวของเขาก็ยังไม่ปรับไปทางการประหยัดอดออมเขาขอเงินแม่เมื่อต้องการ หรือบางเวลาจะชอบยกตนข่มเพื่อเนื่องจากรสนิยมการใช้ข้าวของสูง หากแต่เราสนิทกันจึงพลอยทำให้ฉันซึมซับเอาความเป็นค่านิยมต่างๆเข้าไปด้วยช่วงหนึ่ง เพราะเวลาที่เราจะไปไหนในวันว่างมักจะทำอะไรเข้ากันโดยบังเอิญ ความประทับใจในตัวของเพื่อนคนนี้เป็นคนที่ สามารเรียกสติสตังค์กลับมาได้เมื่อจะหลงเข้าสื่งทางที่ฟุ่มเฟือยโดยใช่เหตุเป็นบุคคลเพศที่สามที่มีเสน่ห์กับเพศเดียวกันที่หน้าตาน่ากลัวบ้างพวกที่นิสัยไม่ดีบข้าง แม้เขาจะมีเสน่ห์แต่ความมีระเบียบวินัยของคนอาจดูได้จากที่นอน การเตรียมพร้อมเพื่อมาเรียน หรือการทีชอบจิกเสียดสีเพื่อนในบางโอกาส หากแต่สิ่งนี้จะคลี่คลายลงเมื่อเพื่อนผ่อนหนักผ่อนเบาไม่สนใจมันบ้าง
แม้ปัจจุบันความเป็นเพื่อนของเรานานๆครั้งถึงได้เจอกันเนื่องเมื่อมีการแอดมิสชั่นทำให้หลายๆคนพลัดถิ่นฐานไปอยู่ ณ ที่ขุมอื่นแต่หากนึกภึงความทรงจำดีๆเก่าๆแล้วเมื่อโคจรมาเจอกันก็ทำให้ความสัมพันธ์แนบแน่นขึ้นด้วยซ้ำหลายครั้งที่การเรียนทำให้เราไม่ได้โทรศัพท์คุยกันหรือการออนไลท์ผ่านMSNในการสนทนาแต่เพื่อนและเรื่องดีที่เคยช่วยเหลือกันยังอยู่ในใจเสมอแม่เพื่อนตของฉันหลายคนอาจไม่ใช่เพื่อนตายแต่ก็ทำให้ความเป็นมนุษย์ของฉันสมบูรณ์ขึ้น เมื่อก่อนนั้นฉันก็คลายกับแก็สเฉื่อย ที่ลอยเป็นอิสระไม่ฝักใฝ่เข้าหาใครบุคลิกเรียบร้อยและเกร็งเหมือนเครื่องจักรทำให้หลายคนที่เห็นฉันคิดว่าเป็นลูกทหารโหดแต่เมื่อการมีเพื่อนหรือการมาอยู่ที่มหาสารคามทำให้ฉันมีความเป้นธรรมชาติมากขึ้นฉันมีเพื่อนที่เข้ากันได้มีคนรู้ใจทำให้มีความรู้สึกนึกคิที่เห็นอกเห็นใจคนอื่นที่แปลกออกไป เหล่าเป็นผลพลอยได้จากเพื่อนเพื่อนร่วมชีวิต

Unknown กล่าวว่า...

นาย พลวัฒน์ สายชนะ
50011311037 lh กลุ่ม 1
เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ
เพื่อนคำที่หลายคนรู้ดีว่า คือคนที่เรารัก รู้จัก และไว้ใจ และมีความหมายที่ไม่อาจจะกล่าวถึงอีกมากมาย
มนุษย์ไม่สามารถที่จะอยู่เพียงคนเดียวได้ฉนั้นมนุษย์ทุกคนต้องมีเพื่อน
เพื่อนของผมนั้นเราคบกันมาได้ไม่นานนัก แต่ความใกล้ชิดความจริงใจที่เรามีให้กัน ทำให้เราเป็นเพื่อนกันอย่างคนที่คบกันมานาน เพื่อนผมชื่อว่า ปิ๊ก เป็นคนที่มีนิสัยร่าเริงแจ่มใส เพื่อนผมเป็นคนตลก เวลาผมไม่สบายใจเพื่อนคนนี้ก็ทำให้ผมสบายใจขึ้นมีปัญหาอะไรเราก็จะปรึกษากัน ผมประทับใจเพื่อนคนนี้มากที่สุดตรงที่เขามีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือเมื่อผมเดือดร้อน ไม่ว่าจะเรื่องอะไร เขาก็จะช่วยผมเสมอ ต่างคนต่างช่วยเหลือกัน ยอมทุกยาก ถือได้ว่าเป็นเพื่อนแท้เลยทีเดียว
ถึงแม้วันนี้เราไม่ได้อยู่ใกล้กันแต่เราก็ยังติดต่อกัน เพื่อนคือเพื่อนเสมอไม่มีวันที่จะเปลี่ยนไปบางคน มีเพื่อนมากมายแต่จะเข้าใจความหมายของคำว่าเพื่อนสักกี่คน เพื่อนคือคนที่เราอยากคุยด้วยเวลาเราไม่สบายใจ ผมคิดว่าการมีเพื่อนเป็นสิ่งที่ดี การที่เรามีเพื่อนนั้นควรที่จะมองดูให้ดี ตามความคิดของผมแล้วการที่เราคบเพื่อนไม่ดีก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เราไม่ดีไปด้วย ดังคำที่ว่า คบคนพาลจริงใจก็ไม่ผิด คบบัณฑิตไม่จริงใจก็ไร้ผล คนก็เหมือนเหรียญมีสองด้านทั้งดี ทั้งเลว
เราก็ควรคบแต่สิ่งที่ดีๆ ที่เขามี จะประทับใจกันไม่มีวันลืม

ธีรศักดิ์ บรณสรรค์ กล่าวว่า...

นาย ธีรศักดิ์ บูรณสรรค์
รหัส 52011211095 สาขา วิทยาการคอมฯ กลุ่มที่ 1

เรียงความเรื่องเพื่อนที่ฉันประทับใจ
เพื่อนของผมชื่อ นาย ทวีศักดิ์ แซ้โล้ ชื่อเล่น บูม
ที่บ้านเขาเปิดธุรกิจส่วนตัวที่บ้านของเขามีน้องชาย 1 คนชื่อ บิ๊ก และเราเรียนโรงเรียน อุดรพิทยานุกูล อุดรธานี ผมได้เจอกับบูมในตอนมัธยมศึกษาปีที่ 1เขาเดินเข้ามาทักทายกับผมอย่างเป็นมิตร ตอนไปเรียนตอนแรกผมไม่มีหนังสือเขาก็ได้ให้ดูหนังสือด้วยและเขาก็บอกว่าถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้เพราะเราเป็นเพื่อนกันมีอะไรให้ช่วยกัน ผมมักมีอะไรมาให้เขาช่วยอยู่เสมอๆ เพราะผมเป็นคนไม่ค่อยเตรียมพร้อมอะไรเลย ส่วนมากจะเป็นเรื่องเรียนที่ให้เขาช่วยอยู่บ่อยๆแต่เขาก็ไม่บ่นอะไรสักคำ แต่ผมก็เคยช่วยเขาอยู่หลายเรื่องเหมือนกัน แต่เราก็ยังไม่สนิทกันสัเท่าไรเพราะพอถึงเวลาเล่นผมก็ไปเล่นกับเพื่อนอีกกลุ่ม แต่พอได้ขึ้นมัธยมปลายเพื่อนในกลุ่มก็เริ่มแยกย้ายกันไป ผมก็ได้อยู่ห้องกับบูมอีกเราก็ต่างไม่มีเพื่อนก็เลยได้ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดจนสนิทกันแล้วผมก็เลยคิดว่าคนนี่คือ"เพื่อนแท้ของผม" เพราะเราก็ยังคงช่วยเหลือกันอยู่ตลอดพอวันหยุดผมก็จะไปเล่นที่ร้านขายของชำที่บ้านเขาแล้วก็ช่วยเขาบางเช่น ยกของ ถึงบางครั้งเราอาจเคยโกรธกันเพราะเรื่องเล็กๆ แต่เราก็ให้อภัยกันได้
เรื่องที่ผมประทับใจในตัวของเพื่อนคนนี่คือ
เขาป็นคนที่มีน้ำใจชอบช่วยเหลือเพื่อนคนอื่นแล้วก็เป็นคนที่อารมณ์ดีตลอด เขาเป็นคนที่เรียนเก่งในระดับต้นของห้องเสมอ จนเราได้สอบเขาก็ยังค่อยมาติวหนังสือให้เพื่อนๆอยู่เสมอ เขาสอบติดที่ๆเขาชอบส่วนผมก็เหมือนกันสอบติดในที่ๆชอบแต่เราอยู่ห่างไกลกันแต่เราก็ยังจะเป็นเพื่อนกันต่อไปเสมอ

Unknown กล่าวว่า...

นางสาวหทัยทิพย์ กาสี
รหัสนิสิต 51010918579 สาขา บัญชีบัณฑิต
กลุ่มเรียนที่ 1

เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ
คุณค่าของคำว่า "เพื่อน" คือ สิ่งที่ช่วยให้เรามองเห็นค่าของมิตรภาพ เพพื่อนจะอยู่กับเราไปจนตายไม่มีวันเลิกรา เพื่อนคือคนที่เราให้คำปรึกษาและให้คำปรึกษาเราได้เสมอ ยามที่เราทุกข์หรือท้อเพื่อนจะอยู่เคียงข้างเราเสมอ เพื่อนกันอาจมีทะเลาะกันบ้างแต่ก็กลับมาคืนดีกันทุกครั้งเพราะมิตรภาพระหว่างเพื่อนไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
เพื่อนที่ข้าพเจ้าประทับใจเค้าชื่อว่า พรนิภา เพ็ชรไทย ชื่อเล่นว่า แป้ง เกิดวันที่ 23 กรกฎาคม 2532 อายุ 20 ปี เรียนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี นครราชสีมา แป้งอาศัยอยู่กับย่าเพียงสองคน พ่อและแม่ของแป้งประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตั้งแต่แป้งยังเด็ก แป้งมีพี่น้องด้วยกัน 2 คน เป็นน้องชายแต่น้องชายของแป้งก็เสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วนี่เอง เนื่องจากน้องชายของแป้งค่อนข้างจะเกเรชอบเล่นชอบเที่ยว สาเหตุที่เสียชีวิตคือประสบอุบัติเหตุด้วยรถจักรยานยนต์ ทุกวันนี้แป้งก็อาศัยอยู่กับย่าเพียงสองคน แต่ยังโชคดีที่มี อา ลุง ป้า และญาติพี่น้องคอยช่วยเหลือทุกอย่างรวมทั้งส่งแป้งเรียนด้วย แป้งเป็นคนที่กตัญญูรู้คุณ และยังเรียนเก่งอีกด้วย แป้งเป็นคนที่น่ารักนิสัยดีกิริยามารยาทเรียบร้อย ใครที่รู้จักหรือเคยได้พูดคุยกับแป้งก็จะรู้ได้เลยว่าแป้งเป็นคนยังไง ทุกคนจะหลงเสน่ห์แป้ง ข้าพเจ้าและแป้งจะสนิทกันมาก เรารู้จักกันตอน ม.5 เพราะตอน ม.4 เราไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน ตอนได้คุยกับแป้งครั้งแรกก็รู้สึกว่ารักเพื่อนคนนี้ทันที แต่รักแบบเพื่อนกันน่ะ เพราะแป้งพูดจาไพเราะมาก บ่งบอกถึงทุกอย่างเลยทั้งนิสัยกิริยามารยาทอะไรต่างๆ แป้งมีหมดเลยในตัวแป้ง แป้งถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าห้อง และข้าพเจ้าเองนี่แหละเป็นคนเสนอแป้งขึ้นมา เพื่อนๆหลายคนก็เห็นด้วยเป็นเสียงส่วนใหญ่ แป้งก็เลยได้เป็นหัวหน้าห้อง และแป้งก็ปฏิบัติหน้าที่นี้ได้ดีมากเลยทีเดียว เราทั้งสองจะคอยเป็นห่วงกันตลอด บางครั้งในยามที่แป้งไม่สบายหรือว่ามีปัญหาอะไรไม่สบายใจแป้งก็จะมาคอยปรึกษาหรือโทรมาบอกว่าเป็นอะไร ข้าพเจ้าก็จะเป็นห่วงแป้งมาก บางครั้งก็จะรีบไปหาแป้งทันทีเลยอยากรู้ว่าแป้งเป็นอะไรมากรึป่าว แป้งก็จะเป็นเหมือนข้าพเจ้านี่แหละเวลามีปัญหาหรือไม่สบายแป้งก็จะคอยเป็นห่วงเหมือนกัน เราทั้งสองจะคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันเสมอไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม และเราก็ไม่เคยทะเลาะกันเลยแม้แต่ครั้งเดียวเพราะเราจริงใจต่อกันเสมอทุกๆเรื่องเลย สิ่งที่ข้าพเจ้าประทับใจในตัวแป้ง คือแป้งเป็นคนที่ตั้งใจเรียน เรียนเก่งด้วย น่ารัก นิสัยดี มีความมุ่งมานะสูง กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ไม่เคยออกนอกลู่นอกทางเลยสักครั้ง และทีสำคัญเลย แป้งไม่เคยมีปัญหาที่ทำให้ตัวเองเสื่อมเสียในทางชู้สาวหรือเรื่องรักในวัยเรียน เพราะแป้งไม่เคยมองใครและไม่เคยคบใครเลย เพราะแป้งบอกว่ามันยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้แป้งยังเรียนอยู่เรื่องความรักยังอีกยาวไกลมันเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ขออยู่กับปัจจุบันเรื่องอนาคตค่อยว่ากันทีหลังขอเรียนก่อน นี่คือสิ่งที่แป้งบอกกับข้าพเจ้า และปัจจุบันนี้แป้งก็ยังยึดถือคตินี้อยู่ แล้วข้าพเจ้าก็เชื่อมั่นในตัวแป้งเสมอ เพราะแป้งไม่มีทางทำให้ครอบครัวผิดหวังอย่างแน่นอน
เพื่อนช่วยเพื่อน ตลอดไป ได้เสมอ เพื่อนจะเผลอ เพื่อนจะพลาด ซักแค่ไหน ความเป็นมิตร ยังติดอยู่ คู่แรงใจ ให้ก้าวไป ในสิ่ง ที่ต้องการ
เพื่อนจะทุกข์ เสียน้ำตา และร้องไห้ ความห่วงใย ทีมีนั้น ยังคอยสาน ประกอบใจ ของเพื่อนนี้ ที่แหลกราญ พาพ้นผ่าน ความทุกข์ช้ำ ที่ค้ำใจ แม้เวลา เนิ่นนาน ผ่านจากนี้ แต่สิ่งดี จะยังอยู่ ไม่หวั่นไหว ถึงเวลา จะผ่าน นานเท่าไร
คำว่าเพื่อนไม่มีวันหายไปไหน จะเป็นเพื่อนกัน จะคอยให้คำปรึกษากัน จะคอยให้กำลังใจกัน จะคอยอยู่ข้างๆช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอดไปกับเพื่อนคนนี้ที่ชื่อ "แป้ง"

lingkarn กล่าวว่า...

นางาสาวสุกาญดา นิระภัย 51010914187
คณะการบัญชีและการจัดการ สาขาเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ


เพื่อนที่ข้าพเจ้าประทับใจ

มีใครหลายได้ให้คำนิยามของคำว่าเพื่อนไว้หลากหลาย ต่างคนก็ต่างความคิดต่างคำนิยาม เช่น เพื่อนคือคนที่คอยช่วยเหลือเรา เข้าใจเรา รับฟังปัญหา เป็นที่พึงในยามยาก เป็นเพื่อนคุยให้เราไม่ต้องเหงา เป็นต้น และเพื่อนก็มีหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น เพื่อนกิน เพื่อนตาย เพื่อนทุกข์ เพื่อนยาก เพื่อนแท้ เพื่อนคุย เพื่อนรู้ใจ เพื่อนสนิท ต่างก็เป็นเพื่อนกันทั้งสิ้น

และในที่นี้ข้าพเจ้าจะขอกล่าวถึงเพื่อนที่ข้าพเจ้าประทับใจ ซึ่งเขาคนนี้เป็นทั้งเพื่อนสนิท เพื่อนแท้ เพื่อนรู้ใจ มีนิสัยคล้ายๆกัน เขาคนนี้มีชื่อว่า จรัญญา สายสุริยา ชื่อเล่นชื่อ น้ำหวาน
เรียนอยู่คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นคนอำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ข้าพเจ้าเป็นเพื่อนกับเขามาได้ 1ปีแต่ความรู้สึกของข้าพเจ้ารู้สึกว่าเหมือนเรารู้จักกันมานานหลายสิบปี
เห็นครั้งแรกรู้สึกถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกว่าคนนี้มีอะไรที่พิเศษ แปลกไม่เหมือนใครและนิสัยก็คล้ายกัน เขาเป็นคนที่มีจิตใจดีมากอีกคนหนึ่ง คอยช่วยเหลือ คอยรับฟังปัญหาต่างๆ คอยบอกกล่าวตักเตือน เป็นคนที่มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ อัธยาศัยดี เข้ากับผู้อื่นได้ดี พูดจาไพเราะ และสิ่งที่ข้าพเจ้าประทับในตัวพื่อนคนนี้ไม่เคยลืมเลย ก็คือว่า วันนั้นเราไปเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ด้วยกัน แล้วพอดีโรคกระเพาะซึ่งเป็นโรคประจำตัวของข้าพเจ้า ได้กำเริบ ปวดท้องมากๆ น้ำหวานเขาก็เป็นทุกข์เป็นร้อนด้วย เขาดูเป็นกังวลมาก คอยห่วงใยคอยสอบถามอาการว่าเป็นอย่างไรบ้าง ดูแลทุกอย่าง เขาพาไปกินข้าว แล้วก็วิ่งไปซื้อยามาให้ เขาวิ่งข้ามถนนทั้งๆที่ตัวก็กลัวรถและข้ามถนนไม่ค่อยเก่ง แต่เขาก็ยอมไปหาซื้อยามาให้ นี่แหละคือสิ่งที่ข้าพเจ้าประทับใจในตัวเขาและก็ได้รู้ซึ้งถึงคำว่าเพื่อน

จากที่กล่าวมานั้นก็เป็นอีกหนึ่งในคำนิยามของคำว่าเพื่อนอีกเช่น และการคบเพื่อนนั้นก็ควรที่จะเลือกคบเพื่อน เพราะในปัจจุบันส่วนใหญ่นั้นจะเป็นพวกที่รู้หน้าไม่รู้ใจ ไม่รู้ว่าเค้าคิดดีหรือคิดร้ายกับเราเพราะสังคมไทยเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไป ส่วนมากเรื่องที่ขึ้นต่างๆ ก็เพราะความไว้ใจ
นี่แหละ การคบเพื่อนควรที่จะคบเพื่อนที่ดีหรือเพื่อนไม่ดีนั้น มันจะส่งผลต่อตัวเราด้วย ดังคำที่กล่าวไว้ว่า “คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล”

จรัญญา กล่าวว่า...

นางสาวจรัญญา สายสุริยา 51010513065
คณะศึกษาศาสตร์ สาขาภาษาไทย

เพื่อนที่ประทับใจ

มนุษย์ทุกคนตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาบนโลกย่อมได้รับการเลี้ยงดูจากครอบครัวและญาติผู้ใหญ่ เราไม่สามารถเติบโตได้ด้วยตัวเอง ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ในขณะที่เป็นเด็ก เมื่อโตมามนุษย์ล้วนต้องรู้จักการเข้าสังคม การเรียนรู้สังคมอื่นนอกเหนือจากสถาบันครอบครัว เพื่อเป็นการสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่น ทำให้มนุษย์สามารถดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขด้วยการช่วยเหลือเกื้อกูลกันในสังคม
หากจะกล่าวถึงมิตรภาพในสังคมมนุษย์ย่อมเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงวัยรุ่น ฉันก็เป็นผู้หนึ่งที่ถือว่ามิตรภาพระหว่างเพื่อนเป็นสิ่งสำคัญและเมื่อมีโอกาสเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยมหาสารคามแห่งนี้ ซึ่งได้ว่าในระดับนี้เป็นการเพื่อนแท้ที่ยากที่สุด เราถูกเตือนเสมอว่าไม่ควรไว้ใจเพื่อนในมหาวิทยาลัย แต่สำหรับฉันถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดที่ได้มีโอกาสเจอเพื่อนแท้คือ นางสาวสุกาญดา นิระภัย นิสิตคณะการบัญชีและการจัดการ เอกเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ ลูกหลานย่าโม ได้ยินแค่นามสกุลก็รู้สึกว่าอยู่ใกล้แล้วปลอดภัยทางด้านร่างกายและจิตใจ เหมือนพรหมลิขิตที่ทำให้เราทั้งคู่มาเจอกันและได้พบคำว่าเพื่อนแท้ ตั้งแต่เข้าปี 1 เราทั้งสองถึงแม้จะต่างคณะกัน แต่เขาก็พักหอพักข้างกัน ตอนแรกเราไม่รู้จักกันแต่เพาะฉันมีเพื่อนที่พักอยู่หอเดียวกันกับสุกาญดา วันแรกแห่งการสานสัมพันธ์ด้วยการทักทายกันข้ามหอ มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนว่าเรารู้จักกันมานาน อยู่มหาวิทยาลัยต้องทำกิจกรรมมากมายมีการปรับตัวการใช้ชีวิต และคิดถึงบ้านเพราะต้องไกลบ้านมาอยู่คนเดียว แต่เมื่อรู้จักกับเพื่อนคนนี้เธอทำให้ฉันหายเหนื่อย คอยช่วยเหลือให้คำแนะนำ เมื่อมีปัญหาคนแรกที่ฉันคิดถึงก็คือเธอคนนี้ ฉันจึงประทับใจตัวของเขา ฉันสัญญากับตัวเองว่าจะรักษาความเป็นเพื่อนของเราไว้จนกว่าลมหายใจของฉันจะหมดสิ้น
มิตรแท้อาจไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยกับชีวิตของมนุษย์เรา แต่สำหรับฉันเพื่อนคนนี้ เป็นที่ทุกสิ่งทุกอย่างให้กับฉัน ฉันอยากจะขอบคุณเพื่อนคนนี้ที่ถือว่าฟ้าสั่งให้เธอมาเพื่อทำให้ฉันได้เรียนรู้กับคำว่า มิตรภาพ ช่วงเวลาดีที่เกิดขึ้นระหว่างเรานั้น ในวันใดที่เราต้องไกลกันฉันจะขอจดจำและสัญญาว่าเราทั้งสองจะเคียงคู่ความสำเร็จไปด้วยกัน

อัญชนันท์ กล่าวว่า...

นางสาวอัญชนันท์ อุดมโภชน์
รัหสนิสิต 50010520025 PSY กลุ่มเรียนที่ 1
เรียงความเรื่อง เพื่อนที่ประทับใจ
คำว่าเพื่อนมีความหมายมากกว่าที่คิด เพื่อนเป็นที่ปรึกษาเวลาเรามีปัญหา เวลาที่ไม่มีใคร จะมีเพื่อนค่อยเป็นห่วงเป็นใย และค่อยเข้าใจเราเสมอ เวลาที่ไม่สบายใจก็สามารถพูดคุยกันได้ตลอด เพื่อนเป็นคำหนึ่งคำที่มีความหมายที่ยากที่จะบรรยายออกมาได้หมด มีความสุขที่ได้อยู่กับเพื่อน มีความรักให้กันและกันเสมอมา
เพื่อนของฉันที่ประทับใจคนนี้เป็นคนอัธยาศัยดีมาก เข้ากับคนอื่นได้ง่าย เป็นคนชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความเสียสละ ใจบุญ ใจดีมาก เพื่อนคนนี้เราคบกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4 จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังคงความเป็นเพื่อนอยู่เสมอ เพื่อนคนนี้ ชื่อ จรัสพร บุญวิเศษ ชื่อเล่น ไข่นุ้ย
เพื่อนคนนี้เรียนคณะสาธารณสุขศาสตร์ ปี 3 จะมีลักษณะตัวไม่ค่อยสูงหนัก อวบๆ เป็นคนพูดเร็วฟังแล้วไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ต้องบอกให้พูดช้าๆถึงจะรู้เรื่อง เวลาเพื่อนไม่มีเงินก็ให้ยืม จะอาสาทำงานให้เพื่อนอยู่เสมอ ความสัมพันธ์กับไข่นุ้ยคบกันมานานหลายปี ตอนเรียนมัธยมปลายจะอยู่กลุ่มเดียวกัน ไปไหนมาไหนเราก็จะไปด้วยกันเป็นกลุ่มตลอด ไม่ว่าจะทำอะไรเพื่อนทุกคนในกลุ่มก็จะทำด้วยกัน ถึงแม้ว่าตอนนี้เราต่างคนต่างเรียนคนละสถาบันต่างคณะแต่ก็ยังเป็นเพื่อนกันตลอดไป พอมีเวลาว่างหรือเปิดเทอม พวกเราก็จะมาร่วมกลุ่มของเราเหมือนเดิมอย่างที่เคยเป็น สนุกสนานเฮฮาเหมือนเดิม ไข่นุ้ยก็ยังเป็นที่ปรึกษาของเพื่อนๆในกลุ่มเหมือนเดิม
สิ่งที่ประทับใจในเพื่อนคนนี้ คือ เขาเป็นคนมีน้ำใจ ช่วยเหลือเพื่อน เอื้อเฟื้องเผื่อแผ่แก่เพื่อนๆทุกๆคน เสียสละ ใจบุญมาก ทำให้เพื่อนทุกคนชอบเขาที่เขาเป็น และนิสัยที่ดีของเขา ไข่นุ้ยจะมีน้ำใจกับเพื่อนที่ขาดเหลืออะไรเขาจะให้หยิบยื่นมาให้เสมอ จะเป็นคนใจบุญชอบสะสมฝาหรืออะไรที่เขาจะทำให้คนพิการ ไข่นุ้ยจะเก็บสะสมแล้วจะเอาไปบริจาค เหมือนเพื่อนคนหนึ่งเขายืมเงินว่าไม่มีเงินใช้ ไข่นุ้ยก็ให้เพราะว่าเป็นเพื่อนที่จริงแล้วเพื่อนคนนี้เอาเงินไปทำอย่างอื่น ถึงไข่นุ้ยจะโนเพื่อนดกหกยืมเงินเขาก็ยังให้ยืมเหมือนเดิม ทั้งที่รู้ว่าเงินนั้นคงจะไม่คืน ช่วยเหลือเพื่อนทุกคน หรืออาสาทำให้ เมื่อมีงานที่พอจะช่วยได้ก็จะอาสาทำเอง จนถึงปัจจุบันนี้แต่ก่อนเคยเป็นอย่างไรก็ยังเป็นอย่างนั้นไม่เปลี่ยนเลย เขาก็ยังคงทำงานต่อไป ทำงานที่เกี่ยวกับค่ายอาสาพัฒนาอีก นี้ก็เป็นสิ่งที่ฉันประทับใจเพื่อนคนนี้นั้นเอง
คำว่าเพื่อนนั้น มีความหมายที่หลากหลายเพื่อนเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องการได้เสมอ เพื่อนทำให้เรามีความสุข รู้สึกดีด้วย มีสิ่งดีให้กันและกัน เพื่อนทำให้เรามีรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ แต่บางทีก็อาจจะไม่เข้าใจกันบางแต่ก็สามารถเข้าใจกันได้ดีอย่างเคย มีความทรงจำที่ดีๆในวันวานที่ผ่านมา ถ้าเราไม่มีเพื่อนก็คงไม่รู้เลยว่าความสัมพันธ์ที่มีให้กันมันดีแค่ไหน ที่มีเพื่อน ทุกคนอยู่ได้ก็ต้องมีเพื่อนค่อยอยู่ด้วย ถ้าไม่มีเพื่อนเราจะเป็นอย่างไร คงจะเหงา
เพื่อนก็ยังคงเป็นเพื่อนเราตลอดไปไม่ว่าจะวันไหน นานแค่ไหน ก็จะมีเพื่อนที่รักและเป็นห่วงเป็นใยเราเสมอไม่ทิ้งกัน จะมีเพื่อนสักกี่คนที่จะมาเข้าใจได้ถึงขนาดนี้

อุมาพร ภูธรรัตน์ กล่าวว่า...

อุมาพร ภูธรรัตน์ 52010911726
ประวัติเพื่อนที่ประทับใจและความสำพันธ์ที่มีต่อเพื่อน
ชื่อเพื่อน นางสาว สุมาริน บุญสมบัติ
ชื่อเล่น เปิ้ล
วันเกิด วันอาทิตย์ ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ 2533
อายุ 19 ปี
กำลังศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
ที่อยู่ 98 หมู่ 12 ต. หนองบัว อ.หนองกุงศรี จ. กาฬสินธุ์ 46220
เบอร์โทร 087-9461201
ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน
ดิฉันได้รู้จักกับเพื่อนตอนที่เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ดิฉันย้ายไปเรียนที่เดียวกันกับเพื่อน เรียนอยู่ห้องเดียวกันตอนพักเที่ยงเราจะไปทานข้าวด้วยกันตลอด จนกระทั้งจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เราสองคนก็ไปเรียนต่อที่เดียวกันแต่จะอยู่คนละห้อง แต่เราสองคนยังเล่นด้วยกันมาตลอด ตอนที่เรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย เราจะเรียนห้องเดียวกัน ตอนเรียนอยู่มัธยมตอนปลายเพื่อนในกลุ่มจะมี 8 คนแต่จะสนิทกับเปิ้ลมากที่สุด เพราะเราจะคุยกันเข้าใจกัน เขาจะเป็นคนที่ชอบซื้อของ สีฟ้า สีส้ม สีแดง ชอบฟังเพลงที่สบายๆ เป็นคนชอบเที่ยว ชอบธรรมชาติ สนุกสนาน ร่าเริง ใจเย็น ชอบช่วยเหลือคนอื่นเป็นเพื่อนที่สามารถเล่าเรื่องที่เราไม่สบายใจให้ฟังได้ แล้วเราจะสบายใจ เราสองคนจะปรึกษากันทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเรียน เรื่องครอบครัว เวลาที่ไปซื้อของเราจะไปด้วยกันตลอด เขาจะเป็นคนพูดตรงไปตรงมา เป็นคนใจดีใจกว้าง คนที่ไม่รู้จักเขาจะว่าเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด แต่จริงๆแล้วเขาเป็นคนพูดเก่ง ใครได้คุยกับเขาแล้วจะรู้สึกสบายใจ เขาจะเป็นที่ไม่กล้าแสดงออก แต่เวลาทำงานเขาจะเป็นคนจริงจังกับงานตั้งใจทำงานมาก เราสองคนจะสนิทกันจะคุยโทรศัพท์กันบ่อยและนานมากเวลาที่เราไม่ได้เจอกันเขาจะคุยกับเรานานกว่าแฟนเขาอีก เรารู้จักกันนาน 12 ปี มีความประทับใจในตัวเพื่อนมากมาย โดยเฉพาะความดี ความเข้าใจ ความรัก ความจริงใจ ทุกข์ใจ เสียใจ เขาจะคอยเป็นกำลังใจที่ดี เป็นเพื่อนยามที่เราจะอยู่กับเราตลอดเวลา ความเป็นเพื่อนที่เรามีต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้

Unknown กล่าวว่า...

นางสาว ศิรินรัตน์ สัตบุตร
รหัสนิสิต 51010912363 2BC กลุ่ม 1

เพื่อนที่ข้าพเจ้าประทับใจ
"เพื่อน”เป็นคำสั้นๆ ที่มีความหมายกว้างขวางมาก กว่าอื่นใดไม่ว่าใคร ๆ ในโลกนี้ทุกคนจะต้องมีเพื่อนกันทั้งนั้น คนเรานั้นจะอยู่คนเดียวโดดเดี่ยวเดียวดายคงจะไม่ได้หรอกเพราะเราต้องมีเพื่อน เพื่อนที่จะคอยทำให้เราไม่เหงา ไม่หว้าเหว่ สนุกสนานมีรอยยิ้มที่มีความจริงใจต่อกัน
"เพื่อน"เป็นมิตรภาพที่ยืนยาว มีสิ่งดี ๆ ทำให้อยู่ในความทรงจำตลอดกาลเวลาที่เราเคยร่วมทุกข์ ร่วมสุขกันมาและไม่มีวันที่จะเดินแยกออกจากกันเมื่อเวลาที่เรามีปัญหา จากวันวานตั้งแต่เด็กจนโตมาจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังจดจำเรื่องเก่าจากวันวาน และเพื่อนคนนี้ที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงคือนางสาวประภาพร ดวงสุภา ชื่อเล่น ยุ อายุ 19 ปี และวันสำคัญของยุคือวันที่ 7กันยายนของทุกปีข้าพเจ้าก็จะ HappyBirthday ให้กับยุ ข้าพเจ้าก็มีของขวัญให้อยากให้ยุเก็บไว้เป็นที่ระลึกและยุจะบอกว่าชอบของขวัญที่ข้าพเจ้าให้และปลื้มที่สุดที่จำวันเกิดของยุได้เสมอและยุก็ไม่เคยลืมวันเกิดของข้าพเจ้าเลยเหมือนกัน ความแตกต่างของเราทั้งสองคนที่แตกต่าง คือ วัยของเราอาจจะห่างกันแค่ปีเดียวเท่านั้นเองก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน การที่เราจะเลือกคบเพื่อนไม่ได้เลือกที่อายุ หน้าตา ฐานะทางบ้านแต่จะเลือกดูที่การกระทำและนิสัยเป็นสำคัญมากกว่าและก็ไม่ใช่คนที่อายุห่างจากเราเป็น 10 หรือ 20 ปีจะมาเรียกว่าเพื่อนนั่นมันคงไม่ใช่แล้ว นิสัยของยุก็เป็นคนร่าเริง คุยสนุกอาจจะมีบ้อง ๆ นิดหน่อยแต่เราก็มีนิสัยคล้าย ๆ กันก็เข้ากันได้อยู่ และบ้านของเราทั้งสองคนก็อยู่ติดกันเราโตมาด้วยกันตั้ง แต่เด็กจนโตเวลาจะไปไหนมาไหนก็ไปด้วยกันตลอด เราสองคนสนิทสนมกันมากเวลามีอะไรก็เอามาแบ่งปันซึ่งกันและกันเสมอ และตอนยุอยู่ประมาณ ชั้นป.2 ยุจะอาศัยอยู่กับยายเพราะพ่อกับแม่ของยุต้องไปทำงานที่กรุงเทพจากนั้นยุเรียนอยู่ชั้นม.1แม่ของยุให้ยุมานอนที่บ้านของยุเห็นว่าโตแล้วเพราะบ้านของยุไม่มีใครอยู่และมีข้าพเจ้านี่แหละไปนอนเป็นเพื่อนยุทุก ๆ วันพอรุ่งเช้าข้าพเจ้าก็มาบ้านของข้าพเจ้าเองเพื่อที่จะมาอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียนตามปกติ ข้าพเจ้ากับยุเรียนโรงเรียนเดียวกัน เราสองคนจะขี่รถส่วนตัวไปกันเองแล้วก็แชร์ค่าน้ำมันกันประหยัดกว่านั่งรถรับส่งนักเรียนระยะทางจากบ้านไปโรงเรียนประมาณ 10กม.พอไปถึงโรงเรียนแล้วก็จะแยกย้ายกันไปห้องตนเองและทำกิจกรรมต่าง ๆ พอถึงเวลาเลิกเรียนแล้วก็มานัดเจอกันที่ลานจอดรถเพื่อกลับบ้านด้วยกันเป็นเช่นนี้ทุกวัน เมื่อถึงเวลาที่ข้าพเจ้าทุกข์ใจมีเรื่องลำบากใจหรือว่ามีปัญหาอะไรก็จะมาปรึกษายุก็จะคอยชี้แนะให้ในทางที่ดีและให้กำลังใจไม่ให้เราต้องท้อใจและบางครั้งที่ยุมีปัญหาก็จะมาปรึกษาข้าพเจ้าเช่นกัน ส่วนมากยุก็จะมีปัญหาเรื่องเงินไม่พอใช้ เพราะว่าแม่ของยุจะส่งเงินมาให้ช้า ข้าพเจ้าก็จะให้ยุยืมทุกครั้งพอแม่ยุส่งเงินมาถึงแล้วยุก็จะเอาเงินมาคืนที่ยืมไปและในบางครั้งข้าพ เจ้าคิดว่าเพื่อนมีทั้งดีและไม่ดี พอเวลาเราให้ช่วยเหลืออะไรก็ไม่ได้ นิสัยแย่ไม่จริงใจต่อเรา บางครั้งข้าพเจ้าก็มองยุว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว มีวันหนึ่งที่ข้าพเจ้าไปโรงเรียนเพราะเป็นวันสอบตอนเช้าจะนั่งรถรับส่งนักเรียนไปเพราะว่ารถตัวเองไม่ว่าง จะสอบเสร็จบ่าย 2โมงรถรับส่งนักเรียนจะมารับตอนเย็นก็เลยไม่อยากรอ ก็โทรไปหายุให้มารับที่โรงเรียนยุบอกว่ารถไม่มีน้ำมันไม่รู้ว่าจะไปรับรึเปล่า ข้าพเจ้าบอกยุว่าให้ไปเอารถกับแม่ของข้าพเจ้าที่บ้าน แล้วยุบอกว่าคอยดูก่อน ถ้ามาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร จากนั้นข้าพเจ้าก็วางสายแล้วมานั่งรอรถอยู่หน้าโรงเรียน แล้วคิดว่าคำว่า “คอยดูก่อน” ของยุนั้นหมายความว่าจะไม่มารับเราหรอก ทำให้ข้าพเจ้าคิดว่าทำไมยุถึงเป็นคนแบบนี้ เวลาเราลำบากไม่คิดที่จะช่วยเหลือเลย นี่หรอคือคำว่าเพื่อน เพื่อนที่เราสนิทที่สุด ทีตอนที่ยุมีปัญหาข้าพเจ้ายังช่วยตอนที่ยุให้มารับที่โรงเรียนเช่นเดียวกันทั้ง ๆ ที่ข้าพเจ้าไม่ว่างก็ยังมารับกลัวว่ายุไม่จะไม่มีรถกลับบ้าน พอสักครู่ก็เห็นยุมา ข้าพเจ้าก็เลยคิดว่ามองยุผิดไปอย่างมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าถ้ายุไม่มารับข้าพเจ้ายุเป็นคนเห็นแก่ตัวแต่ก็เข้าใจอยู่เหมือนกัน ยังไงยุก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของข้าพเจ้าและปัจจุบันนี้เราทั้งสองคนแยกย้ายกัน ข้าพเจ้าก็มาเรียนต่อที่สารคาม ส่วนยุก็ไปทำงานที่กรุงเทพ แต่เราทั้งสองคนก็ติดต่อกันอยู่บ่อย ๆ พอเวลามีวันหยุดหรือช่วงเทศกาลต่างๆ เราก็กลับบ้านก็ยังเจอกันอยู่ ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลายังไงเพื่อนก็คือเพื่อนอยู่วันยังค่ำไม่มีวันจางหาย
เพื่อนที่เราไม่เคยลืม นี่แหละคือสิ่งสำคัญที่เราต้องจดจำและจะตราตรึงอยู่ในใจเสมอถึงแม้จะห่างกันไกลสักแค่ไหนมันก็เป็นแค่ระยะทางกิโลเมตรเท่านั้น คำว่าเพื่อนก็ยังไม่จางหายไปไหนแต่ยังไงเราก็กลับมาพบกันด้วย “มิตรภาพ” ตลอดไป...

น.ส ธนัญพร ประดับเพศ กล่าวว่า...

ประวัติเพื่อน
เพื่อนชื่อ นางสาวทิพย์วิมล ภูงามเขียว อายุ 18 ปี
เกิดวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2533
ปัจจุบันเรียนอยู่ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ที่อยู่ บ้านเลขที 82 หมู่ที่ 4 ตำบลหนองหิน อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์
ความสัมพันธ์ที่มีต่อเพื่อน
ดิฉันกับเพื่อนคนนี้รู้จักกันตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสารคามพิทยาคม จังหวัดมหาสารคาม เราเป็นเพื่อนมาได้ 3 ปีแล้ว และปัจจุบันนี้เราก็ได้มาเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกันและคณะเดียวกันด้วย แล้วที่สำคัญไปกว่านั้นเราพักอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าเราและเพื่อนจะไปไหนมาไหนเราก็ไปด้วยกัน ไม่ว่าเราจะไปที่ไหนเราก็ต้องบอกเพื่อนก่อน บอกแม้กระทั่งเวลาจะเข้าห้องน้ำ
ประเด็นที่ประทับใจในตัวเพื่อน
เพื่อนเป็นคนที่รักเพื่อนมาก จริงใจต่อเพื่อนทุกคน เพื่อนเป็นคนที่พูดตรงไปตรงมา ชอบใครก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็คือไม่พูดด้วยเลย และเพื่อนจะช่วยเหลือเพื่อนทุกคน ไม่ทอดทิ้งเพื่อนเมื่อยามเพื่อนเดือดร้อน มีเพื่อนบางคนถามเราว่า เพื่อนคนนี้เค้าเป็นคนยังไง? นิสัยดีไหม? เราก็ตอบเพื่อนไปว่า เพื่อนเป็นคนที่ตรงไปตรงมา บางครั้งก็พูดออกไปโดยที่ยังไม่ได้คิดพูดตามความคิด ถ้าใครที่ยังไม่รู้จักนิสัยเค้าดี จะไม่ค่อยชอบเค้า แต่ถ้ารู้จักนิสัยเค้าดี สนิทกับเค้า จะรู้ว่าเค้าเป็นคนที่นิสัยดี ดีกับเพื่อนทุกคน บางครั้งเค้าอาจจะพูดเสียงดังกับเพื่อน เพื่อนบางคนที่ไม่เข้าใจเค้าอาจจะคิดว่าเค้าด่าหรือตะโกนใส่ก็ได้ ด้วยเหตุนี้แหล่ะที่เราชอบเพื่อนคนนี้ เพื่อนเค้าตรงไปตรงมา ทำตัวน่ารักดี และเราสองคนก็รักกันมาก

นางสาวธนัญพร ประดับเพศ
รหัสนิสิต 52010410085
คณะพยาบาลศาสตร์
กลุ่มเรียนที่ 1 วิชาจิตวิทยาเพื่อสัมพันธภาพทางสังคม

เอมิกา พันโนริต กล่าวว่า...

นางสาวเอมิกา พันโนริต
รหัสนิสิต 52010919199
คณะการบัญชีและการจัดการ สาขาการบัญชี
กลุ่มที่ 1


เรียงความ
เรื่อง เพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน

เพื่อนเอยเคยกอดคอกันมา
เคยสุขใจและมีน้ำตามาด้วยกัน
เนิ่นนานกลายเป็นความผูกพัน
มีเรื่องราวให้เรียนรู้กันตลอดมา
.
.
.
มิตรภาพที่เนิ่นนานและยาวนานมากที่สุด คือมิตรภาพที่เรียกว่า “เพื่อน” มนุษย์เราเกิดมาย่อมต้องการสังคม การยอมรับ และการมีเพื่อนคู่คิด ไม่มีใครที่จะสามารถยืนอยู่บนโลกใบนี้ได้โดยปราศจากคำว่าเพื่อน สำหรับดิฉันแล้วทุกคนบนโลกใบนี้คือเพื่อนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมห้องหรือเพื่อนต่างห้องเรียน เพื่อนต่างเพศ เพื่อนต่างรุ่น
พ่อแม่ญาติพี่น้อง หรือแม้แต่กระทั่งคนที่เดินสวนกันเมื่อสักครู่นี้
เพื่อนคือคนที่คอยรับฟังเมื่อยามเรามีปัญหา ในทางตรงกันข้ามบางครั้งเราก็เปลี่ยนสถานะกับกลายเป็นผู้ฟังซะบ้าง เพื่อนคือคนที่คอยอยู่เคียงข้างเราไม่ว่ายามที่เรามีความทุกข์หรือมีความสุข คือคนที่อยู่เบื้องหลังของเสียงหัวเราะแต่กลับยืนอยู่เคียงข้างเราเมื่อยามเรามีน้ำตา เมื่อย้อนกลับไปในภาคการศึกษาที่แล้ว ขณะอยู่เรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
ภาพความทรงจำเก่าๆก็หวนกลับคืนมา ภาพของห้องเรียนขนาดสี่เหลี่ยมพื้นผ้า โต๊ะเก้าอี้
ถูกจัดวางเรียงรายอยู่บนพื้นห้อง กระดานสีเขียวที่เราเรียกว่ากระดานดำถูกขีดเขียนด้วยลายมือของคุณครูโดยที่ยังไม่มีใครลบ และภาพที่สำคัญคือภาพความทรงจำของคำว่าเพื่อน
เมื่อสมัยตอนที่ดิฉันเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ห้องของดิฉันมักจะถูกแยกออกจากห้องอื่นๆอยู่เสมอ ดังนั้นเราจึงมักจะเล่นกับเพื่อนๆในห้องเป็นส่วนใหญ่ เพื่อนในกลุ่มของดิฉันมีกันอยู่ 10 คน หรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่งได้ว่า “แก๊งหมูสิบ” เพราะสมาชิกภายในกลุ่มล้วนแต่เป็นบุคคลที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งนั้น ในตอนเที่ยงของทุกๆวัน สมาชิกทุกคนจะห่อข้าวมากินด้วยกันบริเวณหน้าห้องเรียน เหตุด้วยเพราะไม่มีเวลาลงไปกินบ้าง
โรงอาหารอยู่ไกลจากห้องเรียนบ้าง และที่สำคัญคือปริมาณของนักเรียนที่มีจำนวนมาก


ถึงอย่างนั้นดิฉันก็ไม่ได้สนิทกับทุกคนมากนัก เพราะบ้านของแต่ละคนก็จะอยู่คนละตำบลหรืออยู่คนละอำเภอกัน แต่หนึ่งในนั้นมีเพื่อนอยู่หนึ่งคนที่เป็นเพื่อนที่สนิทและดีที่สุดสำหรับดิฉัน เธอมีชื่อว่า นางสาวมนันยา ศรีแก้ว หรือที่เพื่อนๆเรียกกันว่า “น้องแพร”
แต่จริงแล้วชื่อเล่นของเธอคือ “แพร”เฉยๆ สำหรับดิฉันก็เรียกเธอว่าน้องแพรเหมือนกับคนอื่นๆ แต่ด้วยความที่สนิทสนมกันมานานบางครั้งดิฉันก็เรียกเธอว่า “นังน้องแพร”
น้องแพรคือเพื่อนที่สนิทกันมากเพราะเรียนอยู่ห้องเดียวกันตั้งแต่สมัยอยู่ชั้นประถมศึกษา
จนกระทั่งถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เวลาทำงานเรามักที่จะอยู่กลุ่มเดียวกัน ไปห้องน้ำ
ไปกินข้าวเที่ยง ไปเดินห้างสรรพสินค้า ไปเดินคลองถมด้วยกัน ขนาดวันเสาร์-อาทิตย์
หรือวันปิดภาคเรียนเรายังไปกินข้าวด้วยกันเกือบทุกวัน ในสมัยมัธยมศึกษาตอนต้นน้องแพร
จะชอบพูดเนิบๆช้าๆจนถูกเพื่อนๆด่า แต่ในข้อดีของเธอก็มีอยู่มาก คือ การเป็นคนยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รักเพื่อน มีความจริงใจและไม่เคยคิดร้ายต่อใคร เราทั้งสองคนจะรับรู้ความสุขและความทุกข์ของกันและกันอยู่เสมอ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ดิฉันโทรไปร้องไห้เสียใจ
เกี่ยวกับเรื่องสุนัข น้องแพรก็จะรีบขี่รถมาหาดิฉันและพาดิฉันไปขี่รถเล่นเพื่อให้ดิฉัน
สบายใจ
ถึงแม้วันนี้กาลเวลาและความจำเป็นทำให้เราต้องไกลกัน แต่มิตรภาพและความทรงจำที่ดียังคงอยู่ตลอดไปและจะไม่ลบเลือนไปจากใจของดิฉันเลย
.
.
.
ต่อจากนี้
แม้ว่าเราต้องไกล
ขอให้เธอรู้ไว้เสมอ
มีคนอยู่ตรงนี้ที่ห่วงใย

ธนัชชา อุณาพรหม กล่าวว่า...

นางสาวธนัชชา อุณาพรหม
รหัสนิสิต 52010919244

คณะการบัญชีและการจัดการ สาขาการบัญชี
กลุ่มที่ 1


เพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน


มีซักกี่คนที่คอยพูดคุย ให้เราเปิดใจได้ทุกเรื่องราว คอยให้คำปรึกษาแม้เวลาที่เราท้อใจ ใครคนไหนให้กันอย่างนี้ มีซักกี่คนที่คอยรับฟัง ในยามผิดพลั้งไม่ทิ้งกันไป ความผูกพันวันนั้นเปลี่ยนฉันและเธอเป็นคำว่าเรา เป็นความหมายของคำว่า “เพื่อน”
เพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน คือ นางสาวหนึ่งฤทัย ศรีประสม ถึงวันนี้ดิฉันกับเธอเราต้องจากกันไกลด้วยเหตุผลเรื่องการเรียนและความเข้าใจผิดหลายๆอย่าง แต่ก็ยังไม่เคยมีซักวันที่ดิฉันจะลืมเธอได้ลง ความผูกพันของดิฉันกับเธอมันเริ่มขึ้นตอน ม.4 มันเป็นการเริ่มต้นที่ไม่สวยงามนัก แต่มันก็เป็นบทพิสูจน์ที่ทำให้เรากลายเป็นเพื่อนที่สนิทกันจนถึงวันนี้ ความสัมพันธ์ของดิฉันกับเธอมันเริ่มต้นขึ้นด้วยการที่ดิฉันกับเธอได้ย้ายห้องเรียนจากห้องธรรมดา ไปเรียนห้องหนึ่ง (ห้องคิงส์) บทเรียนด่านแรกที่เข้ามาทดสอบดิฉันกับเธอก็คือ การถูกเพื่อนในห้องแบน (เพื่อนไม่ให้เข้ากลุ่ม หรือไม่คบ)
จากเหตุการณ์นี้ทำให้ดิฉันกับเธอท้อแท้ และอยากที่จะย้ายห้องเรียน หลายต่อหลายครั้งที่ดิฉันกับเธอต้องเสียน้ำตา แต่กำลังใจที่เรา 2 คนมีให้กันและคอยบอกกันและกันเสมอว่า “อีกไม่นานทุกอย่างมันจะดีขึ้น” เวลาผ่านไป อุปสรรคก็ผ่านพ้นไป แต่ความผูกพันของดิฉันกับเธอกลับเพิ่มมากขึ้น หนึ่งฤทัยพร้อมที่จะช่วยและอยู่เป็นเพื่อนทุกครั้งเมื่อฉันต้องการ
เมื่อประมาณปีที่แล้วดิฉันต้องเดินทางไปสอบรับตรงของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่กรุงเทพฯ ดิฉันต้องเดินทางไปคนเดียว ดิฉันก็บ่นกับเธออยู่บ่อยๆ ว่าไม่อยากไปคนเดียว กลัว แล้วคำพูดที่ไม่คาดคิดก็ออกมาจากเพื่อนของฉัน “ให้เค้าไปเป็นเพื่อนไหม เดี๋ยวเค้าจะสมัครสอบด้วย” ดิฉันดีใจมากโผล่เข้าไปกอดเธอแล้วก็บอกว่า “ขอบคุณนะ ทำไมแกดีกับเค้าแบบนี้อ่ะ” แต่ปัญหาก็คือครอบครัวของหนึ่งจะไม่อนุญาต แต่เธอกับบอกดิฉันว่า “ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวแอบแม่ไป อยากไปเที่ยวเหมือนกัน” เธอกล้าที่จะเดินทางไปกรุงเทพฯ ทั้งๆที่มันค่อยข้างไกลมากและที่แย่กว่านั้นก็คือ เธอแอบแม่ของเธอไป ดิฉันกับหนึ่งฤทัย เราเดินทางไปสอบที่กรุงเทพฯ ด้วยกัน จากนั้นเราก็ไปเที่ยวกันต่อ เราไปเดินสยาม เซ็นทรัลเวิร์ล , ข้ามเรือไปฝั่งธนฯ เพื่อที่จะไปให้อาหารนกและปลา, ไปไหว้พระที่วัดพระแก้ว จากวันนั้นเราสองคนก็แอบไปเที่ยวด้วยกันอีกบ่อยๆ ทั้งดูหนัง หรือแม้แต่ไปเที่ยวทะเลที่ชะอำ (เพชรบุรี) ช่วงปิดเทอม ซึ่งมันทำให้ความผูกพันของดิฉันและเธอยิ่งเพิ่มมากขึ้น
และวันนี้เรา 2 คนต้องห่างกันไกลเพราะเรื่องของการเรียน ซึ่งการจากกันครั้งนี้มันก็ไม่สวยงามนัก เพราะความเข้าใจผิดบางอย่าง ความรักที่เคยมีให้กันตอนนี้ก็กลับกลายเป็นความหมางเมินเข้ามาแทน วันนี้ดิฉันไม่รู้หรอกว่าเธอจะยังนึกถึงเพื่อนคนนี้อยู่บ้างไหม แต่สำหรับดิฉันแม้แต่คำพูดคำสุดท้ายที่เราคุยกันด้วยดีวันนั้น ดิฉันก็ยังไม่เคยลืม
หลายต่อหลายครั้งที่ฉันนึกย้อนกลับไปในวันที่ฉันกับเธอนั่งเรียนข้างกัน 3 ปีเต็มๆ หรือแม้แต่วันที่เธอขับรถตากฝนมารับดิฉันที่บ้านเพื่อไปโรงเรียนด้วยกัน มันก็อดไม่ได้ที่จะทำให้น้ำใสๆ ไหลออกมาจากดวงตาของฉัน ถ้าเธอได้มีโอกาสได้เข้ามาอ่านในสิ่งที่ดิฉันเขียนทั้งหมดฉันก็อย่างจะให้เธอได้รับรู้ว่า
“หนึ่ง … แกคือเพื่อนคนเดียวในชีวิตของเค้าที่เค้ารักมากที่สุดนะ”
“ขอบคุณสำหรับทุกๆ อย่างที่แกทำให้เค้ามากกว่าเพื่อนคนหนึ่งจะทำให้กันได้”

Unknown กล่าวว่า...

เรียงความ : เพื่อนที่นิสิตประทับใจ
นางสาวปานพินิจ สีนวนแสง คณะพยาบาลศาสตร์ [NU] รหัส: 52010410099


“เพื่อน” เป็นอะไรได้อีกเยอะ...

สำหรับฉันแล้ว เพื่อน คือทุกๆคนบนโลกทั้งที่ฉันรู้จักและไม่รู้จักโดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ ไม่ว่ามิตรหรือศัตรู ชอบหรือเกลียดชัง สุดท้ายเราก็เป็นเพื่อนกันได้ ดังนั้นไม่ว่าฉันจะไปที่ไหนฉันก็ไม่เคยรู้สึกว่าไม่มีเพื่อนเลย แต่นั่นคงจะกว้างไป ฉันขอยกประเด็น “เพื่อนที่ฉันประทับใจที่สุด” และคงต้องเป็นเธอคนนี้....

“ตาล” หรือ นางสาวภีรดา จารุพรรธน์ ปัจจุบันเธอคือ นิสิตคณะแพทยศาสตร์ สาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ปี 2 เรารู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม นับเป็นเวลาหลายปี เราสองคนมีอะไรที่คล้ายกันหลายอย่าง ตั้งแต่ความชอบ นิสัย ความสนใจ แม้อายุเราจะต่างกันเล็กน้อยแค่ไม่ถึงปีแต่เราก็มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ จนเกิดเรื่องราวต่างๆขึ้นมากมายเกิดเป็นความทรงจำที่มากจน...ถ้ากลับไปนั่งคิดทบทวนคงใช้เวลาหลายวัน

ความประทับใจมันเกิดขึ้นทุกๆวัน ตั้งแต่วันแรกที่เรารู้จักกัน เธอคือสิ่งดีๆที่ผ่านเข้ามา เธอมีรอยยิ้มที่น่าประทับใจแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยยิ้มบ่อยนัก แต่นั่นก็ยิ่งทำให้ฉันอยากที่จะเห็นรอยยิ้มของเธอ บ่อยครั้งที่เราร่วมมือกันทำอะไรแปลกๆที่คนอื่นไม่ทำกัน เช่น ยิ้มและหัวเราะกับสถาการณ์ที่ตึงเครียด มันช่วยให้ปัญหาที่เจอมีทางออกทุกที และมันก็มีสารพัดปัญหาเข้ามาแต่เราก็เลือกที่จะมองข้ามมันไม่โฟกัสไปที่มัน พุ่งชนไปที่เป้าหมายที่หวัง เราก็ก้าวผ่านปัญหามาได้ด้วยกันและมีความสุขกัน จนเดี๋ยวนี้ปัญหากลายเป็นเรื่องท้าทายที่เราชอบแก้ซะแล้วสิ

เรามีจุดมุ่งหมายความฝันที่คล้ายๆกัน คืออยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ อยากให้ทุกๆคนมีความสุข เราอยากเป็นนัก Motivate การเข้าสัมมนาเพื่อพัฒนาศักยภาพจึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เราชอบไปกัน มันทำให้เรารู้ว่าศักยภาพของเรามีมากมายจริงๆ และเราคงไม่หยุดพัฒนาศักยภาพของเราแน่นอน

สุดท้าย...คำว่าเพื่อนสำหรับฉันแล้วมันเป็นอะไรได้อีกเยอะ ไม่ว่าเธอหรือฉันสักวันต่อให้เราอยู่ห่างไกลกัน มันก็คงไม่สำคัญอะไร แค่เธอรู้ ฉันรู้ ว่าเรากำลังทำอะไร ฉันเชื่อว่าทุกๆวันของเราได้ถูกใช้มันอย่างคุ้มค่า วันข้างหน้าฉันคิดว่าเราก็ยังคงมีความสุขดีเหมือนเดิม และคำว่าเพื่อนจะไม่มีวันเลือนหายไปจากใจเรา...แล้วเจอกันที่จุดสูงสุด นะ “เพื่อน”



"The best and most beautiful things cannot be seen or even touched, they must be felt with the heart." ….Be the best in the world.



นางสาวปานพินิจ สีนวนแสง คณะพยาบาลศาสตร์ [NU] รหัส: 52010410099

นายวิทวัส กำยาน กล่าวว่า...

เพื่อน
ตั้งแต่เกิดมาเริ่มเข้าโรงเรียนเราก็จะได้พบกับคนรุ่นราวคราวเดียวกันคือเพื่อน เราเริ่มมีเพื่อน เพื่อนคนแรกก็คือพ่อและแม่ พ่อแม่เปรียบเสมือนเพื่อนที่คอยดูแลและเล่นกับเรา เพื่อนคือคนที่สำคัญ ตั้งแต่แรกเข้าอนุบาลก็มีเพื่อนมากมาย
ฉันยังจดจำความรู้สึกและความสนุกในวัยเด็ก เพื่อนคือคนที่เข้าใจและคอยให้คำปรึกษาเราได้ดีรองจากพ่อกับแม่
ฉันก็มีเพื่อนที่สนิทและรู้ใจกันมาคนหนึ่ง คือ ลลิตา นาขมิ้น (มิ้น) เพื่อนคนนี้ถือเป็นเพื่อนที่ฉันรักและไว้ใจมาก เป็นที่รู้ใจกันมานานถึง4 ปี เราสนิทกันมาก เมื่อมีปัญหาอะไร เราก็จะให้คำปรึกษาซึ่งกันและกัน อีกอย่างเราจะมีนิสัยที่คล้ายๆกัน มากทั้งๆที่มิ้นเป็นผู้หญิงแล้วฉันเป็นผู้ชาย และสิ่งที่ทำให้เราได้รู้จักนิสัยกันมากขึ้น ก็คือ การที่เราไปเรียนซัมเมอร์ที่ขอนแก่น แล้วพักอยู่หอเดียวกัน และเป็นช่วงที่ทุกคนเครียดกับการอ่านหนังสือ แต่จะมีอยู่สองคนที่ไม่เครียดก็คือ ฉันและมิ้น เราจะเป็นคู่ฮาของกลุ่ม และถึงวันนั้นวันที่ผลสอบออกปรากฏว่าไม่ติดทั้งสองคน เราเลยเลือกที่จะไปเรียนรังสิตด้วยกัน พักหอพักห้องเดียวกัน ยิ่งทำให้เราสาสนิทกันมากขึ้น มีปัญหาอะไรก็คอยเป็นกำลังใจให้เสมอ
สำหรับฉันถือว่าได้รางวัลอันยิ่งใหญ่ที่ได้พบและเจอเพื่อนคนนี้ ฉันรู้สึกดีกับเพื่อนคนนี้มาก เพราเธอช่างดีกับฉันเหลือเกิน


นายวิทวัส กำยาน
รหัสนิสิต 52011011518
คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม

สุรัสวดี ทิลารักษ์ กล่าวว่า...

เพื่อน
ปัจจุบันข้าพเจ้าศึกษาอยู่คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม การที่ข้าพเจ้าได้มาศึกษาในรับอุดมศึกษา ก็นับว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ที่ข้าพเจ้าไม่เคยสัมผัส กับการพบเจอผู้คนที่หลากหลายและวัฒนธรรมที่แตกต่าง
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนทำให้ข้าพเจ้านึกถึงเพื่อน ซึ่งเป็นบุคคลที่คอยเป็นห่วงและให้คำปรึกษา หนึ่งในเพื่อนหลายๆคนในกลุ่มก็คือ “เอก” จะเป็นคนมีนิสัยที่แปลก แต่ก็เป็นเพื่อนที่ดีสำหรับข้าพเจ้า มีความเป็นผู้ใหญ่คอยเตือนข้าพเจ้าอยู่ตลอดเวลา จะชอบแกล้งข้าพเจ้าอยู่เสมอแล้วทำให้ข้าพเจ้าโกรธ ชอบช่วยเหลือเพื่อน เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่เวลาทะเลาะกัน จะมาพูดกับข้าพเจ้าก่อนเสมอ ไม่ว่าเรื่องนั้นข้าพเจ้าจะถูกหรือผิด อีกอย่างข้าพเจ้ามีวีรกรรมต่างๆมากมาย แต่ที่ข้าพเจ้าจำไม่เคยลืม คือตอนที่เรียนอยู่มัธยมปลาย ข้าพเจ้าโดดเรียน ก็หนีออกหลังโรงเรียน ข้าพเจ้าเดินออกคนสุดท้าย แล้วก็ตกโคลน เพื่อนหัวเราะกันดังลั่น
ข้าพเจ้ารู้สึกมีความสุขมาก ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าอยู่กับเพื่อนคนนี้ ข้าพเจ้าไม่เคยคิดว่าข้าพเจ้าจะมีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชาย และเราเป็นเพื่อนที่สนิทกันเร็วมาก

น.ส.สุรัสวดี ทิลารักษ์
รหัสนิสิต 51011011864 กลุ่ม1
คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม

นางสาวพรพรรณ คำสิงห์วงษ์ กล่าวว่า...

นางสาวพรพรรณ คำสิงห์วงษ์
รหัสนิสิต 52011313467 นิติศาสตร์(LW)ปี1
กลุ่มเรียนที่ 1

เพื่อนเพียงคำสั้นๆแต่มีความหมายมากมายในตัวเอง เพื่อนเป็นหลายๆอย่างในชีวิตของทุกคนบนโลก หากขาดเพื่อนไปถามว่าอยู่ได้ไหมอาจจะอยู่ได้แต่จะอยู่อย่างมีความสุขหรือไหมนั้นซิน่าคิดยิ่งกว่า
เพื่อนของข้าพเจ้าที่สนิทๆกันนั้นก็มีอยู่หลายคน ที่สนิทกันมากๆก็คงจะเป็นช่วงที่เรียนมัธยมด้วยกัน แต่พอมาอยู่มหาวิทยาลัยข้าพเจ้าก็มีเพื่อนจากกลุ่มเดิมตอนเรียนมัธยมมาเรียนด้วย เพื่อนของข้าพเจ้าชื่อ ดิวซ์ หลายๆคนจะพูดชื่อมันไม่ได้เพราะเขาไม่รู้ว่ามันอ่านว่าอะไร ดิวซ์เรียนอยู่สาขาสื่อนฤมิต คณะวิทยาการสารสนเทศ มานี้เหมือนแรกๆเรามีกันอยู่แค่ 2คน ไปไหนก็ไปด้วยกันเรียนก็เรียนด้วยกันในหลายๆวิชา แต่พออยู่นานๆเข้าก็เริ่มมีเพื่อนมากขึ้นแต่เราก็ยงไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เวลามีปัญหาเรื่องอะไรเราก็จะคอยช่วยเหลือกันตลอดทั้งด้านการเรียน การใช้ชีวิตทั้งในรั้วมหาวิทยาลัยและชีวิตประจำวัน และที่สำคัญตอนข้าพเจ้าไม่สบายเป็นไข้หวัดซึ่งมันทรมานร่างกายและจิตใจสุดๆเพราะเป็นช่วงที่ใกล้จะสอบแล้ว ดิวซ์ก็คอยดูแลหายาให้ทานแล้วก็พาไปหาหมอ คอยดูแลหลายๆอย่างจนกระทั่งข้าพเจ้าหายป่วย ซึ่งแต่ก่อนเราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนี้แต่พอเรามาอยู่ที่มหาสารคามเราก็เลยสนิทกันเป็นปาท่องโก๋เลยทีเดียว
นิยามคำว่าเพื่อนของข้าพเจ้าจึงเป็นได้หลายๆอย่างทั้งคนที่ร่วมทุกข์และร่วมสุขด้วยกัน หากข้าพเจ้าอยู่บนโลกนี้โดยปราศจากเพื่อนโลกใบนี้ก็คงจะไม่น่าอยู่ การใช้ชีวิตแต่ละวันก็คงจะน่าเบื่ออยู่เหมือนกัน ดังนั้นถ้าหากเรามีเพื่อนที่ดีแล้วเราก็ควรจะเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีเพราะไม่ใช่ว่าเราจะเพื่อนที่ดีได้ง่ายๆ

นิตยาวรรณ กล่าวว่า...

นางสาวนิตยาวรรณ ไพศาล
รหัสนิสิต 52010918382 AC526 กลุ่มเรียนที่1
คำสั่ง ให้นิสิตเรียงความเกี่ยวกับเพื่อนที่นิสิตประทับใจ โดยให้เล่าประวัติของเพื่อนคนนั้นโดยคร่าวๆความสัมพันธ์ระหว่างนิสิตกับเพื่อนคนนั้น ประเด็นที่นิสิตประทับใจในตัวเขาเพราะอะไร ขนาดความยาวประมาณ 1 หน้ากระดาษ ส่งภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2552
เพื่อนที่นิสิตประทับใจมากที่สุดเป็นเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่สมัยมัธยมแล้วเป็นผู้ชายที่นิสัยดีมากชอบช่วยเหลือเพื่อน ตลก อารมณ์ดี ซึ่งจะเป็นที่รักของเพื่อนทุกคนในห้อง ตั้งแต่ที่นิสิตก้าวเข้าเรียนที่โรงเรียนก้าวเข้าห้องเรียนเขาเป็นเพื่อนคนแรกที่เข้ามาทำความรู้จักกับนิสิต เพื่อนคนนี้มีชื่อว่า”ตุ้ม”นายธนวัฒน์ พละกลาง ซึ่งปัจจุบันเพื่อนของนิสิตคนนี้ก็กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็นมหาลัยเดียวกันกับที่นิสิตเรียน แต่เราเรียนคนละคณะกัน นิสิตเรียนคณะการบัญชีและการจัดการ ส่วนเพื่อนของนิสิตเรียนคณะศึกษาศาสตร์ เอกวิทยาศาสตร์การกีฬา นิสิตรักเพื่อนคนนี้มาก รักในที่นี้หมายถึงรักแบบเพื่อน และหลังจากที่เราได้รู้จักกัน เราก็สนิทสนมกัน ซึ่งกลุ่มของเราก็จะมีหญิง 6 ชาย 2 แต่นิสิตจะสนิทกับตุ้มมากที่สุดสนิทมากกว่าเพื่อนคนอื่นๆ เวลาที่ครูสั่งงาน พวกเราก็จะช่วยกันเสมอไม่เคยทิ้งกัน บ้านของนิสิตห่างจากโรงเรียนประมาณ 33 กิโลเมตร นิสิตเรียนที่โรงเรียนประจำอำเภอ แต่เป็นต่างอำเภอกับที่นิสิตอยู่ อาศัยอยู่อีกอำเภอหนึ่งแต่ไปเรียนอีกอำเภอหนึ่งจึงได้รู้จักกับเพื่อนอำเภออื่นๆมาก ถึงแม้บ้านนิสิตจะอยู่ไกลแค่ไหน เพื่อนตุ้มก็สามารถมารับนิสิตไปทำงานที่โรงเรียนได้ ซึ่งเพื่อนคนอื่นๆจะไม่ไป เวลาที่นิสิตมีปัญหา เพื่อนตุ้มก็จะคอยให้คำปรึกษาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน
บางวันที่นิสิตไม่มีเงินกินข้าว เพื่อนตุ้มก็จะเลี้ยงข้าวนิสิต ไม่มีรถกลับบ้านเขาก็จะไปส่ง วันไหนที่นิสิตขาดเรียนไม่ได้ไปเรียนเขาก็จะบอกครูให้เสมอ เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่รักเพื่อนมาก สำหรับแฟนกับเพื่อน เขาจะเลือกเพื่อนก่อนเสมอ และพอถึงม.6 ก็ได้พากันไปสอบเพื่อเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย เพื่อนๆในกลุ่มก็พากันยื่นใบสมัครที่มหาลัยเดียวกัน และเราก็ได้ที่สารคามทั้งหมด เราก็เลยพากันเลือกมาเรียนที่นี่ด้วยกัน เพื่อนสนิทมาด้วยกันทั้งหมด 4 คน แต่ละคนเรียนคนละคณะกัน คนละสาขา เวลาที่นิสิตเดือดร้อนที่อยู่สารคามเขาก็ยังช่วยนิสิตเหมือนเดิม คอยโทรมาถามว่ากินข้าวยัง มีเรียนไหม ไปกินข้าวด้วยกันไหม มีปัญหาอะไรหรือป่าว แต่ว่าไปแล้วนะเพื่อนทุกคนที่อยู่ในกลุ่มเดียวก็ดีทุกคน มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน ไม่ทิ้งกัน อาจจะทะเลาะกันในบางครั้ง
แต่การที่เราได้ทะเลาะกันนั้น มันยิ่งทำให้เรารักกันมากขึ้น รู้จักกับคำว่าเพื่อนมากขึ้นกว่าเดิม และจะได้รู้ว่าใครบ้าง เพื่อนคนไหนที่จริงใจต่อเราบ้าง เห็นเราเป็นเพื่อนแท้เพื่อนตายกันจริงๆไหม และเราก็ยังได้รู้นิสัยว่าใครนิสัยเป็นแบบไหนอีกด้วย แต่เพื่อนที่สนิทกันไม่มีใครเหมือนคนที่ชื่อตุ้มเลย เพราะคนอื่นๆมีนิสัยอิจฉาเพื่อนเล็กน้อย ถ้าเห็นเพื่อนคนไหนได้ดี ก็มักจะพูดเสียดสีเพื่อนคนนั้น แต่เพื่อนชื่อตุ้มคนนี้ ไม่เคยเลยที่จะมีอาการอิจฉาเพื่อน เวลาที่เพื่อนคนไหนมีปัญหาที่ร้ายแรง เขาก็สามารถทำให้เพื่อนๆอารมณ์ดีได้ ทำให้เพื่อนยิ้มได้ ทำให้เพื่อนหัวเราะได้ และก็พูดให้กำลังใจเพื่อนเสมอ ซึ่งไม่เหมือนกับพวกที่อิจฉาริษยากัน เพื่อนมีปัญหาบางครั้งก็พูดซ้ำเติมเพื่อน ซึ่งเป็นการแสดงออกที่ไม่ดีต่อเพื่อนเลย นิสิตจะไม่มีวันลืมเพื่อนคนนี้เลย เพื่อนที่มีคำว่า”เพื่อน”เพื่อนแท้ เพื่อนตาย เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป “เพื่อนรัก”

พลอยลำไพ ชาระมาลย์ กล่าวว่า...

เรียงความ
วิชาจิตวิทยาและการสร้างเสริมพันธภาพทางสังคม
ดิฉันชื่อนางสาวพลอยลำไพ ชาระมาลย์ ชื่อเล่นพลอย จบจากโรงเรียนพนมไพรวิทยาคาร จังหวัดร้อยเอ็ด นับตั้งแต่วันแรกที่ดิฉันเข้ามาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยมหาสารคามแห่งนี้ ในคณะสัตวแพทยศาสตร์และสัตวศาสตร์ เอกสัตวศาสตร์ ดิฉันไดรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงในชีวิต สำหรับเพื่อนคนแรกที่ฉันรู้จักหลังจากเข้ามาเรียนที่มมส.นี้คือเพื่อนต่างรุ่น เขาเป็นเพื่อน Room mate รุ่นพี่ต่างคณะกับดิฉัน พี่เขาคอยให้คำปรึกษาในทุกเรื่องตั้งแต่การลงทะเบียนเรียน แนะนำตึกต่าง ๆ ในบางครั้งก็พาดิฉันติดรถไปเรียนด้วย แต่สำหรับคนที่มาจากต่างที่ต่างภาษามันก็ต้องมีอะไรที่เข้ากันไม่ได้บ้าง และในบางครั้งอาจเกิดการขัดแย้งกัน ดังนั้นเพื่อนต่างรุ่นยังไม่ทำให้ดิฉันประทับใจมากนัก
ก้าวแรกของการเข้าทำกิจกรรมในคณะ ดิฉันไม่รู้จักใครเลย ในวันนั้นฉันเข้าไปนั่งอยู่คนเดียวจนมีเพื่อนสาวประเภทสองและเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาทักทายดิฉัน และเราทั้งสามก็ได้เป็นเพื่อนกันตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เพื่อนทั้งสองพาดิฉันไปรู้จักเพื่อนใหม่มากมาย เพื่อนแต่ละคนต่างมาจากคนละที่ คนละถิ่นฐาน คนละภาษามันยิ่งทำให้ฉันรู้จักคำว่าสังคมใหญ่มากขึ้น แต่ถึงจะมีเพื่อนมากมายสักเท่าไร ก็คงมีเพื่อนไม่กี่คนที่จริงใจ และเป็นเพื่อนตายต่อเรา ดิฉันมีเพื่อนคนหนึ่งที่ฉันคิดว่า เธอคงเป็นเพื่อนตายของฉัน เธอชื่อ นางสาวบัญชุพร สาพันธ์ ชื่อเล่นโบว์ เธอจบจากโรงเรียนจัตุรพักรัชดาภิเษก จังหวัดร้อยเอ็ด และเธอเรียนคณะเดียวกันกับดิฉัน โบว์เป็นคนร่าเริงแจ่มใส สามารถสร้างรอยยิ้มให้แก่คนที่อยู่รอบข้างเสมอ ตั้งแต่รู้จักกันมาโบว์กับดิฉันเป็นเพื่อนที่ไม่เคยพูดดีต่อกันเลย แต่สำหรับดิฉันและโบว์มันคือความจริงใจ เป็นกันเอง สามารถสร้างความสนิทสนมได้เป็นอย่างมาก ตอนนี้ดิฉันและโบว์ย้ายเข้ามาเป็น Room mate กัน นับได้ว่าเวลาเกือบ 80 % เราทั้งสองใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เพราะเวลาเรียนเราก็ลงทะเบียนเรียนในวิชาและกลุ่มที่เหมือนกัน มันทำให้เราเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก
สิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจในตัวเพื่อนคนนี้ก็คือ ความเป็นตัวเองในทุกคำพูด ร่าเริงแจ่มใส สนุกสนาน ไปไหนไปกัน ไม่ทิ้งเพื่อน ไม่เห็นแกตัว ซึ่งจะมีเพื่อนซักกี่คนที่เป็นเหมือนเธอ ยิ่งตอนที่โบว์พาดิฉันกลับบ้านในช่วงเดือนธันวาคม มันเป็นช่วงที่หนาวมากแต่โบว์ยังพาดิฉันกลับตอนเวลาประมาณสองทุ่มเศษๆ ยิ่งอากาศตอนนั้นหนาวมาก ดิฉันรับรู้ถึงคำว่าเพื่อนแท้ที่โบว์มอบให้ จากวันนั้นถึงวันนี้เราทั้งสองยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดมา สำหรับดิฉันคำว่าเพื่อนสำคัญมากเพราะ คำว่าเพื่อนที่ดี และรักเราอยากนักที่จะพบเจอ ดังนั้นดิฉันจะเก็บรักษาคำว่าเพื่อนที่มีไว้ตลอดไป
ชื่อนางสาวพลอยลำไพ ชาระมาลย์ รหัสนิสิต 51011811312 เอกสัตวศาสตร์ กลุ่มที่ 1

สมบูรณ์ ยวงเดชกล้า กล่าวว่า...

นางสาวสมบูรณ์ ยวงเดชกล้า รหัสนิสิต ๕๑๐๑๐๕๑๓๐๒๖
คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย


เรียงความเกี่ยวกับเพื่อนที่นิสิตประทับใจ

เพื่อนที่ฉันประทับใจ ชื่อเล่น โบ ชื่อจริง นางสาวเกษรินทร์ มงคุณ กำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขารัฐประสาสนศาสตร์ ปีที่ ๒
เป็นเพื่อนที่สนิทตั้งแต่งมัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๖ โรงเรียนเมืองบัววิทยา หมู่บ้านของเขาใกล้กลับหมู่บ้านของฉัน เขาเป็นเพื่อนที่น่ารักเป็นเพื่อนด้วยการแบ่งทุกข์ ร่วมสุข ให้กำลังใจยามที่ฉันท้อแท้ เขาจะคิดหาทางสร้างแรงบันดาลใจให้ฉันลุกขึ้นต่อสู้ เป็นร่มเงาและให้กำลังใจฉัน เขามีความใจกว้าง มีเมตตา เสียสละ เห็นอกเห็นใจเพื่อน ให้เกียรติยกย่องป้องกัน ฉันตอนที่มีคนอื่นมาต่อว่าฉันในทางที่ไม่ดี แต่เขาคอยเตือนเมื่อชี้ข้อบกพร่องของฉัน ด้วยความจริงใจ โดยไม่ทำลายทำให้ฉันเห็นถึงข้อเสียของฉันเอง ฉันกับเขาต่างก็ชี้แนะส่งเสริมเติมฝัน ของกันและกันให้เป็นจริงจนฉันได้มาเรียนที่ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เขาก็ได้เรียนต่อสมใจในคณะที่เขาชอบ ต่างแสดงความยินดีและประทับใจ เมื่อเพื่อนรักสมหวัง จะได้เริ่มชีวิตที่สดใสเต็มไปด้วยความฝัน และ มิตรภาพแห่งความเป็นเพื่อน ซึ่งเป็นสมบัติอัน มีค่า เป็นสิ่งที่ดี และสูงยิ่งในชีวิต ซึ่งฉันประทับใจไม่เลยลืมเลย
ด้วยความเป็นเพื่อนดังกล่าวนี้ คือ มิตรภาพอันอบอุ่น มีค่า และควรถนอมความเป็นมิตร ระหว่างฉันกับเพื่อนไว้ตลอดไป

วิลาสินี ลิไธสง กล่าวว่า...

นางสาววิลาสินี ลิไธสง รหัส 51010513062
คณะศึกษาศาสตร์ สาขาภาษาไทย ปี 2(TH)

เพื่อนที่ข้าพเจ้าประทับใจ

ชีวิตของคนเราทุกคนมีคนที่สำคัญมากมายที่คอนอยู่ข้างกาย รักและหวังดี นอกจากพ่อ แม่ และ ครูแล้ว ยังมี “เพื่อนแท้”เมื่อยามที่ชีวิตเราอ่อนแอ อยากมีใครสักคนไว้คอยพูดคุย ให้คำปรึกษา คอยห่วงใย
เอื้ออาทร ร่วมทุกข์ร่วมสุข หัวเราะและร้องไห้ ทำให้หัวใจไม่เหงา
เพื่อนที่ข้าพเจ้าประทับใจชื่อเมย์ นางสาวธัญลักษณ์ จงสมชัย ปัจจุบันกำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัย
ราชภัฏมหาสารคาม เธอคนนี้เป็นเพื่อนสนิทของข้าพเจ้าเป็นเวลา 7 ปีแล้ว เธอก็ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง ทั้งความมีน้ำใจ ความห่วงใย และกำลังใจที่มีให้กันและกันเสมอ สิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกว่าประทับใจเพื่อนคนนี้มาก คือ หลายๆครั้งที่พวกเรามีปัญหาหนักๆ หรือปัญหาใหญ่ๆ เข้ามาในชีวิต เราก็ร่วมทุกข์ด้วยกัน ตั้งสติ
ใช้ปัญญาแก้ไขปัญหา จนความทุกข์ที่เคยมีเปลี่ยนเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ เรียกได้ว่า เปลี่ยนความทุกข์เป็นความสุขทันที มีครั้งหนึ่งที่เราไม่เข้าใจกัน ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไร เธอดูซึมเศร้า เสียใจ ร้องไห้ ไม่ยอมกลับบ้าน จนข้าพเจ้าตัดสินใจเดินเข้าไปถาม เธอถามกลับว่าไม่รู้จริงๆหรอว่าตัวเองเปลี่ยนไป มีเพื่อนใหม่แล้วลืมเพื่อนเก่า เธอพูดด้วยแต่ทำเหมือนไม่สนใจ ข้าพเจ้าได้ฟังความในใจของเธอแล้วรู้สึกว่าตนทำผิดมาก
จึงขอโทษเธอ ทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น สัญญาว่าจะเป็นเพื่อนรักกันตลอดไป และเดินกอดคอร้องไห้ด้วยความทราบซึ้งใจกลับบ้านกัน ภาพของวันนั้นฉันจดจำจนถึงวันนี้ และตลอดไป ไม่ว่าจะมีเพื่อนใหม่เข้ามามากแค่ไหน แต่เพื่อนที่พร้อมจะให้อภัยเมื่อเราทำผิดนั้นมีน้อยมาก ทำให้ข้าพเจ้ารู้ซึ้งถึงความรักความสัมพันธ์ที่ตัดไม่ขาดที่ก่อให้เกิดคำว่า “รักแท้” ระหว่างเพื่อน ที่เป็นทั้งเพื่อนสนิท เพื่อนรัก และเพื่อนตาย

มีเพื่อนแท้หนึ่งคนก็ดีกว่า มีเพื่อนมากแต่มาทำให้ทุกข์ถม
มีเพื่อนแท้คอยรับเราทุกอารมณ์ ทั้งสุขสมทุกข์ทนไม่หวั่นใจ
แต่เพื่อนเที่ยวไม่นานก็ตายจาก ไม่นานพรากเราทนไม่ไหว
มีเพื่อนแท้หนึ่งคนที่จริงใจ ชีวิตจะสดใสเพราะเพื่อนเอย


นางสาววิลาสินี ลิไธสง รหัสนิสิต 51010513062 คณะศึกษาศาสตร์ สาขา ภาษาไทย ชั้นปีที่ 2 (TH)

สุพัตรา กล่าวว่า...

เพื่อนที่ประทับใจ
เพื่อนถึงแม้จะไม่ใช่สมาชิกในครอบครัวของเรา แต่เพื่อนนั้นก็เปรียบเสมือนแขนซ้ายของเรา เมื่อเวลาเราออกมาอยู่ในสังคมภายนอกและเพื่อนยังคอยช่วยเหลือเมื่อยามเรามีทุกข์ เพื่อนทำให้เรายิ้มได้ ทำให้เราร้องไห้ได้ เมื่อถึงเวลาที่ต้องแยกจากกันไปศึกษาต่อ เพื่อนยังคอยให้คำปรึกษาให้กำลังใจอยู่เสมอ และเพื่อนยังเป็นคนที่ทำให้เราได้รู้จักเรียนรู้การใช้ชีวิตในกลุ่มกลุ่มสังคมอีกแบบหนึ่ง ทำให้เรารู้จักการอยู่ร่วมกัน รู้จักการแบ่งปัน รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักสร้างความมีน้ำใจ และรู้จักให้อภัยซึ่งกันและกัน ซึ่งหากชีวิตของราไม่มีเพื่อนก็เหมือนกับขาดความสมบูรณ์แบบในชีวิต
จากคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และกว่าที่จะได้มาเป็นเพื่อนที่มีความจริงใจต่อกันอย่างแท้จริงนั้น นับว่าหาได้ยากมาก และถ้าหากเรามีเพื่อนที่ไม่ดีคอยชักชวนไปทำแต่ในทางที่ผิด ก็อาจทำให้เราเสียอนาคตได้ และถ้าหากเราคบเพื่อนที่ดี ก็จะทำให้การอยู่ร่วมกันในกลุ่มสังคมดำเนินไปได้อย่างมีความสุข ซึ่งเปรียบเสมือนสุภาษิตที่ว่า เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก และเพื่อนที่แสนดีที่ดิฉันประทับใจที่สุด ชื่อ นางสาว คคนางค์ สีหาเพชร ซึ่งตั้งแต่ได้รู้จักกันมาเป็นเวลา 8 ปี เราไม่เคยทะเลาะกันเลย แต่ที่สำคัญก็คือ เมื่อเวลามีความทุกข์เวลาที่ไม่สบายใจ เขาก็จะรับฟังปัญหาเสมอ และคอยเป็นกำลังใจคอยช่วยเหลือตลอด ถึงแม้ในปัจจุบันเราทั้งสองคนจะไม่ได้เรียนที่สถาบันเดียวกันก็ตาม แต่เราก็ยังโทรถามทุกข์สุขของกันและกันอยู่เสมอ ซึ่งบางทีก็ทำให้คิดไปว่า เราก็เป็นคนหนึ่งที่โชคดีเหมือนกันทีได้รู้จักและได้มาเป็นเพื่อนกันจนมาถึงทุกวันนี้ แต่สิ่งสำคัญที่จะทำให้มิตรภาพระหว่างเพื่อนอยู่กับเราไปนานๆเราต้องรู้จักหมั่นสร้างสัมพันธภาพอยู่เสมอ ก็จะทำให้เรามีเพื่อนที่แสนดีอย่างนี้ตลอดไป
การสร้างมิตรภาพระหว่างเพื่อนสามารถทำได้ไม่ยากเลย ถ้าหากเรารู้จักสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและกัน เพียงแค่เราเริ่มต้นที่จะพูดและรู้จักยิ้มก็ถือได้ว่าเป็นการทักทายในระดับเริ่มต้นที่สามารถทำให้น่าประทับใจได้เช่นกัน และเราไม่จำเป็นต้องรอให้อีกฝ่ายเริ่มก่อน แต่เราควรเริ่มที่จะเป็นผู้ให้ก่อนเสมอ เพียงแค่นี้ก็จะทำให้เราสามารถได้รู้จักและมีเพื่อนๆได้อย่างมากมาย และคำว่ามิตรภาพระหว่างเพื่อนนั้นจะมีคุณค่ายิ่งกว่าสิ่งใด ถ้าหากเรานั้นมีเพื่อนที่ดี และจริงใจต่อกันอย่างแท้จริง

นางสาว สุพัตรา สุขเอก
คณะศึกษาศาสตร์ สาขา ภาษาไทย
รหัสนิสิต 51010513029

จิรดา สุขศิริ กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
จิรดา สุขศิริ กล่าวว่า...

นางสาวจิรดา สุขศิริ
รหัสนิสิต 52010913889 BC
กลุ่มเรียนที่ 1



เพื่อนที่ประทับใจ

"เพื่อน" เป็นคำสั้น ๆ ที่มีมากด้วยความหมายที่หลายต่อหลายคนได้ให้คำนิยามคำ ๆ นี้ไว้ แต่สำหรับตัวข้าพเจ้าเองแล้ว "เพื่อน" คือ บุคคลธรรมดาคนหนึ่ง ผู้ซึ่งเข้าใจข้าพเจ้าได้ดีที่สุด เพียงเท่านี้ก็คือเพื่อนของข้าพเจ้าแล้ว

ในชีวิตของข้าพเจ้านั้นได้พบกับบุคคลคนนั้นตั้งแต่ข้าพเจ้ายังเด็ก ทั้งเขาและข้าพเจ้าเองต่างก็มีความรู้สึกนึกคิดคล้าย ๆ กัน ทำให้เราเข้ากันได้ดี เวลาเล่น เราก็จะเล่นด้วยกัน เวลากินเราก็จะกินด้วยกัน เวลาลำบากเราก็ลำบากด้วยกัน เราผ่านเรื่องราวมากมายมาด้วยกันตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อก่อนนี้อาจไม่คิดอะไรมองเป็นเพียงแค่พฤติกรรมธรรมดาของเด็ก แต่เมื่อเติบใหญ่ทำให้ข้าพเจ้าได้เข้าใจ และรู้ซึ้งถึงความเป็นเพื่อนของเรา "จอย"เธอเป็นคนหัวดี ฉลาด และเรียนเก่ง เราคบกันมาตั้งแต่อนุบาล จนมาถึงตอนนี้อยู่ในระดับปริญญาตรีแล้ว จอยเป็นคนที่โดดเด่นเสมอ ไม่ว่าทางด้านการเรียน ความประพฤติ หรือรูปร่างหน้าตา เป็นคนที่เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบของข้าพเจ้าเลยก็ว่าได้ และสิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกประทับจับในตัวเธอนั้นคือความเสมอต้นเสมอปลาย เธอที่มีความโดดเด่นกลับไม่เคยดูถูกหรือรังเกียจคนธรรมดาอย่างข้าพเจ้า เธอยังปฎิบัติต่อข้าพเจ้าเหมือนเดิมเช่นที่เคยเป็น เธอไม่ได้หลงใหลไปกับความเด่นดังนั้น และเรายังคงเป็น "เพื่อน" กัน เธอไม่ได้ทำอะไรเสี่ยงตายเพื่อข้าพเจ้า เธอไม่ได้มอบสิ่งของเงินทองสูงค่าให้ข้าพเจ้า และเธอก็ไม่ใช่คนที่พูดดีกับข้าพเจ้าสักเท่าไหร่ แต่ข้าพเจ้ารู้สึกได้เสมอ ถึงความจริงใจที่เธอส่งผ่านคำพูดนั้น ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าใด เธอก็ได้พิสูจน์ถึงความจริงใจของคำว่าเพื่อนและมิตรภาพให้ข้าพเจ้าได้ตระหนักว่ามีค่ามีความหมายมากเพียงใด เธอไม่เคยทอดทิ้งในยามที่เพื่อนลำบาก เธอไม่เคยนิ่งดูดายเมื่อเพื่อนเจอปัญหา ไม่ต้องมีคำพูดดี ๆ มาสนทนากัน ไม่ต้องเสแสร้งต่อกัน ทุกอย่างที่เธอได้ทำนั้นแม้จะเป็นเพียงการกระทำที่ดูเหมือนจะง่าย ไม่ได้มีความสำคัญอะไรนัก แต่นี่คือสิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าเข้าใจและเห็นความสำคัญของคำว่ามิตรภาพ


ยามที่เพื่อนเดือดร้อน เพื่อนจะอยู่ข้างเพื่อนเสมอ
ยามที่เพื่อนลำบาก เพื่อนจะคอยช่วยเหลือเพื่อนเสมอ
ยามที่เพื่อนทุกข์ใจ เพื่อนจะคอยปลอบใจเพื่อนเสมอ
และในยามที่เพื่อนไม่เหลือใคร เพื่อนจะยังมีเพื่อนเสมอ

นางสาวอรอุษา บุษบง กล่าวว่า...

นางสาวอรอุษา บุษบง
รหัสนิสิต 52010119181 สาขาการพัฒนาชุมชน CD
กลุ่มเรียนที่1จิตวิทยาเพื่อสัมพันธภาพทางสังคม

เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ
เพื่อนที่ข้าพเจ้าประทับใจ ข้าพเจ้ารู้จักกับเพื่อนคนนี้มาตั้งแต้ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 เรารู้จักกันมาประมาณ 6 ปี เราสนิทกันมาก เราคุยกันได้แทบทุกเรื่อง เวลาที่มีปัญหาอะไรเราก็จะปรึกษากันคอยช่วยกันแก้ไขปัญหาและหาทางออก เราแทบไม่มีเรื่องอะไรที่จะปิดบังกันเลย เพื่อนคนนี้คอยช่วยเหลือข้าพเจ้าแทบทุกเรื่อง ทั้งเรื่องการเรียน การงาน ความรัก ครอบครัว และเรื่องอื่นๆ เพื่อนคนนี้สามารถช่วยข้าพเจ้าได้ทุกเรื่อง เวลามีปัญหาอะไรกัน เราก็จะนำปัญหาเหล่านั้นมาคุยและปรึกษากัน เวลาที่เจอกับปัญหา เราก็จะอยู่เคียงข้างกันเสมอ เพื่อนคนนี้บอกกับข้าพเจ้าเสมอว่าเขารักและเป็นห่วงข้าพเจ้ามาก เพราะว่าข้าพเจ้าเป็นคนที่เชื่อคนอื่นง่าย ไม่ค่อยกล้าพูด กล้าแสดงออกเท่าไหร่ แต่เพื่อนของข้าพเจ้าเป็นคนช่างพูด กล้าแสดงออก เพื่อนคนนี้เขาจะรู้เสมอว่าข้าพเจ้าคิดอะไรอยู่ บางครั้งเขาไม่ต้องถามข้าพเจ้าเขาก็รู้คำตอบว่าข้าพเจ้าคิดอะไรอยู่ หลังจากที่พวกเราจบ ม.6 กันแล้วเราก็แทบที่จะไม่ได้ติดต่อ หรือไม่ได้คุยกันเลย
ข้าพเจ้าประทับใจตรงที่เขาจะคอยช่วยเกลือเพื่อนทุกคน ไม่ใช่เฉพาะเพื่อนสนิทเท่านั้น เขาเป็นคนที่มีน้ำใจ เสียสละ อัธยาศัยดี
เพื่อนคนนี้ชื่อว่า นางสาว สุธิดา ไร่จันทึก ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะเกษตร สาขาการจัดการศัตรูพืช

นางสาวอรอุษา บุษบง กล่าวว่า...

นางสาวอรอุษา บุษบง
รหัสนิสิต 52010119181 สาขาการพัฒนาชุมชน CD
กลุ่มเรียนที่1จิตวิทยาเพื่อสัมพันธภาพทางสังคม

เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ
เพื่อนที่ข้าพเจ้าประทับใจ ข้าพเจ้ารู้จักกับเพื่อนคนนี้มาตั้งแต้ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 เรารู้จักกันมาประมาณ 6 ปี เราสนิทกันมาก เราคุยกันได้แทบทุกเรื่อง เวลาที่มีปัญหาอะไรเราก็จะปรึกษากันคอยช่วยกันแก้ไขปัญหาและหาทางออก เราแทบไม่มีเรื่องอะไรที่จะปิดบังกันเลย เพื่อนคนนี้คอยช่วยเหลือข้าพเจ้าแทบทุกเรื่อง ทั้งเรื่องการเรียน การงาน ความรัก ครอบครัว และเรื่องอื่นๆ เพื่อนคนนี้สามารถช่วยข้าพเจ้าได้ทุกเรื่อง เวลามีปัญหาอะไรกัน เราก็จะนำปัญหาเหล่านั้นมาคุยและปรึกษากัน เวลาที่เจอกับปัญหา เราก็จะอยู่เคียงข้างกันเสมอ เพื่อนคนนี้บอกกับข้าพเจ้าเสมอว่าเขารักและเป็นห่วงข้าพเจ้ามาก เพราะว่าข้าพเจ้าเป็นคนที่เชื่อคนอื่นง่าย ไม่ค่อยกล้าพูด กล้าแสดงออกเท่าไหร่ แต่เพื่อนของข้าพเจ้าเป็นคนช่างพูด กล้าแสดงออก เพื่อนคนนี้เขาจะรู้เสมอว่าข้าพเจ้าคิดอะไรอยู่ บางครั้งเขาไม่ต้องถามข้าพเจ้าเขาก็รู้คำตอบว่าข้าพเจ้าคิดอะไรอยู่ หลังจากที่พวกเราจบ ม.6 กันแล้วเราก็แทบที่จะไม่ได้ติดต่อ หรือไม่ได้คุยกันเลย
ข้าพเจ้าประทับใจตรงที่เขาจะคอยช่วยเกลือเพื่อนทุกคน ไม่ใช่เฉพาะเพื่อนสนิทเท่านั้น เขาเป็นคนที่มีน้ำใจ เสียสละ อัธยาศัยดี
เพื่อนคนนี้ชื่อว่า นางสาว สุธิดา ไร่จันทึก ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะเกษตร สาขาการจัดการศัตรูพืช

Unknown กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Unknown กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Unknown กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Unknown กล่าวว่า...

นาย ภาณุพงศ์ ผิวอ่อน
รหัสนิสิต 48011110462 สาขา นฤมิตศิลป์ CA
กลุ่มเรียนที่1จิตวิทยาเพื่อสัมพันธภาพทางสังคม

เพื่อนของผม

เพื่อนคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขแบ่งปันตลอดเวลา เพื่อนของผมเขาชื่อ พงษ์ศธร ห้องแซง หรือเสือ ปัจจุบันเป็นครูสอนดนตรี เป็นคนที่มีนิสัยร่าเริงแจ่มใส เป็นคนรักเพื่อนเป็นกันเอง เขาเรียนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในสาขาวิชาดนตรีสากล เป็นคนชอบสนุกสนานชื่นชอบในการเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็ก ชอบดูหนังรัก และฟังเพลงเร็กเก้สกา ทุกวันเค้าต้องจับกีต้าร์คู่ใจมาซ้อม และเล่นให้เพื่อนๆฟังทุกวัน จนได้พัฒนาฝีมือขึ้นไปเรื่อยๆทำให้มีความรู้ความสามารถทางด้านกีต้าร์ไฟฟ้าเป็นอย่างมากถ้าไม่มีเพื่อนคนนี้ก็อาจจะทำให้บรรยากาศวันนั้นๆดูงอยเงามากๆ การเล่นดนตรีของเขาถือได้ว่าเป็นพรสวรรค์อย่างไม่ว่าเค้าจะจับเครื่องดนตรีชิ้นใดเค้าก็สามารถเลยมันได้ดีทีเดียว ถึงจะรักในการเล่นดนตรีแต่เรื่องการเรียนเค้าก็ทำได้ดีทีเดียวไม่เคยต่ำกว่า 3.00 เลย
เสือเป็นเพื่อนสนิทมากที่สุด ร้องเพลง เล่นดนตรีกินเหล้า สนุกสนานด้วยกันมาหลายปี ซึ่งโดยนิใสผมกับเสือเรามีความชื่นชอบในด้านดนตรีเหมือนกันเรารักสนุกแบบว่าไปไหนไปกัน รู้จักกันกับเสือมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยม เราอยู่โรงเรียนเดียวกัน ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ นอนเตียงเดียวกันคือมันเป็นเตียง 2 ชั้น มันนอนข้างล่างส่วนผมนอนข้างบน ว่างๆก็เอากีต้าร์คู่ใจมาช้อมเล่นกันตลอด พอถึงม.3 ก็ไม่ได้เจอกันเพราะมันย้ายออกไปเรียนที่อื่น จนกระทั้งได้มาติดต่อเจอกันอีกทีตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี1 เราได้กลับมาเล่นดนตรี และทำเพลงด้วยกันอีก โดยที่ผมเป็นคนแต่งเนื้อเพลง เสือเป็นคนทำดนตรี ว่างๆทุกเสาร์อาทิตย์ผมจะไปมหาวิทยาลัยขอนแก่นประจำเพื่อไปทำดนตรี หรือบางทีมันก็มาเล่นกับผมที่สารคาม เราทำเพลงด้วยกัน บางทีผมก็ได้ไปร่วมร้องเพลงกับวงดนตรีเขาด้วยเพราะตอนที่เรียนอยู่นั้นมันก็เล่นดนตรีในผับด้วยถือได้ว่าเขาเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งเรื่องเงินเรื่องทองเขาไปเคยหวง เราไม่มีเขาก็ให้เรายืมตลอด
สิ่งที่ประทับใจในตัวเค้ามากที่สุดคือเขาเป็นคนที่มุ่งมั่นตั้งใจในการเรียน และการงาน และเขาไม่เคยทิ้งเรา ไม่เคยเห็นแก่ตัวเลย และช่วยเหลือเราในหลายๆเรื่องมาโดยตลอด คือพูดได้ง่ายๆเขาไม่ใช่เพื่อนกิน ร่วมทุกข์ ร่วมสุขมาตลอด เรามีกินก็แบ่งกันตลอด ไม่เหมือนคนในสมัยนี้ที่ต่างคนต่างแย่งชิงแข่งขันกันหาความว่าเพื่อนแท้ได้ยากมาก แทบจะหาไม่ได้เลย เพราะคนขาดน้ำใจ มุ่งที่จะหาสบายแต่ตัวเอง โดยไม่สนใจคนรอบข้างจะเป็นอยู่อย่างไร เสือทำให้ผมได้เห็นคำว่าเพื่อนแท้ จากคำที่ว่าเพื่อนกินหาง่ายเพื่อนตายหายาก ผมได้เจอกับคนที่เรียกว่าเพื่อนตายแล้ว ในตอนนี้เราก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันแล้ว เค้าไปทำงานต่างจังหวัด และวังว่าซักวันกูคงจะได้กินเหล้า ร้องเพลงกับมึงอีกนะ…….เพื่อนรัก

นางสาวจันทิมา พรหนองแสน กล่าวว่า...

เพื่อนคือคนที่รู้ใจ เพื่อนคือคนที่หวังดีต่อเรา เพื่อนคือคนที่เข้าใจเรา เพื่อน เป็นคนที่คอยช่วยเหลือเรา ยามเราทุกข์ หรือ สุข เพื่อนก็อยู่เคียงข้างเราเสมอ ในชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีเพื่อนมากมาย แต่เพื่อนที่ข้าพเจ้าประทับใจมากที่สุดคือ นางสาวพรนภา แซมรัมย์ ชื่อเล่น กุ๊ก เกิดวันที่ 12 กันยายน พ.ศ.2533กำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยมหิดล ชั้นปีที่ 1 คณะพยาบาลศาสตร์ ข้าพเจ้ารู้จักเพื่อนคนนี้ตั้งแต่เข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นเพื่อนที่ข้าพเจ้าสนิทมากที่สุด และเป็นเพื่อนที่พักด้วยกัน ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 สีที่กุ๊กโปรดปรานเป็นที่สุดคือสีฟ้า อาหารที่กุ๊กชอบรับประทานมากที่สุดคือส้มตำ ไก่ย่าง เพื่อนคนนี้เป็นคนน่ารัก อัธยาศัยดี มีความเอื้อเฝื่อเผื่อแผ่ ขยัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพื่อนเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเราตลอด เพื่อนคือคนที่ให้คำปรึกษา ยามที่เราทุกข์ ยามที่เราท้อเพื่อนจะคอยอยู่เคียงข้างเราเสมอ ยามที่เราต้องการใครสักคนมานั่งอยู่ข้างๆเพื่อนคือคนที่เราคิดถึงเป็นคนแรก ยามที่เรามีปัญหาเพื่อนคือคนที่เราโทรหาเป็นคนแรก ยามทึ่เราต้องการคนปลอบใจเพื่อนคือคนที่เราต้องการให้ปลอบ ยามจะไปเที่ยวเพื่อนคือคนแรกที่เราชวน ยามที่เราทะเลาะกันแต่ก็กลับมาคืนดีกันทุกครั้งเพราะมิตรภาพระหว่างเพื่อนจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เพื่อนคอยให้กำลังใจฉันเมื่อยามฉันร้องไห้ เพื่อนเป็นเพื่อนยามฉันไม่มีใคร เพื่อนเป็นทุกสิ่งที่ฉันขาดไม่ได้ เพื่อนเก่าจะเป็นเพื่อนฉันตลอดไปไม่ว่าจากกันนานนับสิบปี อยากบอกว่ารักเพื่อนมากที่สุด ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่เคยให้มา ไม่มีมิตรภาพใดใด ที่จะคงไว้ได้นานเท่าความเป็นเพื่อน จะเนิ่นนานเพียงใดก็ไม่ถูกลบเลื่อน
ความเป็นเพื่อนจะคงอยู่ตลอดไป
คำว่าเพื่อน..ลบไม่ได้ด้วยเวลา..
คำว่าเพื่อน..อยากจะหาซื้อมาได้..
คำว่าเพื่อน..อยากจะเลือนด้วยคำใด..
คำว่าเพื่อน..ยังเข้าใจกันและกัน..
...เธอมีฝันฉันมีฝันคนละอย่าง...
...มีชีวิตคนละทางเป็นจุดหมาย...
...ฉันไม่ลืมเธอหรอกจะบอกให้...
...ใจสองเรายังเข้าใจนะเพื่อนเอ๋ย...

นางสาวจันทิมา พรหนองแสน กล่าวว่า...

นางสาวจันทิมา พรหนองแสน
รหัสนิสิต 52010918120 สาขา การบัญชี AC
กลุ่มเรียนที่ 1 จิตวิทยาเพื่อสัมพันธภาพทางสังคม

เพื่อนที่ประทับใจ

เพื่อนคือคนที่รู้ใจ เพื่อนคือคนที่หวังดีต่อเรา เพื่อนคือคนที่เข้าใจเรา เพื่อน เป็นคนที่คอยช่วยเหลือเรา ยามเราทุกข์ หรือ สุข เพื่อนก็อยู่เคียงข้างเราเสมอ ในชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีเพื่อนมากมาย แต่เพื่อนที่ข้าพเจ้าประทับใจมากที่สุดคือ นางสาวพรนภา แซมรัมย์ ชื่อเล่น กุ๊ก เกิดวันที่ 12 กันยายน พ.ศ.2533กำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยมหิดล ชั้นปีที่ 1 คณะพยาบาลศาสตร์ ข้าพเจ้ารู้จักเพื่อนคนนี้ตั้งแต่เข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นเพื่อนที่ข้าพเจ้าสนิทมากที่สุด และเป็นเพื่อนที่พักด้วยกัน ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 สีที่กุ๊กโปรดปรานเป็นที่สุดคือสีฟ้า อาหารที่กุ๊กชอบรับประทานมากที่สุดคือส้มตำ ไก่ย่าง เพื่อนคนนี้เป็นคนน่ารัก อัธยาศัยดี มีความเอื้อเฝื่อเผื่อแผ่ ขยัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพื่อนเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเราตลอด เพื่อนคือคนที่ให้คำปรึกษา ยามที่เราทุกข์ ยามที่เราท้อเพื่อนจะคอยอยู่เคียงข้างเราเสมอ ยามที่เราต้องการใครสักคนมานั่งอยู่ข้างๆเพื่อนคือคนที่เราคิดถึงเป็นคนแรก ยามที่เรามีปัญหาเพื่อนคือคนที่เราโทรหาเป็นคนแรก ยามทึ่เราต้องการคนปลอบใจเพื่อนคือคนที่เราต้องการให้ปลอบ ยามจะไปเที่ยวเพื่อนคือคนแรกที่เราชวน ยามที่เราทะเลาะกันแต่ก็กลับมาคืนดีกันทุกครั้งเพราะมิตรภาพระหว่างเพื่อนจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เพื่อนคอยให้กำลังใจฉันเมื่อยามฉันร้องไห้ เพื่อนเป็นเพื่อนยามฉันไม่มีใคร เพื่อนเป็นทุกสิ่งที่ฉันขาดไม่ได้ เพื่อนเก่าจะเป็นเพื่อนฉันตลอดไปไม่ว่าจากกันนานนับสิบปี อยากบอกว่ารักเพื่อนมากที่สุด ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่เคยให้มา ไม่มีมิตรภาพใดใด ที่จะคงไว้ได้นานเท่าความเป็นเพื่อน จะเนิ่นนานเพียงใดก็ไม่ถูกลบเลื่อน
ความเป็นเพื่อนจะคงอยู่ตลอดไป
คำว่าเพื่อน..ลบไม่ได้ด้วยเวลา..
คำว่าเพื่อน..อยากจะหาซื้อมาได้..
คำว่าเพื่อน..อยากจะเลือนด้วยคำใด..
คำว่าเพื่อน..ยังเข้าใจกันและกัน..
...เธอมีฝันฉันมีฝันคนละอย่าง...
...มีชีวิตคนละทางเป็นจุดหมาย...
...ฉันไม่ลืมเธอหรอกจะบอกให้...
...ใจสองเรายังเข้าใจนะเพื่อนเอ๋ย...

นางสาวดวงกมล พูนเกษม 52010911179 กลุ่ม 1 กล่าวว่า...

นางสาวดวงกมล พูนเกษม
รหัส 52010911179
กลู่มที่1
กล่าวว่า....
เพี่อนที่ข้าพเจ้าประทับใจ

เพื่อนคือคนสำคัญอีกคนหนึ่งรองจากคนในครอบครัวมา เรามีเพื่อนเยอะแยะมากมายแต่ละคนก็มีนิสัยที่แตกต่างกันไปแต่พวกเราก็อยู่กันได้ไม่ว่ามีเรื่องอะไรพวกเราก็จะปรึกษากันได้ทุกเรื่องบางอย่างที่ไม่ดีพวกเราก็จะคอยเตือนสติกัน พวกเราคุยได้ทุกเรื่องเพื่อนสุขเราก็สุข เพื่อนทุกข์เราก็ทุกข์เราพร้อมที่จะก้าวไปด้วยกันไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
สำหรับเพื่อนที่ข้าพเจ้าประทับใจเป็นคนที่จบมาจากโรงเรียนมัธยมเดียวกัน เป็นผู้หญิงและตอนนี้ก็กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เขาเป็นคนที่มีนิสัยดี ขยัน มีความอดทนและตั้งใจเรียน สดใสร่าเริง ดิฉันกับเพื่อนคนนี้รู้จักกันมา 6 ปีแล้วก็รู้ว่านิสัยของกันและกันเป็นอย่างไรเวลาที่ดิฉันมีเรื่องอะไรก็จะปรึกษาเขาตลอดแล้วเขาก็ให้คำปรึกษาตลอด เขาคอยอยู่เคียงข้างดิฉันเสมอในยามที่ดิฉันท้อ เขาจะพูดเสมอว่า อย่าคิดมากนะใจเย็นๆเดียวทุกอย่างมันก็ดีเอง แล้วในเวลาที่เขาท้อเขาก็จะปรึกษาดิฉันเหมือนกันเราจะคอยอยู่ข้างกันตลอดเวลาหรือไม่ก็จะโทรศัพท์คุยกันตลอด ความประทับใจที่ดิฉันมีในตัวเขา คือ เขาเป็นคนที่รู้จักคิด ตั้งใจเรียนหนังสือ เขาไม่ค่อยจะเกเรสักเท่าไรและที่สำคัญเขาเป็นคนมีความรับผิดชอบสูง บางครั้งเขาก็จะชอบสอนการบ้านให้ดิฉันคอยติวหนังสือให้ตลอด ดิฉันจึงรักและผูกพันสนิทสนมกับเขามาก ดิฉันกับเขามีนิสัยที่แตกต่างกัน เขาเป็นคนอารมณ์เย็นแต่ดิฉันเป็นคนอารมณ์ร้อนแต่เราก็สามารถเข้ากันได้ในทุกๆเรื่อง
ดังนั้นการที่เราจะเป็นเพื่อนกัน เราจะต้องใจเย็นพอสมควรต้องรับฟังความคิดเห็นของกันและกัน คำว่าเพื่อนที่พวกเราเข้าใจดิฉันไม่รู้ว่าคนอื่นจะเข้าใจแบบไหนแต่สำหรับตัวดิฉันเองถ้าเรามีความรักและความผูกพันระหว่างกันมีอะไรที่ช่วยเหลือกันได้เราก็ควรที่จะช่วยเหลือกัน และที่สำคัญที่สุดก็คือ มิตรภาพระหว่างเราทั้งสองคน เพราะเราจะเป็นมิตรภาพที่ดีตลอดไป

นาตยา ไชยโส กล่าวว่า...

ให้นิสิตเรียงความเกี่ยวกับเพื่อนที่ประทับใจ โดยให้เล่าประวัติของเพื่อนคนนั้นโดยคร่าว ๆ ความสัมพันธ์นิสิตกับเพื่อนคนนั้น ประเด็นที่นิสิตประทับใจในตัวเขาเพราะอะไรถึงประทับใจ

ประวัตินางสาวพัชราวดี บุญเรื่องลือ ชื่อเล่น มะเหมี่ยว เกิดวันที่ 9 พ. ค. 2532 ปีมะเส็ง เป็นลูกคนเดียวในครอบครัวอาศัยอยู่สามคน พ่อแม่และลูก อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 115 หมู่ 5
ต. ลำปาว อ. เมือง จ. กาฬสินธ์ 46000
สีที่ชอบ สีฟ้า สีชมพู สีขาว สัตว์เลี้ยงที่ชอบ สุนัข กีฬาที่ชอบ แบดมินตัน เบอร์โทร. 0872214929
คติประจำใจ ทะเลยังมีคลื่น ทะเลจะราบรื่นต้องมีอุปสรรค
ความสัมพันธ์ระหว่างข้าพเจ้ากับเหมี่ยว เราเป็นเพื่อนที่มีความสนิทสนมกันมาก เรามีทั้งความรักและความห่วงใยให้กันและกันเสมอ ในเมื่อยามทุกข์เราก็จะทุกข์ด้วยกัน เมื่อยามที่สุขเราก็จะสุขด้วยกันทั้งคู่ มะเหมี่ยวเป็นเพื่อนที่มีแต่ความรักให้ฉันดีเสมอมาไม่เป็นคนขี้อิจฉาหรือนินทาผู้อื่นเป็นคนง่าย ๆ รักเพื่อน เป็นคนอ่อนโยน และเราก็เรียนอยู่ในคณะเดียวกันเองเดียวกัน เราไม่เคยอยู่ห่างกัน ไปไหนด้วยกันตลอด พักห้องเดียวกัน เราสองคนมีสิ่งที่คล้ายกันหลาย ๆ อย่างมีความจริงใจให้กันมาโดยตลอด ไม่ว่าเราจะมีเรื่องที่ไม่สบายใจแค่ไหนเหมี่ยวจะคอยให้คำปรึกษาและเป็นกำลังใจให้กับข้าพเจ้าเสมอ ม่าเหมี่ยวจะเตือนเสมอถึงการจะทำอะไรต้องคิดให้ดีและทบทวนสิ่งนั้นดูว่ามันควรจะทำดีหรือไม่และมันมีผลดีผลเสียมากน้อยแค่ไหน มะเหมี่ยวเป็นคนที่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนทำเสมอและยอมรับฟังสิ่งที่เพื่อนจะทำหรือคิด
สิ่งที่ข้าพเจ้าประทับใจในตัวเหมี่ยวคือเหมี่ยวเป็นคนที่มีความน่ารัก เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่เห็นแก่ตัว เป็นคนรักสนุก มีความเป็นกันเอง ม่าเหมี่ยวจะเอาใจใส่กับเรื่องของข้าพเจ้าเสมอ เราจะรู้ดีว่าเวลาใครคนหนึ่งเสร้าหรือมีเรื่องไม่สบายใจท่าทางจะเป็นแบบไหน และเหมี่ยวเป็นเพื่อนที่ไม่เคยทำให้ข้าพเจ้าเสียใจหรือทุกข์ใจเลย เขาจะมีแต่ความรักและเอาใจใส่ต่อคนรอบข้างเสมอ ไม่ใช่แต่ข้าพเจ้าเท่านั้นที่ประทับใจในตัวเขา แต่เขาเป็นคนที่ทำให้เพพื่อนร่วมห้องประทับใจและชอบในตัวเขาทั้งนั้น และอีกอย่างที่เห็นได้ชัดเลยคือเหมี่ยวจะเป็นคนที่เก็บความลับของเพื่อนได้ดีมาก ๆ
สุดท้ายนี้ในการที่เราจะมีเพื่อนหรือคนที่เราประทับใจสักคนไม่ใช่สักแต่ว่าเขาคนนั้นเป็นคนดีเท่านั้น และเราไม่ควรที่จะดูบุคคลแค่ภายนอกควรจะมองถึงจิตใจภายในตัวของเขาเองว่าเขาคิดอย่างไร และเมื่อเราคบกับใครเป็นเพื่อนแล้วเราก็ต้องให้ความรักตอบเขาด้วย ให้ความจริงใจ ซื่อสัตย์ และเราต้องพร้อมที่จะเผชิญปัญหากับเขาด้วย ถ้าเขาพร้อมและเต็มใจให้การช่วยเหลือเรา

นางสาวนาตยา ไชยโส
50010510594 เอกจิตวิทยา
คณะศึกษาศาสตร์ ปี 3

นางสาว สุภาธินี บุญชู กล่าวว่า...

นางสาวสุภาธินี บุญชู
รหัสนิสิต 50011122009 3 ca กลุ่มเรียนกลุ่ม 1

เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ
เพื่อน ในนิยามของฉัน คือ คนที่ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ให้กันมาเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษาเพื่อนฉันที่สนิทกันมากที่สุด มีชื่อว่า นางสาว เกศินี จันทร์โท ตอนเด็กที่สนิทกันคือ อยู่ ม. ต้น อยู่โรงเรียน ผดุงนารีมหาสารคาม บ้านเพื่อนอยู่ที่บ้านหนองโนจังหวัด มหาสารคาม ซึ่งนั่งโต๊ะติดกัน แลมีนิสัยที่คล้ายกันมากตอนเด็กๆๆฉันชอบ ร้องเพลงให้เพื่อนฉันฟังเพื่อนฉันชอบมาก และชวนฉันอ่านหนังสือ ฉันรักศิลปะ เพื่อนฉันจึงขอร้องให้ฉัน วาดรูป อุลตร้าแมนให้ ฉันเลยวาดให้และฉันรู้สึกภาคภูมิใจมากที่ฉันวาดรูปออกมาใช้ได้เลยทีเดียว ตอนนี้เพื่อนคนที่ทำงานที่ชลบุรี ที่โรงแรมชื่อดังของจังหวัดชลบุรี คือ โรงแรม hard rock ฉันรู้สึกภูมิใจในตัวเพื่อนคนนี้มากฉันชอบเพื่อนคนนี้ตรงที่มีอุปนิสัยที่ ร่าเริง ช่างพูด เอาใจเก่ง และดูแลฉันได้ เป้นอย่างดี และเอาใจเก่งซะด้วย ช่วงนี้งานเพื่อนฉัน เยอะมาก ฉันรู้สึกเป้นห่วงเค้ามาก ทุกวันนี้ก็พยายาม โทรหากัน ติดต่อกันทางโทรศัพท์เพื่อบอกว่าคิดถึงกัน บางครั้งก็ติดต่อทาง hi 5 บางครั้งก็ ลง มาหาอยู่ที่บ้านซึ่งฉันดีใจมากในวันที่เพื่อนสนิท ของฉัน รับปริญญา เพื่อนฉันมาหา ฉันแต่ฉันไม่เจอเพื่อนของฉัน เพราะ ฉันไปพักที่บ้านแล้ว เกิดความเข้าใจผิดกันเล็กน้อย
แต่สรุปแล้ว ฉันก็ดีใจ ที่เพื่อนสนิทของฉันประสบความสำเร็จใน ชีวิตและมีหน้าที่การงานได้สมบูรณ์แบบ
และรักงานที่ทำ ส่วนฉันก็จะตั้งใจเรียน ต่อไป เพื่อ อนาคตของฉันและฝันที่ฉัน วาดไว้

หนูเอื้อง เวียงฆ้อง กล่าวว่า...

ให้นิสิตเรียงความเกี่ยวกับเพื่อนที่ประทับใจ โดยให้เล่าประวัติของเพื่อนคนนั้นโดยคร่าว ๆ ความสัมพันธ์นิสิตกับเพื่อนคนนั้น ประเด็นที่นิสิตประทับใจในตัวเขาเพราะอะไรถึงประทับใจ

ประวัติส่วนตัว

ประวัตินางสาวกาญจนา หิรัญเขต ชื่อเล่น แอม เกิดวันที่ 18 พ. ย. 2531 ปีมะเส็ง
เป็นลูกคนที่ 2 มีพี่ชาย 1 คน ในครอบครัวอาศัยอยู่ 4 คน พ่อแม่พี่ชายและตัวเขาเอง
กำลังศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นคนที่ชอบสุนัขมาก
สีที่ชอบสีฟ้า กีฬาที่ชอบฟุตบอล

ความสัมพันธ์ระหว่างข้าพเจ้ากับเพื่อนสนิท

เราเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่ ม. 4 ตอนเข้าโรงเรียนใหม่ ๆ เราก็เลยเข้ากลุ่มเล่นด้วยกัน กลุ่มเรียนเราก็อยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะไปกินข้าว ดูหนัง เที่ยว เราก็ไปด้วยกันตลอด มีอะไรก็จะช่วยเหลือกันทุกอย่าง พวกเราร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอดจนจบม. 6 พอเขามหาวิทยาลัยแล้วเราก็แยกกัน แต่เราสองคนก็ยังติดต่อกันเป็นระยะ เวลาว่าง ๆ หยุดเรียนก็จะนัดเจอกันร้องคาราโอเกะ กินส้มตำเจ้าประจำ เลาใครมีปัญหาก็จะช่วยกันแก้ปัญหา ที่สำคัญพวกเราไม่มีความลับต่อกันเลย

สิ่งที่ข้าพเจ้าประทับใจในตัวแอม

แอมเป็นคนที่มีน้ำใจมาก ๆ คือ มีน้ำใจกับทุกคนถึงแม้ไม่ค่อยสนิทก็ตามไม่เห็นแก่ตัว โดยเวลาลอกข้อสอบพวกเราจะไม่โกหกกัน แม้กระทั่งเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ถ้าเพื่อนไม่มีแอมก็จะให้ยืม
แอมเป็นคนให้คำปรึกษาเพื่อนได้ดี เวลาข้าพเจ้าหรือเพื่อนคนอื่นมีปัญหาแอมก็จะให้ความช่วยเหลือ แอมเป็นเพื่อนที่น่ารักแบบ่งปันสิ่งที่ดีให้กับเพื่อนเสมอ
เป็นคนที่จริงใจและมีความรักความอบอุ่นให้เพื่อนเสมอ แอมเป็นคนที่ดูแลและเอาใจต่อสิ่งที่เพื่อนทำเสมอ ข้าพเจ้ารักเขาและชอบเขาก็ตรงนี้และค่ะ


นางสาวหนูเอื้อง เวียงฆ้อง
50010520024 เอกจิตวิทยา
คณะศึกษาศาสตร์ ปี 3

ศุภลักษณ์ ศรีสุวอ กล่าวว่า...

ให้นิสิตเรียงความเกี่ยวกับเพื่อนที่ประทับใจโดยให้เล่าประวัติของเพื่อนคนนั้นโดยคราวๆว่าความสัมพันธ์ของนิสิตกับเพื่อน ประเด็นที่นิสิตประทับใจในตัวเค้า เพราะอะไรถึงประทับใจ

ประวัติของนางสาวสุนิสา นามสกุล จุมจัง ชื่อเล่น ปราง เกิด วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2531 ปีมะโรง
เป็นลูกคนที่ 1 มีน้องสาว 2 คน กำลังศึกษาอยู่ที่ คณะการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ปรางเป็นคนน่ารัก ไม่ค่อยพูด ชอบสีฟ้าเป็นชีวิตจิตใจ ชอบเล่นกีฬาวอลเลย์บอล ชอบผู้ชายผอมสูง
คติประจำใจ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด

ความสัมพันธ์ระหว่างข้าพเจ้ากับเพื่อน

ข้าพเจ้าเป็นเพื่อนกับปราง มาตั้งแต่ ตอนเรียนอยู่ชั้น ม. 1 เราเป็นเพื่อนกันมาเรื่อยๆ เราเรียนมาด้วยกันจนกระทั่งถึงชั้น ม .6 เราก็เริ่มหาที่เรียนกัน เราไปสอบพยาบาลด้วยกันถึงจังหวัดนนทบุรี เราจะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด จนเพื่อนๆในกลุ่มบอกว่า มีปรางอยู่ที่ไหนต้องมีข้าพเจ้าอยู่ที่นั่น จนกระทั่ง เรียนมาจนจบ ม .6
เราก็ได้แยกกัน เพราะข้าพเจ้า สอบได้ที่ มหาวิทยาลัย มหาสารคาม แล้วเพื่อนไม่ได้สอบด้วย เราก็เลยต้องแยกกัน
แต่ทุกวันนี้ ก็ยังติดต่อกันอยู่ ยังคุยกันเหมือนเดิม

สิ่งที่ข้าพเจ้าประทับใจในตัวของเพื่อนคนนี้

-เค้าเป็นคนน่ารัก ชอบถนอมน้ำใจของเพื่อน แต่บางครั้ง ก็เป็นคนพูดตรงๆ
-เค้าเป็นคนขยันเรียน เรียนเก่ง เป็นคนซื่อสัตย์ และตรงต่อเวลา มีอะไรก็ช่วยเหลือเพื่อนๆเค้าเป็นคนรักเพื่อน จะยอมเพื่อนเสมอ และไม่ชอบมีปากมีเสียงกับใคร
-แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าประทับใจที่สุด คือ เวลาที่ข้าพเจ้ามีปัญหา ก็มีแต่เพื่อนคนนี้ที่คอยอยู่ข้างๆ คอยให้กำลังใจ คอยปลอบ คอยให้คำปรึกษา จนสามารถที่จะผ่านพ้นปัญหานั้นๆไปได้ จนกระทั่งวันที่เราแยกจากกันแต่เราก็ยังติดต่อกันอยู่เรื่อยๆคอยให้คำปรึกษาซึ่งกันและกัน แม้จะไม่ได้เจอหน้ากัน เราก็ยัง เป็นเพื่อนกันอยู่ ความเป็นเพื่อนของเรายังคงเดิม



นางสาว ศุภลักษณ์ ศรีสุวอ รหัสนิสิต 50010510602 คณะศึกษาศาสตร์ เอกจิตวิทยา(PSY)

นางสาวอรอุมา อ่างบุญมี กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
นางสาวอรอุมา อ่างบุญมี กล่าวว่า...

นางสาวอรอุมา อ่างบุญมี รหัส 51010911386 (GM) กลุ่มเรียนที่ 1

เรื่อง เพื่อนที่นิสิตประทับใจ

ดิฉันนางสาวอรอุมา อ่างบุญมี นิสิตคณะการบัญชีและการจัดการ ชั้นปีที่ 2 เพื่อนที่ดิฉันสนิทและประทับใจชื่อนางสาวสุปราณี อ่อนตา ชื่อเล่นจุ๊บ นิสิตคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม ชั้นปีที่ 2
เราสองคนสนิทกันมาก เราเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 เราเรียนห้องเดียวกันมาตลอด เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ในกลุ่มของเรามีทั้งหมด 9 คน แต่เราจะสนิทสนมกันมากกว่าเพื่อนคนอื่น ๆ เวลาไปเรียนเราก็ไปด้วยกัน เวลากลับบ้านเราก็กลับพร้อมกัน เวลามีเรื่องไม่สบายใจเราก็จะคอยปลอบใจซึ่งกันและกัน ให้กำลังใจกันเสมอ พอเราเรียนจบต่างคนก็ต่างไปทำหน้าที่ของตัวเอง ทำตามความฝันของตัวเอง จนเราคิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีก แต่แล้วความเป็นเพื่อนที่เรามีให้กันมานานก็พาเรามาพบเจอกันอีก เราสองคนได้มาเรียนที่เดียวกัน พักหอเดียวกัน ห้องเดียวกันมาตั้งแต่อยู่ปี 1 แต่เราเรียนคนละคณะ มีอะไรเราก็ช่วยเหลือกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องส่วนตัว เราคอยให้คำแนะนำซึ่งกันและกันเสมอในบางครั้งเราอาจไม่เข้าใจกันทะเลาะกันเองแต่ในคำว่าเพื่อนทำให้เราปรับความเข้าใจกันได้ เวลามีปัญหาเราก็จะหันหน้าเข้าหากัน พูดคุยกัน ร่วมมือกันแก้ไขปัญหา ในทุก ๆ เรื่อง
วันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน แต่ในความเป็นเพื่อนเรายังมีกันและกันเสมอ เราจะคอยอยู่ข้าง ๆ กัน คอยเป็นเพื่อน เป็นที่ปรึกษาให้กัน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ความสัมพันธ์อันดีที่เรามีต่อกันจะไม่เลือนหายไปตามกาลเวลา เราสัญญากันว่าเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดกาลและตลอดไป

นางสาวอรอุมา อ่างบุญมี กล่าวว่า...

นางสาวอรอุมา อ่างบุญมี รหัส 51010911386 (GM) กลุ่มเรียนที่ 1

เรื่อง เพื่อนที่นิสิตประทับใจ

ดิฉันนางสาวอรอุมา อ่างบุญมี นิสิตคณะการบัญชีและการจัดการ ชั้นปีที่ 2 เพื่อนที่ดิฉันสนิทและประทับใจชื่อนางสาวสุปราณี อ่อนตา ชื่อเล่นจุ๊บ นิสิตคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม ชั้นปีที่ 2
เราสองคนสนิทกันมาก เราเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 เราเรียนห้องเดียวกันมาตลอด เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ในกลุ่มของเรามีทั้งหมด 9 คน แต่เราจะสนิทสนมกันมากกว่าเพื่อนคนอื่น ๆ เวลาไปเรียนเราก็ไปด้วยกัน เวลากลับบ้านเราก็กลับพร้อมกัน เวลามีเรื่องไม่สบายใจเราก็จะคอยปลอบใจซึ่งกันและกัน ให้กำลังใจกันเสมอ พอเราเรียนจบต่างคนก็ต่างไปทำหน้าที่ของตัวเอง ทำตามความฝันของตัวเอง จนเราคิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีก แต่แล้วความเป็นเพื่อนที่เรามีให้กันมานานก็พาเรามาพบเจอกันอีก เราสองคนได้มาเรียนที่เดียวกัน พักหอเดียวกัน ห้องเดียวกันมาตั้งแต่อยู่ปี 1 แต่เราเรียนคนละคณะ มีอะไรเราก็ช่วยเหลือกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องส่วนตัว เราคอยให้คำแนะนำซึ่งกันและกันเสมอในบางครั้งเราอาจไม่เข้าใจกันทะเลาะกันเองแต่ในคำว่าเพื่อนทำให้เราปรับความเข้าใจกันได้ เวลามีปัญหาเราก็จะหันหน้าเข้าหากัน พูดคุยกัน ร่วมมือกันแก้ไขปัญหา ในทุก ๆ เรื่อง
วันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน แต่ในความเป็นเพื่อนเรายังมีกันและกันเสมอ เราจะคอยอยู่ข้าง ๆ กัน คอยเป็นเพื่อน เป็นที่ปรึกษาให้กัน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ความสัมพันธ์อันดีที่เรามีต่อกันจะไม่เลือนหายไปตามกาลเวลา เราสัญญากันว่าเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดกาลและตลอดไป

นายมานพ อดทน กล่าวว่า...

นางสาวนิฐินันท์ นนทะจันทร์ รหัส 50010514022ETC กลุ่มที่ 1

ให้นิสิตเรียงความเกี่ยวกับเพื่อนที่นิสิตประทับใจ โดยให้เล่าประวัติของเพื่อนคนนั้นโดยคร่าวๆ ความสัมพันธ์ระหว่างนิสิตกับเพื่อนคนนั้น ประเด็นที่นิสิตประทับใจในตัวเขา เพราะอะไร ขนาดความยาวประมาณ 1 หน้ากระดาษ ส่งภายใน 31 กรกฎาคม 2552

เพื่อนเป็นคำที่สั้นแต่ก็กินใจเราเพราะเพื่อนทำให้เราสุขทุกแบ่งปันน้ำใจให้กันเป็นคนที่เราปรับทุกได้ทุกเรื่องและเพื่อนนี้มีทั้งเพื่อนแท้ที่จริงใจต่อเราและเพื่อนที่ค่อยแต่ซ้ำเติมเราแล้วแต่เราจะเลือกว่าเราจะคบเพื่อนแบบไหน
เพื่อนคนนี้เป็นคนร้อยเอ็ด อำเภอเกษตรวิสัย บ้านกู่กาสิงห์ ชื่อซัน เราเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจนโตแล้วแยกย้ายกันไปเรียนคนล่ะที่และบ้านอยู่แถวเดียวกันเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากมีอะไรก็ช่วยเหลือกันตลอด ประทับใจในตัวเพื่อนคนนี้คือเขาเป็นคนที่ขยันช่วยพ่อแม่ทำงานไร่นาเลี้ยงวัว ทำกับข้าวเก่ง งานบ้านงานเรือนทำได้ดีทุกอย่างมีน้ำใจเวลามีปัญหาก็ปรึกษากันตลอดแบ่งปันความรู้เวลาเรียนทำการบ้านก็ช่วยกันทำขี่รถไปเรียนด้วยกันทุกวันไม่มีตังก็ให้ยืมเวลามีปัญหาปรึกษาได้ทุกอย่างแนะนำในสิ่งที่ดีทำให้ดิฉันมีวันนี้ได้ด้วยคำแนะนำของซัน ที่เป็นเพื่อนเป็นคนรู้ใจเป็นทุกสิ่งเวลาดิฉันเดือดร้อนก็ออกหน้ารับแทนตลอดทำให้ประทับใจเพื่อนหญิงคนนี้มากแล้วตอนนี้ก็ยังติดต่อกันตลอดแม้เราจะเรียนกันคนละที่ก็ตามแต่เวลาเราจะกับบ้านเราก็นัดเจอแล้วกับพร้อมกันคนนี้คือเพื่อนแท้ของดิฉันและเพื่อนคนอื่นๆก็ได้แยกย้ายกันไปไม่ได้ติดต่อกันแต่ดิฉันยังติอต่อกับซันอยู่เพราะเขาเป็นเพื่อนที่แสนดีที่สุดเท่าที่ได้เจอมาและไม่ว่าอะไรซันก็ไม่ลืมดิฉันเพราะซันเป็นคนที่ไม่ทิ้งเพื่อนเวลามีอะไรก็ปรึกษาได้เรามีอะไรที่คล้ายกันเกือบทุกอย่างเข้ากับทุกคนในครอบครัวได้และซันมีนิสัยดีนอบน้อมถ่อมตนรู้จักสัมาคารวะอะไรควรไม่ควรทำให้เรายังคบกันได้จนถึงทุกวันนี้และตลอดไปนี้ล่ะค่ะทำให้ดิฉันประทับใจเพื่อนคนนี้มาก

นางสาวจุฬาลักษณ์ มีสุข กล่าวว่า...

นางสาวจุฬาลักษณ์ มีสุข
รหัสนิสิต 52011011401 HOS กลุ่ม 1

เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ
เพื่อนเป็นคนสำคัญในเวลาที่เราไม่สบาบใจโดยเฉพาะในวัยรุ่นจะใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับเพื่อนเพราะเป็นบุคคลหนึ่งที่อยุ่กับเราตลอดเวลาและเมื่อเรามีเรื่องหรือปัญหาใดๆที่ไม่สามารถปรึกษาผู้ใหญ่เราจะปรึกษาเพื่อนเป็นอันดับแรกเพราะเพื่อนจะให้คำปรึกษาได้ดีกว่าทุกๆคนเพราะเพื่อนอยุ่กับเรามากที่สุดและอีกอย่างก็คืออย่ในวัยเดียวกันจึงสามารถปรึกษากันได้ทุกเรื่อง
การที่เรามีเพื่อนที่สนิทไว้ก็จะทำให้เรามีที่ปรึกษาอยู่ด้วยฉันเป้นคนรักเพื่อนมากและติดเพื่อนมากเวลาส่วนใหญ่มักอยุ่กับเพื่อนถ้าเพื่อนคนไหนที่ดีและจริงใจด้วยฉันก็จะยิ่งมีความรักและจริงใจมากขึ้นเพื่อนทำให้เรารู้ว่าการใช้ชีวิตอยู่กับผู้อื่นควรมีความจริงใจต่อกันและช่วยเหลือกันเมื่อมีปัญหาและเป็นคนที่ไม่ชอบเที่ยวชอบอยุ่กับบ้านและเมื่อมาเจอเพื่อนกลุ่มใหม่เค้าก็มีการเที่ยวบ้างแต่ไม่เกเรเที่ยวเพื่อการครายเครียดเป็นประสบการณ์ในชีวิตช่วงหนึ่งของวัยรุ่นแต่ก็ไม่ทิ้งการเรียนทำให้เรารู้ว่าการที่เราออกมาสู่โลกภายนอกเป็นอย่างไงและต้องรุ้ทันโลกภายนอกด้วย ก็เหมือนการเรียนไม่จำเป็นจะต้องเรียนแต่ในห้องเรียนเราต้องเรียนรู้อะไรหลายๆอย่างนอกห้องเรียนด้วย
ดังนั้นคำว่าเพื่อนซึ้งมีความหมายมากสำหรับดิฉันเพราะเพื่อนสอนให้เราได้รุ้อะไรมากมายเกี่ยวกับกราอยุ่ร่วมกันโดยที่เราก็ไม่รู้จักกันมาก่อนและทุกคนบนโลกนี้ก็ไม่มีไครที่จะอยู่คนเดียวโดยไม่มีเพื่อนแต่ในที่สุดแล้วเราก้จะต้องช่วยเหลือตนเองบ้างในบางครั้งเพราะเพื่อนก็ไม่สามารถช่วยเหลือเราได้ตลอดเวลาแต่การที่เรามีเพื่อนก็ไม่ใช่ว่าจะพึ่งพาแต่เพื่อนต่างคนก้ควรที่ต้องช่วยเหลือกันและเราควรเก็บความทรงจำดีๆเกี่ยวกับเพื่อนไว้เผื่อวันหนึ่งเราอาจจะต้องแยกจากกันแต่เราก้ยังมีความทรงจำที่ดีเก็บเอาไว้ในใจเราเสมอ

นางสาวเกตุสุดา ลาคำภา กล่าวว่า...

นางสาวเกตุสุดา ลาคำภา รหัสนิสิต 51010911507 (GM) กลุ่มเรียนที่1

เรื่อง เพื่อนที่นิสิตประทับใจ

ข้าพเจ้านางสาวเกตุสุดา ลาคำภา นิสิตคณะการบัญชีและการจัดการ สาขา กาจัดการ ชั้นปีที่ 2 ประวัติเพื่อนที่นิสิตประทับใจ ชื่อนางสาวสุภารัตน์ ยุบลเมฆ ชื่อเล่น แป๋ว ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ ม.รามคำแหงกรุงเทพมหานคร คณะนิติศาสตร์ ชั้นปีที่ 2
ความสัมพันธ์ก็คือเป็นเพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันตอนสมัยมัธยมศึกษาตอนปลายและ เป็นเพื่อนที่สนิทมากจนสามารถพูดเรื่องส่วนตัวให้ฟังได้
ประเด็นที่ประทับใจเพื่อนคนนี้ก็คือ เป็นคนที่จริงใจกับเพื่อนทุกคนเพราะเพื่อนคนนี้เป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนเสมอ แม้ว่านิสิตจะพึ่งรู้จักกับเพื่อนคนนี้แค่ในระยะเวลาสามปีเพื่อนคนนี้ก็เป็นคนที่นิสิตสามารถให้ความไว้วางใจได้เพื่อนคนนี้เป็นคนที่จะช่วยเหลือเพื่อนอยู่ตลอดเวลาและเวลาที่เพื่อนคนไหนมีปัญหาก็จะมาปรึกษาเพื่อนคนนี้อยู่เสมอ เขาก็จะรับฟังคำปรึกษาของเพื่อนและก็ให้คำปรึกษาและให้คำแนะนำที่ดีกับเพื่อนอยู่เสมอ แม้เวลาที่นิสิตมีเรื่องไม่สบายใจนิสิตก็จะพูดให้เพื่อนคนนี้ฟังเพื่อนคนนี้ก็จะรับฟังและให้คำแนะนำ เราทั้งสองเรียนห้องเดียวกันเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก เวลาไปไหนเราก็จะไปด้วยกันแม้แต่เวลาอยู่โรงเรียนหรือเวลากลับบ้านเราก็จะกลับพร้อมกัน แม้บางเวลาเราอาจมีเรื่องที่ไม่เข้าใจกันบ้างเราก็อาจทะเลาะกันแต่มันก็ไม่สามารถทำให้ความเป็นเพื่อนของเราน้อยลง เราก็จะหันหน้ามาพูดคุยกันให้เข้าใจ นิสิตกับเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันไม่ว่าจะมีปัญหาหนักหนาสาหัสเพียงไรเราทั้งสองจะอยู่ข้างกันเสมอจะคอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะไปเที่ยวเล่นที่ไหนเราก็จะไปด้วยกันเสมอพูดได้เลยว่ามีเพื่อนคนนี้ที่ไหนต้องมีนิสิตที่นั่น
แต่ก็น่าเสียมากเลยที่เราไม่สามารถมาเรียนที่เดียวกันได้เพราะ ต่างคนก็ต้องทำตามความฝันของตัวเอง แต่เราก็ยังติดต่อพูดคุยกันอยู่เสมอเวลามีเรื่องไม่สบายใจทีไรนิสิตก็จะโทรไปปรึกษาเพื่อนคนนี้ตลอดเลยและเราสองคนก็จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดไป

Unknown กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
นาย ณัฐทวัฒน์ อุ่นจิต กล่าวว่า...

นายณัฐทวัมน์ อุ่นจิต
รหัสนิสิต 52010911749
สาขาการจัดการ กลุ่มเรียนที่ 1

เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ
คำว่าเพื่อน เป็นคำสั่นๆ ง่ายๆ แต่แท้จริงแล้วจะมีซักกี่คนที่เข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงของมัน มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ดังนั้นการอยุ่ร่วมกันเป็นสังคมย่อมต้องมีการพึ่งพาอาศัยกัน เพื่อนมีหลากหลายคำนิยาม แต่สำหรับผมจะขออธฺบายนิยามคำว่า เพื่อน คือ ผู้ที่เราสนิทและไว้ใจ เป็นคนที่คอยดูแลให้กำลังใจในยามที่มีความทุกข์ ท้อใจ เป็นคนที่เราปรึกษาได้เกือบทุกเรื่อง
ผมมีเพื่อนผู้หญิงคนนึงชื่อ นางสาวเสาวลักษณ์ชื่อเล่น บุ๋มบิ๋ม เธอเรียนอยุ่คณะการบัญชีและการจัดการ สาขาการบัญชี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งอยุ่คณะเดียวกันแต่อยู่คนละสาขา เราบังเอิญรู้จักกันจากการที่ไปนั่งเรียนวิชาความรู้เบื้องต้นทางธุรกิจ และเธอนั่งอยู่ด้านหลังของผม จากนั้นก็ได้พูดคุยแนะนำตัวของแต่ละคนว่ามาจากไหนกันบ้าง ทำให้สนิทกันเร็ว และอยู่กลุ่มทำงานเดียวกัน มีการพูดคุยปรึกษากันถ้าไม่เข้าใจในวิชานั้นๆ ถึงเธอจะเป็นคนพูดมากแต่ก็ทำให้เพื่อนๆทุกคนยิ้มได้ เฮฮากับเพื่อนๆตลอดเวลาเรียกได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มนุษยสัมพันธ์ที่ดีมากก็ว่าได้ เธอจะช่วยเหลือผมทุกครั้งในเรื่องที่เธอพอจะช่วยได้ เรียนๆอยู่ในห้องถ้าผมหลับก็จะมีเธอคอยปลุค จากการรู้จักเธอนั้นผมไม่เคยคิดว่าการมีเพื่อนที่คอยเอาใจใส่หรือให้คำปรึกษาหรือปลอบเวลาเสียใจจะทำให้ผมรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น แต่มีเพื่อนที่ดีนั้นก็ไม่ดีเท่ากับเราก็ต้องเป็นคนดี การเลือกคบเพื่อนก็สำคัญเหมือนกันถ้าคนที่เป็นเพื่อนเราไม่ดี เราก็มีโอกาสที่จะเดินทางที่ผิดตามเพื่อนคนนั้น แต่ถ้ามีเพื่อนที่ดีเราก็จะมีคนที่คอยพาเราพบกับสิ่งที่ดีๆ
ดังนั้นผมคิดว่าการคบเพื่อน มีเพื่อนเป็นสิ่งที่ดีเราควรเลือกคบเพื่อน ไตร่ตรองและพิจารณาให้ดี เพราะเพื่อนคือผู้ที่คอยเกื้อหนุนเรา คอยให้การช่วยเหลือในทุกเรื่อง มิตรภาพของเพื่อนเป็นความสัมพันธ์ที่งดงาม ยั่งยืน กว่าความสัมพันธ์แบบอื่นๆ และผมเชื่อว่าทุกคนก็ต้องอยากจะมีเพื่อนดีๆสักคน

สุกัญญา กล่าวว่า...

คนเราเกิดมาหากไม่มีเพื่อนคงขึ้นชื่อไม่ได้ว่าเป็นสัตว์สงคม ในช่วงชีวิตของตนเราต้องมีช่วงวัยรุ่น ที่มองเห็ความสำคัญของเพื่อนมาเป็นหนึ่ง ไม่ว่าพ่อแม่จะว่ายังไงเพื่อนถูต้องละดีที่สุดเสมอ แล้วถ้าช่วงชีวิตนี้นคุณเจอเพื่อนที่ไม่ไดละ เพื่อนที่ไม่ได้หวังดีต่อเรา คุณจะทำยังไง
เมื่องมองเห็นถึงความสำคัญต่างๆเหล่านี้ คงจะปฏิเสษไม่ได้ว่าเพื่อนเป็นตัวแปลที่สำคันในชีวิตเรา
คราวนี้ก็ต้องมาดูว่าใครจะโชคดี หรือ โชคร้ายที่ได้เพื่อนแบบไหนไป เพื่อนแท้ที่รักเราจริงจะไม่ทิ้งไปตอนที่เรมีปัญหา เพื่อนกินจะมาตอนที่เรามีตัง
ดิฉันได้พบเจอและมีเพื่อรทั้ง 2 แบบ แต่อาจจะดีกว่าหลายคนหน่อยที่ดิฉันอาจเจอเพื่อนแท้เยอะกว่าเพื่อนกิน
เพื่อนสนิทของดิฉันที่จริงแล้วมีหลายคนเพื่อนสนิทเหล่านี้ดิฉันเรียกว่าเพื่อนแท้ เพราะเราไม่เคยทิ้งกันตอนที่มีปัญหา แต่ตอนนี้เราต้างแยกย้ายกันไปเรียนตามทางของตน ซึ่งเราก็ไม่ได้ทิ้งกันหรอกเพราะเราติดต่อกันตลอดเวลา ดิฉันขอเล่าเรื่องเพื่อนสนิทที่เหลืออยู่ใกล้ตัวนะคะ
เพื่อนดิฉันตอนนี้เราเป็นลูเมทกัน เรารู้จักกันตอนเรียนประถม ไม่แน่ใจว่าตอนป.ไหน แต่จำได้ว่าตอน ป.5 เราก็หนีไปเที่ยวด้วยกันแล้ว เราคบกันจนมาถึงมัทธยม รวมๆแล้วเราเป็นเพื่อนกันมาประมาณ 10 ปีได้แล้ว เรามีกิจกรรมที่ได้ทำร่วมกันบ่อย เรามักจะได้ไปค่ายต่างๆด้วยกัน แต่ถึงอย่างไรเราก็มักจะมีเรื่องไม่เข้าใจกันบ่อยๆ
เพื่อนของดิฉันคนนี้เขาเป็นคนเจ้าระเบียบเก็บลายละเอียดทุกอย่า แต่ดิฉันก็ไม่เลยคะ แต่ดิฉันก็ประทับใจเขาที่ทนอยู่กับดิฉันได้ และไม่ทำลายความสัมพันธ์และมิตรภาพที่สร้างมา
เพื่อนดิฉันเป็นคนเก่งคะ เก่งในหลายๆเรื่อง เรียนเก่ง ใช้เงินเป็น แล้วเขาก็เป็นคนขยันคะ
แล้วเรื่องที่ดิฉันประทับใจในตัวเพื่อนคนนี้มากก็คือ ครั้งหนึ่งเราเคยเทลาะกันอย่างแรงเมื่อนานมาแล้ว ตอนนั้นดิฉันหมั่นใจมากว่ายังไงดิฉันก็ไม่ผิดแน่นอน และดิฉันคิดว่าเขาคงคิดว่าไม่ผิดเหมือนดิฉันแต่ที่จริงเปล่าเลย เพื่อนรู้ตัวว่าตัวเองผิดแล้วมาขอโทษดิฉัน ดิฉีนดีใจมากยังคงจำความรู้สึกตอนนั้นได้อยู่ เพราะมันเป็นความทรงจำดีๆ
ต่อไปก้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรักษาเพื่อนที่ และ มิตรภาพที่สวยงามของเราไว้ได้นานขนาดไหน
แต่สำหรับดิฉันเพื่อนคือสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าอัญมณี

สุกัญญา กล่าวว่า...

นางสาวสุกัญญา พิพัฒนสุข
คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม ภาตปกติ
รหัสนิสิต 52011011544 ปี 1
..................................

คนเราเกิดมาหากไม่มีเพื่อนคงขึ้นชื่อไม่ได้ว่าเป็นสัตว์สงคม ในช่วงชีวิตของตนเราต้องมีช่วงวัยรุ่น ที่มองเห็ความสำคัญของเพื่อนมาเป็นหนึ่ง ไม่ว่าพ่อแม่จะว่ายังไงเพื่อนถูต้องละดีที่สุดเสมอ แล้วถ้าช่วงชีวิตนี้นคุณเจอเพื่อนที่ไม่ไดละ เพื่อนที่ไม่ได้หวังดีต่อเรา คุณจะทำยังไง
เมื่องมองเห็นถึงความสำคัญต่างๆเหล่านี้ คงจะปฏิเสษไม่ได้ว่าเพื่อนเป็นตัวแปลที่สำคันในชีวิตเรา
คราวนี้ก็ต้องมาดูว่าใครจะโชคดี หรือ โชคร้ายที่ได้เพื่อนแบบไหนไป เพื่อนแท้ที่รักเราจริงจะไม่ทิ้งไปตอนที่เรมีปัญหา เพื่อนกินจะมาตอนที่เรามีตัง
ดิฉันได้พบเจอและมีเพื่อรทั้ง 2 แบบ แต่อาจจะดีกว่าหลายคนหน่อยที่ดิฉันอาจเจอเพื่อนแท้เยอะกว่าเพื่อนกิน
เพื่อนสนิทของดิฉันที่จริงแล้วมีหลายคนเพื่อนสนิทเหล่านี้ดิฉันเรียกว่าเพื่อนแท้ เพราะเราไม่เคยทิ้งกันตอนที่มีปัญหา แต่ตอนนี้เราต้างแยกย้ายกันไปเรียนตามทางของตน ซึ่งเราก็ไม่ได้ทิ้งกันหรอกเพราะเราติดต่อกันตลอดเวลา ดิฉันขอเล่าเรื่องเพื่อนสนิทที่เหลืออยู่ใกล้ตัวนะคะ
เพื่อนดิฉันตอนนี้เราเป็นลูเมทกัน เรารู้จักกันตอนเรียนประถม ไม่แน่ใจว่าตอนป.ไหน แต่จำได้ว่าตอน ป.5 เราก็หนีไปเที่ยวด้วยกันแล้ว เราคบกันจนมาถึงมัทธยม รวมๆแล้วเราเป็นเพื่อนกันมาประมาณ 10 ปีได้แล้ว เรามีกิจกรรมที่ได้ทำร่วมกันบ่อย เรามักจะได้ไปค่ายต่างๆด้วยกัน แต่ถึงอย่างไรเราก็มักจะมีเรื่องไม่เข้าใจกันบ่อยๆ
เพื่อนของดิฉันคนนี้เขาเป็นคนเจ้าระเบียบเก็บลายละเอียดทุกอย่า แต่ดิฉันก็ไม่เลยคะ แต่ดิฉันก็ประทับใจเขาที่ทนอยู่กับดิฉันได้ และไม่ทำลายความสัมพันธ์และมิตรภาพที่สร้างมา
เพื่อนดิฉันเป็นคนเก่งคะ เก่งในหลายๆเรื่อง เรียนเก่ง ใช้เงินเป็น แล้วเขาก็เป็นคนขยันคะ
แล้วเรื่องที่ดิฉันประทับใจในตัวเพื่อนคนนี้มากก็คือ ครั้งหนึ่งเราเคยเทลาะกันอย่างแรงเมื่อนานมาแล้ว ตอนนั้นดิฉันหมั่นใจมากว่ายังไงดิฉันก็ไม่ผิดแน่นอน และดิฉันคิดว่าเขาคงคิดว่าไม่ผิดเหมือนดิฉันแต่ที่จริงเปล่าเลย เพื่อนรู้ตัวว่าตัวเองผิดแล้วมาขอโทษดิฉัน ดิฉีนดีใจมากยังคงจำความรู้สึกตอนนั้นได้อยู่ เพราะมันเป็นความทรงจำดีๆ
ต่อไปก้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรักษาเพื่อนที่ และ มิตรภาพที่สวยงามของเราไว้ได้นานขนาดไหน
แต่สำหรับดิฉันเพื่อนคือสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าอัญมณี

พรทิวา นานันท์ กล่าวว่า...

นางสาว พรทิวา นานันท์
รหัสนิสิต 52010911344
GM 523 กลุ่มเรียนที่ 1

เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ

เพื่อนคือผ้าเช็ด น้ำตาเวลาเศร้า
เพื่อนคือเงา เวลาเหงา ไม่ไปไหน
เพื่อนคือคนปลอบทุกข์ ยามไม่สุขใจ
เพื่อนคือใครคนหนึ่ง ที่หวังดี
เพื่อนคือคนช่วยงาน ไม่ต้องเอ่ย
เพื่อนคือคนที่ไม่เคยซ้ำเติม หรือวิ่งหนี
เพื่อนคือใครที่คุยสนิท แม้ห่างไปหลายปี
เพื่อนแท้แบบนี้หากใครมี … คงซึ้งใจ

เพื่อน คือ คนที่เราให้คำปรึกษาและให้คำปรึกษาเรา ยามที่เราทุกข์ยามที่เราท้อเพื่อนจะคอยอยู่เคียงข้างเราเสมอ ยามที่เราต้องการใครสักคนมานั่งอยู่ข้างๆเพื่อนคือคนที่เราคิดถึงเป็นคนแรก ยามที่เรามีปัญหาเพื่อนคือคนที่เราโทรหาเป็นคนแรก ยามทึ่เราต้องการคนปลอบใจเพื่อนคือคนที่เราต้องการให้ปลอบ ยามจะไปเที่ยวเพื่อนคือคนแรกที่เราชวน ยามที่เราทะเลาะกันแต่ก็กลับมาคืนดีกันทุกครั้งเพราะมิตรภาพระหว่างเพื่อนจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
สำหรับเพื่อนที่ข้าพเจ้าประทับใจ คือ ช่วงที่กำลังเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ม.4-6 ที่โรงเรียนสตรีศึกษา จังหวัดร้อยเอ็ด แม้เป็นระยะเวลาแค่เพียง 3 ปี ทำให้ข้าพเจ้ารู้จักและสนิทสนมกับเพื่อนคนนี้มาก เธอชื่อ นางสาวน้ำทิพย์ วงค์อามาตย์ ชื่อเล่น ทิพ ตอนนี้ทิพเรียนที่ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี คณะบริหารธุรกิจ ปีที่1 ทิพเป็นคนนิสัยดี มีนำใจ เรียนพอใช้ได้ เหมือนกับข้าพเจ้า และ ทิพเป็นคนที่ร่าเริงแจ่มใส ทิพคอยช่วยเหลือข้าพเจ้าตลอดและเป็นที่ปรึกษาให้ข้าพได้ทุกๆเรื่องและก็คอยตักเตือนข้าพเจ้าเวลาที่ทำสิ่งไม่ดี คอยทำให้เพื่อนหัวเราะได้ตลอดเวลา บางครั้งทิพชอบหาเรื่องตลกๆมาเล่าให้ข้าพเจ้าฟังและในเวลาเรียนบางวิชาที่ไม่ได้เรียนทิพกับข้าพเจ้าชอบจับกลุ่มกันนินทาเพื่อนๆในห้อง บางครั้งข้าพเจ้ากับทิพมักจะคิดหาเรื่องซุกชนทำอยู่ตอลดเวลาที่ไม่ได้เรียน ชวนเพื่อนออกนอกโรงเรียนไปซื้อขนมกินบ้าง และก็ชวนเพื่อนเล่น โดมิโน ในห้องเรียน พอเวลาเล่นเสียเงินก็คิดหาวิธีหาเงินโดยข้าพเจ้าจะรวบรวมเงินกันในกลุ่มและก็เอาไปซื้อขนมมาขายให้เพื่อนในห้อง ปรากฎว่าขายได้กำไรดีมาก พอขายได้พวกเราก็เอาเงินมาแบ่งกันแล้วก็เอาไปเล่นโดมิโนต่อ พอเล่นได้เงินข้าพเจ้ากับทิพก็เลี้ยงขนมเพื่อนในกลุ่มพวกเราจะพากันไปกินยำและก็ขนมที่ข้างโรงเรียนในทุกๆวันหลังเลิกเรียนบางครั้งก็ไปนั่งกินส้มตำอร่อยมากเวลาที่ได้กินกับเพื่อนๆ เวลาที่ข้าพเจ้าโดดเรียนก็โดดด้วยกัน เวลาที่ข้าพเจ้าไม่มาโรงเรียนทิพนี่แหละท่เป็นคนเก็บใบงานทุกๆวิชาให้ข้าพเจ้า เวลาไม่ได้ทำการบ้านมาข้าพเจ้ากับทิพก็มานั่งลอกการบ้านเพื่อนที่โรงเรียนด้วยกัน ทิพเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขกับข้าพเจ้ามาตลอด เสียดายที่ข้าพเจ้ากับทิพไม่ได้เรียนที่เดียวกับ ทิพเอ็นติดที่ ม.อุบลราชธานี
แต่ข้าพเจ้าก็ติดต่อกับทิพอยู่เป็นประจำ ถึงแม้จะไม่ได้เรียนที่เดียวกัน ข้าพเจ้าก็ไม่เคยลืมเพื่อนคนนี้เลย
ฉะนั้นการที่เราจะคบเพื่อนเราต้องดูให้ดีก่อน ดูที่จิตใจไม่ใช่ว่าจะดูที่ภายนอกเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าเราคบเพื่อนไม่ดีก็จะชักชวนเราไปทำสิ่งที่ไม่ดีด้วยจะทำให้เกิดผลเสียหลายๆด้าน ทั้งด้านการเรียนก็จะทำให้เกรดเราลดลงได้ แต่ถ้าเราคบเพื่อนที่ดีก็จะส่งผลหลายๆด้านเหมือนกัน การเรียนเราก็จะดีอยู่สม่ำเสมอ เหมือนกับคำสุภาษิตที่ว่า คบคนพาล พาไปหาผิด คบบัณทิต บัณทิตพาไปหาผล

นางสาวเพ็ญพิสุข เกิดอุบล กล่าวว่า...

นางสาวเพ็ญพิสุข เกิดอุบล
รหัสนิสิต 52011011476 1HOS Sec.1

เรียงความเรี่องเพื่อนที่นิสิตประทับใจ

เพื่อนที่นิสิตประทับใจ

"เพื่อน" เป็นความรักอย่างหนึ่ง เป็นความรักที่เกิดขึ้นมาจากใจมีความสนิทสนมกันจนเรียนกันว่า"เพื่อน"เเล้วก็จะมีความรักที่มากจากใจ ไม่เรียกร้องสิ่งใดกลับคืน เป็นรักที่พร้อมจะให้ เป็นรักที่พร้อมจะช่วยเหลือเสมอในยามที่ใครต้องทุกข์ใจ "แม้แต่ต้องแยกทางกันความรักและความเป็นเพื่อน ก็ยังคงอยู่และผูกพันธ์เอาไว้เหมือนเดิม"
คำว่าเพื่อนมีค่าสำหรับมิตรภาพที่ดีเสมอ ส่วนเพื่อนที่ดิฉันประทับใจนั้น คงไม่มีคนเดียวแน่ ดิฉันของเล่าถึงเพื่อนที่ข้าพเจ้าประทับใจทั้ง 6คน เลย เพราะสมัยเรียนมัธยมปลาย มีสมาชิกทั้งหมด 7คน รวมดิฉันด้วย เราทำหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างมาด้วยกัน เป็นเพื่อนที่สนิทและรู้ใจกันมาก ถึงกับว่า"เเค่มองตาก็รู้ใจกันแล้ว" มีเรื่องราวต่างๆเข้ามามากมายในชีวิต อุปสรรค ปัญหา มีทั้งดี ร้าย เศร้า ทุกข์ สนุก สุข หัวเราะ รอยยิ้ม ร้องไห้ เรารู้จักกันดี รักกันมาก ถึงกลุ่มเราจะชอบทะเลาะกันตลอด(ทุกวันเลยก็ว่าได้)เเต่มันเป็นสิ่งที่ทำให้เรายิ่งรักกันมากขึ้น เราห่วงใยกันเสมอ
แนะนำสมาชิกคนที่1 คือตัวดิฉันเอง คนที่2 ชื่อจ๊ะเอ๋ ตอนนี้เรียนที่ มข.คณะเทคโนโลยีสาขาการผลิต เป็นคนน่ารักชอบไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ คอยเเนะนำและช่วยเหลือในเรื่องการเรียนเสมอ คนที่3ชื่อเเพ็ต เรียนที่มข. คณะวิทย์สาขาคณิตศาสตร์ ถึงจะใจร้อนไปบ้างเเต่ก็ดีกับดิฉันเสมอ เวลาทำอะไรเเพ็ตตี้จะนึกถึงดิฉันเสมอ จะชวนกันไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด อาจเป็นเพราะบ้านเราอยู่กันใกล้มากที่สุดในบรรดาเพื่อนๆเลยทำให้เราสนิทกันมากที่สุดในกลุ่มเลยก็ว่าได้ ขนาดตอนนี้ยังคุยกันอยู่ทุกวัน คนที่4 ชื่อบุ๋มบิ๋ม เรียนวิศวะ-เคมี ที่ม.นเรศวร เป็นคนตรงไปตรงมา ทำอะไรด้วยความจริงใจ ซื่อสัตย์ตลอดเวลา คนที่5 ปังปอนด์ เรียนสาธารณสุข ที่กรุงเทพ เป็นคนพูดเก่งที่สุด ชอบเป็นผู้นำกลุ่ม ตลก สนุก สามารถปรึกษาปัญหาได้ทุกเรื่องเลย คนที่6 เมเปิ้ล เรียนคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทย ม.ธรรมศาสตร์เป็นคนรักเพื่อนมาก เวลาทำอะไรจะจริงใจให้กับสิ่งนั้นเสมอ ถึงจะปากร้ายเเต่ก็เป็นคนที่ใจอ่อนมาก คนที่7 หนูเล็ก คนนี้ซี้กันเลย เรียนที่เดียวกัน ดีใจที่ยังมีเพื่อนในกลุ่มที่ยังอยู่ข้างๆเรา เวลามีปัญหาอะไรก็ช่วยเหลือเสมอไม่มีข้อเเม้ นี้คือประวัติอย่างคร่าวๆของเพื่อนที่ดิฉันประทับใจ ส่วนเรื่องที่ทำให้ประทับใจที่สุด คือ พวกเราจะพากันไปค่ายอยู่ค่ายหนึ่งไปทั้งกลุ่มแต่ดิฉันมีปัญหาและเพื่อนทั้ง6คนนี้ไม่ทิ้งดิฉันคอยช่วยเหลือทำทุกวิถีทางที่ให้ดิฉันได้ไปค่ายนี้ด้วยกัน จนดิฉันได้ไปค่ายด้วยมันเป็นสิ่งที่ทำให้ดิฉันประทับใจมากและซึ้งกับความจริงใจ ความเป็นมิตรภาพตลอดเวลาที่เราคบกันมา
คนเราเกิดมาต้องมีเพื่อนเพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคมไม่สามารถอยู่ตามลำพังได้ ฉะนั้นจงเก็บคำว่าเพื่อนไว้ให้มากๆ เพราะเวลามีปัญหาวัยรุ่นอย่างเราจะต้องนึกถึงเพื่อนก่อน "เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก" เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด เพื่อนตายกว่าจะหามาได้เราต้องใช้ใจแลกใจกันมาให้ได้ เเต่ก่อนจะได้ใจเพื่อนมา เราต้องให้ใจกับเพื่อนก่อน ทำอะไรต้องทำด้วยความจริงใจ สุดท้ายสิ่งที่เราทำลงไปก็จะส่งผลให้เราเอง

ทินกร ขันมา กล่าวว่า...

นายทินกร ขันมา
รหัสนิสิต 52011011431 1HOS กลุ่มเรียนที่ 1

เพื่อนที่ข้าพเจ้าประทับใจ
** คน ที่เป็น เพื่อน **
ไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาระดับเดียวกัน
ไม่จำเป็นต้องมีฐานะเท่าเทียมกัน
ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งหน้าที่การงานเท่าเทียมกัน
ถ้าคิดแบบนั้น คุณจะไม่มีเพื่อนแท้ดีๆเลยสักคน
สำหรับเพื่อนของข้าพเจ้าที่ข้าพเจ้าประทับใจเขามีชื่อว่านายสาธิต เมืองกระโทรก ชื่อเล่นชื่อ มะตูม
เขาเป็นคนตำบลหนองไผ่ อำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชศรีมา เขาเกิดเมื่อวันที่ 19 เดือนตุลาคม
พ.ศ.2533เขาจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6จากโรงเรียนบ้านสระมะค่า จบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนหนองบุญมากประสงค์วิทยา จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนโชคชัยสามัคคี ปัจจุบันเขากำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มะตูมเป็นคนที่ชอบรับประทานอาหารจัด ชอบสีชมพู ดาราที่เขาชอบคือพี่อั้มพัชราภา ไชยเชื้อ นักร้องที่เขาชอบคือสิงโต เดอะสตาร์ ในอนาคตเขามีความใฝ่ฝันว่าเขาจะเป็นแอร์โฮสเตสและคติประจำใจของเขาคือ"ก้าวแรกที่พลาด เป็นประสบการณ์ที่ฉลาดในก้าวต่อไป"
ถึงแม้ข้าพเจ้าจะพึ่งรู้จักกับเขาได้ไม่นานแต่ข้าพเจ้าก็รู้สึกได้ถึงความเป็นมิตรในตัวเขา สิ่งแรกที่ข้าพเจ้าเห็นในตัวเขาคือรอยยิ้มที่เป็นมิตรที่เขาส่งมาให้ข้าพเจ้ายังจำความประทับใจครั้งแรกได้โดยไม่มีวันลืม
เหตุผลที่ข้าพเจ้าประทับใจในตัวเขาคือ เขาเป็นคนน่ารักมีรอยยิ้มที่เป็นมิตร เป็นคนมีน้ำใจมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เขาเป็นบุคคลที่ทำให้ข้าพเจ้าหายเหงาได้ เวลาข้าพเจ้ามีเรื่องทุกใจอะไรเขาก็คอยให้คำแนะนำกับข้าพเจ้าช่วยข้าพเจ้าแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
เพื่อนเป็นบุคคลที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าใครเราทุกคนเกิดมาก็ย่อมจะต้องมีเพื่อนด้วยกันทั้งนั้นเพราะมนุษย์เราเป็นสัตว์สังคมจำเป็นที่จะต้องอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มเป็นหมู่คณะเราไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เพียงลำพังเราจำเป็นที่ต้องอาศัยปัจจัยหลายๆอย่างจากคนอื่นและคนที่สามารถให้เราได้คนหนึ่งก็คือ...เพื่อน
คอยเตือน ยามเพื่อนพลั้ง คอยฟัง ยามเพื่อนขอ
คอยรอ ยามเพื่อนสาย คอยพาย ยามเพื่อนพัก
คอยทัก ยามเพื่อนทุกข์ คอยปลุก ยามเพื่อนท้อ
คอยง้อ ยามเพื่อนงอน คอยสอน ยามเพื่อนผิด
คอยสะกิด ยามเพื่อนเผลอ คอยเจอ ยามเพื่อนหา
คอยลา ยามเพื่อนกลับ คอยปรับ ยามเพื่อนเปลี่ยน
คอยเรียน ยามเพื่อนเที่ยว คอยเคี่ยว ยามเพื่อนเล่น
คอยเย็น ยามเพื่อนร้อน คอยหอน ยามเพื่อนเห่า
คอยเฝ้า ยามเพื่อนฟุบ คอยอุบ ยามเพื่อนปิด
คอยคิด ยามเพื่อนถาม คอยปราม ยามเพื่อนหลง
คอยปลง ยามเพื่อนแกล้ง คอยแบ่ง ยามเพื่อนหมด
คอยอด ยามเพื่อนทาน คอยคาน ยามเพื่อนล้ม
คอยชม ยามเพื่อนชนะ คอยสละ ยามเพื่อนชอบ
เพื่อนที่รักเราหาไม่ง่ายเลย ถ้าเพื่อนๆ คนไหนมีแล้ว จงรักษามันไว้ให้ดีดี รักกันไว้ให้มากๆ ไม่มีอีกแล้วถ้า เราเสียเพื่อนที่ดีไปเพราะ แค่เหตุผล โง่โง่ ...

วิดารัตน์ ทองรัศมี กล่าวว่า...

นางสาววิดารัตน์ ทองรัศมี
รหัสนิสิต 52011011517 กลุ่มเรียนที่ 1

เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ
ฉันมีเพื่อนที่ฉันประทับใจเขาชื่อนัท ครั้งแรกที่ฉันได้รู้จักกับเขาจำได้ว่าตอน ม.1 ในสายตาฉันเขาเป็นผู้หญิงที่มั่นใจ เป็นตัวของตัวเองมาก ครั้งแรกที่ได้รู้จักก็อยากคบเป็นเขาเพื่อนแล้ว เขาไม่เคยรู้จักคำว่าอายเขาเป็นคนตลกใครได้อยู่ด้วยแล้วจะมีความสุข
นัทกัยฉันเราสองคนเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ ม.1 จึงทำให้เราคุยกันได้ทุกเรื่อง เขาเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งที่ฉันจะนึกถึงเป็นคนเเรกถ้าพูดถึงเพื่อนที่ดีที่สุดเธอคือคนนั้น ทุกครั้งที่ฉันมีปัญหาหรือไม่สบายใจหากได้ระบายกับเขาจะทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น จะได้รับคำปลอบใจดีๆ จากเขา จากที่ฉันเศร้าร้องไห้ฟูมฟายจะเป็นจะตายเขาทำให้ฉันหัวเราะได้ในขณะเดียวกันกับที่ร้องไห้อยู่ได้ ไม่ว่าฉันจะอารมณ์ไม่ดีแค่ใหนเขาก็สามารถทำให้ฉันหัวเราะได้ ต่อให้เจอเหตุการณ์อะไรเมื่ออยู่กับเพื่อนคนนี้จะมีแต่เสียงหัวเราะ ทีพูดมาทั้งหมดไม่ได้หมายความว่าเพื่อนของฉันคนนี้บ้า หรืออะไรนะคะ เพียงแต่เขาเป็นคนอารมณ์ดี ตลก ขบขัน ฮาได้ทุกสถาณการณ์ เหตุการณ์ที่ฉันประทับใจเขามากที่สุด อันที่จริงเหตุการณ์ที่น่าประทับใจก็มีหลายเรื่องแต่ที่ประทับใจมากที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องที่เขามาปลอบใจฉันเมื่อเดือนที่แล้ว ฉันมีปัญหาส่วนตัวทำให้ฉันไม่เป็นอันทำอะไรเอาแต่ร้องไห้ทั้งวัน กินแทบไม่ได้เขารู้ว่าฉันเป็นแบบนี้ เขานั่งรถจากขอนแก่นมาหาฉันเพราะคำปลอบใจเขาหรือว่าเป็นเพราะคำพูดนี้ออกมาจากเขากันแน่ ทำไมทำให้ฉันสบายใจขึ้นมาเยอะเลย เขาเป็นเพื่อนที่วิเศษ ฟังแล้วอาจเวอร์ไปแต่ฉันขอยกคำนี้ให้เขาก็แล้วกัน
คำพูดดีๆต่อให้สรรหามาพูดเป็นร้อยเป็นพันหากไม่ได้มาจากคนที่เรารักมันก็แค่คำพูดเพราะๆคำนั้นแต่ไม่ได้มีความหมายอะไร คำพูดดีๆคำเดียวหากมาจากใจของคนที่เรารักมันคือคำพูดที่มีความหมายและได้ใจทำให้เราลืมความทุกข์ต่างๆ ไปได้ คำพูดที่หวานแค่ใหนหากไม่ได้มาจากเพื่อนของฉันคนนี้มันก็ไม่ทำให้ฉันรู้สึกถึงคำพูดนั้นเลย

นางสาวนวลฉวี สีมันตะ กล่าวว่า...

นางสาวนวลฉวี สีมันตะ
รหัสนิสิต 52011011443 HOS กลุ่ม 1

จำวันแรกที่เรารู้จักกันได้ไหม ความเป็นเพื่อนนี่ไงสานสัมพันธ์เธอและฉัน
จากวันนั้นถึงวันนี้เราคงรักกัน แม้เวลาผ่านพ้น...ก็ยังเหมือนเดิม ถึงตอนนี้เราต่างแยกย้ายไปตามฝัน สัญญา...จะไม่ลืมกันและกันไม่ว่าวันไหน
และขอสัญญาว่าเพื่อนคนนี้จะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป แล้วเธอหล่ะ...สัญญาบ้างได้ไหม...เพื่อนที่แสนดี
ฉันจะพูดถึงเพื่อนของฉันที่ฉันรักและสนิทมากตอนอยู่มัธยมศึกษาตอปลาย กลุ่มเพื่อนของฉันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ มีกันทั้งหมดเก้าคน แต่ละคนมาจากคนละที่ คนละสถาบัน ต่างความคิดต่างนิสัยต่างพ่อแม่ ต่างฐานะความเป็นอยู่ก็แตกต่างกันไป แต่พวกเราก็ได้มารวมกันที่โรงเรียน ความเป็นเพื่อนไม่ได้แบ่งว่า คุณเป็นใคร มาจากไหน พ่อแม่เป็นใคร รวยหรือจน ไม่สำคัญพอมายู่ตรงนี้เราเป็นเพื่อนกัน เราเท่าเทียมกันทุกอย่าง เพื่อนของฉันก็มีหลายแบบ บางคนเป็นเด็กเรียนตั้งใจเรียนจนหัวฟู แต่บางคนกลับเล่นสนุกไปวันๆก็มี บางคนเล่นบ้างเรียนบ้าง แต่เราก็อยู่รวมกันได้ เราช่วยเหลือกันมาตลอด ทำกิจกรรมด้วยกันทุกอย่างกินด้วยกัน นอนก็นอนด้วยกัน สร้างวีรกรรมตั้งมากมาย กาลเวลาสามปีทำให้เราได้รู้จักกันมากขึ้น จากคนที่ไม่เคยรู้จัก มาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียน และก็มาเป็นเพื่อนที่รู้ใจกันทุกอย่าง แต่ก็ใช้ว่าพวกเราจะไม่เคยผิดใจกัน การที่พวกเราอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มก็มีบ้างแต่เราก็ต้องคุยกัน และก็เข้าใจกันในที่สุด พอถึงม.6 ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ทุกคนต่างก็มุ่งหวังจะเรียนมหาวิทยาลัยที่ตัวเองใฝ่ฝันไว้ อยากเรียนคณะดีๆที่ตนอยากเรียน แต่ว่าเพื่อนของฉันก็ดันสอบได้ที่เดียวกันหมดเลย เราก็อยู่ด้วยกัน ผิดแต่ว่าสิ่งแวดล้อมก็เปลี่ยนไป และความเป็นเพื่อนของเราก็ดำเนินต่อไปเพื่อนทั่วไปไม่เคยเห็นคุณร้องไห้ เพื่อนแท้มีหัวไหล่ไว้คอยซับน้ำตาคุณ เพื่อนทั่วไปจะไม่รู้ชื่อพ่อแม่ของคุณ เพื่อนแท้จะมีเบอร์ของท่านไว้ในสมุดจดโทรศัพท์ของเขา เพื่อนทั่วไปจะถือขวดไวน์ติดมือมางานปาร์ตี้ของคุณ เพื่อนแท้จะมาแต่วันเพื่อช่วยเตรียมงาน เพื่อนทั่วไปอยากคุยกับคุณถึงปัญหาของเขา เพื่อนแท้อยากช่วยปัดเป่าปัญหาของคุณออกไป
เพื่อนทั่วไปจะพิศวงในเรื่องโรแมนติกเก่าๆ เพื่อนแท้สามารถเอาเรื่องนี้มาอำคุณได้ เพื่อนทั่วไปเวลามาเยี่ยมคุณจะทำตัวเยี่ยงแขก เพื่อนแท้จะตรงรี่ไปเปิดตู้เย็นและบริการตนเอง

พิราวรรณ กล่าวว่า...

นางสาว พิราวรรณ ชัยศรี
รหัสนิสิต 52011412021 สาขา NSM กลุ่มเรียนที่ 1

เรียงความเรื่อง เพื่อนที่ประทับใจ
คำว่า "เพื่อน" ในความหมายของคุณคืออะไร แต่สำหรับฉันเพื่อนไม่ใช่เพียงบุคคลที่รู้จัก เรียนอยู่ห้องเดียวกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่สำหรับฉันเพื่อนคือคนที่เราสามารถปรึกษา พูดคุย คอยให้คำปรึกษาและไม่ทิ้งเราในวันที่เราเจอปัญหาคอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำที่ดีให้เราได้ดั่งคำที่ว่าเพื่อนกันต้องไม่ทิ้งกันนั้นจึงจะเรียกว่า "เพื่อนแท้"คุณเจอบุคคลคนนั้นหรือยัง แต่สำหรับฉัน ฉันคิดว่ามันเจอเพื่อนแท้คนนั้นแล้ว
นางสาวสุดารัตน์ พลศรี หรือเก๋ คือเพื่อนแท้ที่ฉันพูดถึง ฉันและเก๋รู้จักกันตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1เราอยู่ห้องเดียวกันมาตลอดจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จนถึงปัจจุบันนี้เราทั้งสองคนกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เราพักอยู่หอเดียวกันห้องเดียวกันแต่เรียนคนละคณะ เเรกเริ่มที่รู้จักกันฉันคิดว่าเก๋เป็นคนสบายๆบ้าๆบอๆเรียนบ้างเล่นบ้างไปวัน ๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากเหมือนกับเด็กทั่ว ๆ ไปเพราะเก๋เป็นคนตลกทำให้เพื่อนในกลุ่มยิ้มได้อยู่เสมอแต่พอได้เริ่มรู้จักกันมากขึ้นคำให้ฉันรู้ว่าเก๋เป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมาก เนื่องจากเก๋เป็นลูกคนเล็กอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่ทำอาชีพทำนาหรือบางครั้งก็รับจ้างทั่วไปโดยที่พี่ชายอาศัยอยู่คนละที่ เก๋จึงต้องคอยรับผิดทำงานบ้านทุกอย่างให้พ่อแม่เสมอ พ่อกับแม่ไม่ค่อยได้อยู่บ้านเนื่องจากต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดในบางครั้งทำให้เก๋ต้องอยู่บ้านคนเดียว ตั้งแต่เล็กๆแต่นั้นก็ไม่ทำให้เก๋เป็นเด็กมีปัญหาแต่อย่างใดแต่ยังทำให้เก๋เป็นผู้ใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับฉันเเละเพื่อนๆในกลุ่มและยังมีผลการเรียนที่ดีเสมอ
สิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจในตัวเก๋ก็คือเก๋เป็นคนที่ขยันและอดทนมากๆ เก๋จะช่วยลดค่าใช้จ่ายของพ่อแม่โดยการออกไปทำงานในช่วงปิดภาคเรียนโดยที่เงินที่ได้มาจะให้แม่ทั้งหมดและเก๋ยังเป็นคนที่คอยช่วยเหลือและให้คำปรึกษาเพื่อนเสมอในเวลาที่เพื่อนมีความทุกข์ฉันดีใจที่ได้รู้จักและเป็นเพื่อนกับเก๋เพราะในเวลาที่ฉันมีปัญหาเก๋จะคอยช่วยและอยู่เป็นเพื่อนเสมอ สุดท้ายนี้ฉันมีสิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกเพื่อนรักของฉันถ้าเก๋ได้อ่านเรียงความเรื่องนี้อยากจะบอกเพื่อนว่าขอบใจที่คอยช่วยเหลือและอยู่ด้วยในเวลาที่มีปัญหา รักเพื่อนมาก ๆ

วุฒิชัย พรมลี กล่าวว่า...

นายวุฒิชัย พรมลี
รหัสนิสิต 50011312036 IR กลุ่มเรียนที่ 1

เพื่อนที่ผมประทับใจ
เพื่อนในความหมายของผม คือ คนที่คอยอยู่เคียงข้าง คอยให้คำปลอบใจเมื่อเรารู้สึกว่าเราท้อแท้หรือสิ้นหวัง คอยดูแลเราเมื่อเราไม่สบาย คอยช่วยเหลือในยามที่เราเดือดร้อน ช่วยรับฟังปัญหาของเรา ให้คำแนะนำที่ดีแก่เรา ไม่เปิดเผยความลับของกันและกันให้ผู้อื่นฟัง และไว้ใจซึ่งกันและกัน เพื่อนคือคนที่เล่นกับเราทั้งตอนเด็กและเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ เพื่อนอาจจะมีหลายประเภท หลายคำนิยามที่มีการเขียนไว้ เช่น เพื่อนแท้ เพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว หรือแม้กระทั่งเพื่อนตาย
ตั้งแต่เราเกิดมาเราก็มีเพื่อน คือ พ่อแม่ของเรานั้นเอง ผู้ที่คอยดูแลเราตั้งแต่เรายังเด็ก ยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ และเมื่อเติบโตขึ้น เราก็มีเพื่อน เพราะเราต้องไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาจนถึงชั้นมัธยมศึกษา ผมมีเพื่อนมากมายทั้งเพื่อนที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันและเพื่อนต่างหมู่บ้าน แต่มีเพื่อนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ผมรู้สึกว่าเขาเป็นที่แท้ของผม เพื่อนคนแรกที่ผมประทับใจ เขาชื่อว่า จ๋อง เป็นเพื่อนที่เรียนอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย แต่อยู่คนละห้องกัน เขาเรียนอยู่ห้อง 6/4 สายวิทย์ – คณิต ส่วนผมเรียนอยู่ห้อง 6/2 สายศิลป์ – คำนวณ ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ต่างห้องกันแต่เราก็เล่นด้วยกัน เขาเป็นคนที่เรียนเก่ง และทำกิจกรรมก็เก่ง บางครั้งที่ผมรู้สึกไม่สบายใจเพื่อนจ๋อง เขาก็จะพาผมไปเล่นกีฬาหรือหากิจกรรมที่สร้างสรรค์ เพื่อทำให้ผมผ่อนคลายไม่เครียดกับเรื่องนั้นๆ ผมรู้สึกว่าเขาเป็นเพื่อนที่ดีมากคนหนึ่ง ส่วนเพื่อนอีกคนหนึ่งชื่อ ป้อม เป็นเพื่อนผู้หญิงเรียนอยู่ห้องเดียวกัน ป้อมเป็นเพื่อนที่ดีมากของผมอีกคนหนึ่ง เวลาที่ผมรู้สึกท้อแท้หรือสิ้นหวัง ป้อมจะคอยถามว่าเป็นอะไร เครียดเกินไปหรือเปล่า ป้อมจะหาคำพูดที่ดีมาคอยปลอบใจผม ผมและป้อมจะคอยดูแลซึ่งกันและกัน เมื่อมีปัญหาอะไรก็จะมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน บ่อยครั้งที่ผมและป้อมพูดถึงอนาคตที่ตนเองวาดฝันไว้ อนาคตที่เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย อนาคตที่เราพูดถึงบ่อยครั้ง คือ การมีชีวิตที่เพียบพร้อมในทุก ๆ อย่าง มีบ้าน มีรถยนต์ มีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างประเทศ มีความมั่นคงในอาชีพการงาน และช่วยพ่อแม่ปลดหนี้สินได้ ความฝันที่ยิ่งใหญ่ของเราสองคน คือ สร้างบ้านให้พ่อแม่
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นเพียงแค่อดีตไปแล้ว เมื่อเราจบการศึกษาต่างคนต่างแยกย้ายกันไปตามหาอนาคตที่ตนเองฝันไว้ เฟรนชิพที่ผมให้เพื่อนทั้งสองเขียนไว้ก็หาย ผมไม่รู้ว่าจะติดต่อพวกเขาได้อย่างไร คิดคิดไปแล้วเปรียบเสมือนว่าพวกเขามีตัวตนในความทรงจำของผมเท่านั้น
“เพื่อนพวกเขาทำให้เราคิดว่าในโลกนี้ยังมีสิ่งดีๆ ยังมีสิ่งที่น่าค้นหา ยังมีสิ่งที่สวยงาม แม้ว่าบางครั้งเราจะเจ็บปวด จนอยากที่จะถอยหนี หรือในบางครั้งที่เรารู้สึกว่าเราโดดเดี่ยว แต่หากเรายังมีสติ มองโลกในแง่มุมที่สวยงาม เราจะยังคงมีชีวิตอยู่กับคนที่เขาก็คิดว่าเราเป็นเพื่อน.......เช่นกัน”

อุษา มิตรภานนท์ กล่าวว่า...

นางสาวอุษา มิตรภานนท์
รหัสนิสิต 52011812050
สาขาสัตวแพทย์ศาสตร์ DVM
กลุ่มเรียนที่ 1


เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ

คุณค่าของเพื่อน คือคนที่คอยให้กำลังใจและตักเตือนในเวลาที่เราผิดพลาด การที่เรามีเพื่อนที่ดีเพียงคนเดียวก็ดีมากพอ มากกว่าการที่เรามีเพื่อนเป็นร้อยพันแต่ไม่เข้าใจและเวลาอยู่ด้วยแล้วไม่ทำให้เรารู้สึกดีหรือสบายใจ
ความประทับใจของข้าพเจ้าที่มีต่อเพื่อนซึ่งมีชื่อว่า นางสาวเพ็ญพักตร์ ดวงชัย ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมคณะของข้าพเจ้า เป็นเพื่อนที่มีนิสัยโอบอ้อมอารี มีน้ำใจต่อเพื่อน เข้าใจผู้อื่น คอยช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ ข้าพเจ้าและเพื่อนคนนี้มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอก เนื่องจากบ้านของเราทั้งสองอยู่ใกล้กัน ซึ่งเราทั้งสองจะสลับกันไปรับไปส่งกันเพื่อไปเรียน หรือไปเที่ยวด้วยกันตลอด เราทั้งสองรู้จักกันตั้งแต่ศึกษาชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนอนุบาลมหาสารคามแล้วเริ่มสนิทกันมากขึ้นตอนที่ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนสารคามพิทยาคม ข้าพเจ้าและนางสาวเพ็ญพักตร์ เป็นดรัมเมเยอร์สีเดียวกัน จึงได้มีโอกาสรู้จักและสนิทกันมากเพราะต้องซ้อมร่วมกันทุกวันเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือน และปัจจุบันข้าพเจ้าและเพื่อนของข้าพเจ้าก็ได้เรียนในคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ร่วมกัน ซึ่งข้าพเจ้าถือว่าเป็นโอกาสดีมากที่ได้ศึกษาร่วมกับเพื่อนคนนี้ ทำให้เราได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอด เราทั้งคู่มีนิสัยที่คล้ายคลึงกัน ชอบอะไรคล้ายๆกัน มีความคิดแนวคิดที่คล้ายกัน ทำให้อยู่ร่วมกันและเข้ากันได้เป็นอย่างดี เวลาที่ต้องการที่ปรึกษา จะทำอะไร หรือมีปัญหาอะไร เราก็สามารถที่จะปรึกษากันได้ตลอด ซึ่งเมื่อมีสิ่งที่ทำผิดพลาด เราจะคอยให้กำลังใจและเป็นที่ปรึกษาที่ดีต่อกันและกัน
เพื่อนในความหมายของข้าพเจ้า คือ คนที่คอยอยู่กับเราเวลาที่เรามีความทุกข์และความสุข ไม่ทิ้งเราในยามที่มีปัญหา ไม่สบาย ขาดกำลังใจ เวลาที่เรามีความทุกข์ เพื่อนก็สามารถทำให้เรารู้สึกดีขึ้น เวลาที่เราสุขก็พร้อมที่จะมีความสุขร่วมกัน เพื่อนเมื่อโกรธกันก็สามารถกลับมาคืนดีกันได้โดยไม่ต้องเก็บความสงสัยว่าสาเกตุเกิดจากอะไร เพื่อนอยู่ข้างเราเสมอไม่เราจะเป็นอย่างไร เราสามารถใส่เสื้อผ้าตัวเดียวกัน กินข้าวจานเดียวกันได้โดยไม่รู้สึกรังเกียจ เราสามารถไว้ใจและพร้อมที่จะเล่าทุกเรื่องให้เพื่อนฟังเสมอ บางครั้งเมื่อเรามีปัญหาเพื่อนก็สามารถรับรู้โดยที่เราไม่ต้องพูดอะไรซักคำ แต่แค่เรามีเพื่อนอยู่ข้างๆ ก็ทำให้เรารู้สึกอุ่นใจและสบายใจได้ และมิตภาพที่ดีคือการมอบสิ่งดีดีให้แก่กันโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

นางสาวรุ่งฤดี หล้าเรือง กล่าวว่า...

นางสาวรุ่งฤดี หล้าเรือง
รหัสนิสิต 52011011496 HOS1 กลุ่มเรียนที่ 1

เรียงความเรื่องเพื่อนความประทับใจ
"เพื่อน" สั้นๆ คำเดียว แต่มีความหมายมากสำหรับทุกคนที่อยู่ในสังคม คนเราอยู่อยู่ตัวคนเดียวในสังคมไม่ได้ ถ้าเรามีคนเดียวมันก็จะไม่เกิดสังคมขึ้น คนบางคนคิดว่าเราจะอยู่ตัวคนเดียว ด้วยคิดว่า "เพื่อน" ไม่จำเป็นกับตัวเรา คนที่คิดแบบนี้คงจะอยู่กับสังคมได้หรอก ในแต่ละวันเราพบปะกันผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะรู้จักกันแค่วันเดียว หรือเพียงแค่ชั่วโมงเดียว หรือนานมากกว่านั้น เราก็สามารถให้คนคนนั้นเป็นเพื่อนกับเราได้
คำว่า"เพื่อน"มันไม่ต้องการเวลา จะช้า จะเร็ว เราก็สามารถมีเพื่อนได้เหมือนกัน เราเกิดมาเราได้รู้จักกับพ่อแม่เรา คนที่คอยดูแลเรา เป็นที่ปรึกษาเรา ให้ความรัก ความอบอุ่น คอยสั่งสอนเรา คยตำหนิเราเมื่อเราทำผิดพลาดพลั่ง ท่านเป็นบุคคลแรกที่เราไดรู้จักที่สุดในชีวิต และคนที่สองที่จะอยู่กับต่อจากพ่อและแม่คือ "เพื่อน" ตั้งแต่จำความได้ดิฉันมีเพื่อนตั้งอายุได้ 4ขวบ ตอนนั้นคิดแค่ว่าเราเล่นกับเพื่อนแล้วสนุก มีความสุข ก็เท่านั้นเองไม่ได้คิดไรมาก ต่อมาเมื่อเริ่มเข้าเรียนตอนประถม เพื่อนดิฉันป็นทั้งเพื่อนเล่นและเพื่อนเรียน แต่พอมัธยม เพื่อนสำหรับตัวดิฉันแล้วมันมีความหมายมากกว่านั้น ยอมรับเลยว่าเพื่อนมีความสำคัญต่อชีวิตในช่วงนั้นมาก เพื่อนของดิฉันมีทั้งเพื่อนดีและไม่ดี เราก็ต้องยอมรับเลยว่าคนเราไม่เหมือนกันกัน ไม่ว่าจะสุขจะทุกข์อย่างไงก็มีเพื่อนอยู่ข้างๆเรา เป็นคนที่คอยช่วยเหลือเราในทุกๆเรื่อง ให้คำปรึกษาเราในเรื่องเรียนและเรื่องต่างๆ สำหรับเพื่อนที่ไม่ดีก็มีเหมือนกัน ไม่ว่าคนคนนั้นจะทำผิดกับเรา เราก็ให้อภัยได้ เพราะว่า ก็คำว่า"เพื่อน" จนมาถึงตอนนี้ดิฉันก็อยู่กับเพื่อน ไม่แปลกอะไรเลยทำไมเพื่อนจึงมีความสำคัญกับตัวเรามากแค่ไหน สำหรับ เพื่อนสนิท ของดิฉัน ต้องใช้เวลากว่าจะรูใจกันได้ กว่าจะพูดด้วยกันทุกเรื่อง ต้องใช้ใขของเรากับเพื่อนสนิท เข้าหากัน มันเป็นสิ่งที่ดี ที่เราจะได้เรียนรู้ กับคนคนหนึ่ง ที่มีความสำคัญกับเรามาก
ณ ตอนนี้ และจากต่อจากนี้ไป ก็ไม่มีสิ่งใดที่จะมาแทนเพื่อนของเราได้ จะสุขจะทุกข์ยังไงก็เพื่อน ของเรา

นางสาวรุ่งฤดี หล้าเรือง กล่าวว่า...

นางสาวรุ่งฤดี หล้าเรือง
รหัสนิสิต 52011011496 HOS1 กลุ่มเรียนที่ 1

เรียงความเรื่องเพื่อนความประทับใจ
"เพื่อน" สั้นๆ คำเดียว แต่มีความหมายมากสำหรับทุกคนที่อยู่ในสังคม คนเราอยู่อยู่ตัวคนเดียวในสังคมไม่ได้ ถ้าเรามีคนเดียวมันก็จะไม่เกิดสังคมขึ้น คนบางคนคิดว่าเราจะอยู่ตัวคนเดียว ด้วยคิดว่า "เพื่อน" ไม่จำเป็นกับตัวเรา คนที่คิดแบบนี้คงจะอยู่กับสังคมได้หรอก ในแต่ละวันเราพบปะกันผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะรู้จักกันแค่วันเดียว หรือเพียงแค่ชั่วโมงเดียว หรือนานมากกว่านั้น เราก็สามารถให้คนคนนั้นเป็นเพื่อนกับเราได้
คำว่า"เพื่อน"มันไม่ต้องการเวลา จะช้า จะเร็ว เราก็สามารถมีเพื่อนได้เหมือนกัน เราเกิดมาเราได้รู้จักกับพ่อแม่เรา คนที่คอยดูแลเรา เป็นที่ปรึกษาเรา ให้ความรัก ความอบอุ่น คอยสั่งสอนเรา คยตำหนิเราเมื่อเราทำผิดพลาดพลั่ง ท่านเป็นบุคคลแรกที่เราไดรู้จักที่สุดในชีวิต และคนที่สองที่จะอยู่กับต่อจากพ่อและแม่คือ "เพื่อน" ตั้งแต่จำความได้ดิฉันมีเพื่อนตั้งอายุได้ 4ขวบ ตอนนั้นคิดแค่ว่าเราเล่นกับเพื่อนแล้วสนุก มีความสุข ก็เท่านั้นเองไม่ได้คิดไรมาก ต่อมาเมื่อเริ่มเข้าเรียนตอนประถม เพื่อนดิฉันป็นทั้งเพื่อนเล่นและเพื่อนเรียน แต่พอมัธยม เพื่อนสำหรับตัวดิฉันแล้วมันมีความหมายมากกว่านั้น ยอมรับเลยว่าเพื่อนมีความสำคัญต่อชีวิตในช่วงนั้นมาก เพื่อนของดิฉันมีทั้งเพื่อนดีและไม่ดี เราก็ต้องยอมรับเลยว่าคนเราไม่เหมือนกันกัน ไม่ว่าจะสุขจะทุกข์อย่างไงก็มีเพื่อนอยู่ข้างๆเรา เป็นคนที่คอยช่วยเหลือเราในทุกๆเรื่อง ให้คำปรึกษาเราในเรื่องเรียนและเรื่องต่างๆ สำหรับเพื่อนที่ไม่ดีก็มีเหมือนกัน ไม่ว่าคนคนนั้นจะทำผิดกับเรา เราก็ให้อภัยได้ เพราะว่า ก็คำว่า"เพื่อน" จนมาถึงตอนนี้ดิฉันก็อยู่กับเพื่อน ไม่แปลกอะไรเลยทำไมเพื่อนจึงมีความสำคัญกับตัวเรามากแค่ไหน สำหรับ เพื่อนสนิท ของดิฉัน ต้องใช้เวลากว่าจะรูใจกันได้ กว่าจะพูดด้วยกันทุกเรื่อง ต้องใช้ใขของเรากับเพื่อนสนิท เข้าหากัน มันเป็นสิ่งที่ดี ที่เราจะได้เรียนรู้ กับคนคนหนึ่ง ที่มีความสำคัญกับเรามาก
ณ ตอนนี้ และจากต่อจากนี้ไป ก็ไม่มีสิ่งใดที่จะมาแทนเพื่อนของเราได้ จะสุขจะทุกข์ยังไงก็เพื่อน ของเรา

สุดารัตน์ พลศรี กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
นางสาวอารีวริยา ประทุมตะ กล่าวว่า...

นางสาวอารีวริยา ประทุมตะ
รหัส 52010913736
สาขา คอมธุรกิจ

เรียงความเรื่อง เพื่อนที่ฉันประทับใจ
“เพื่อน” มีหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็น เพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว เพื่อนเล่น เพื่อนร่วมทาง เพื่อนร่วมห้อง หรือว่าเพื่อนนอกห้องแต่เรายังลืมเพื่อนที่ประทับใจไปในรูปแบบของคำว่าเพื่อน
สำหรับฉันมีเพื่อนที่ประทับใจอยู่ไม่มากและเพื่อนที่ฉันประทับใจมากที่สุดคือ นางสาวอนัญญา จันใต้ ชื่อเล่น ดิว ดิวกำลังศึกษาอยู่ที่ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ถึงแม้เราจะไม่ได้เรียนที่เดียวกันแต่ถ้าว่างเราก็จะโทรหากันตลอด ฉันและดิวรู้จักกันตั้งแต่ ม.3 ซึ่งตอนนั้นเราทั้งสองได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนเนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ไปแข่งขันการเดินสวนสนามระดับจังหวัด ที่ กรุงเทพมหานครแล้วกิจกรรมครั้งก็ได้สร้างมิตรภาพดีๆให้เกิดขึ้นกับเราทั้งสองเพราะเราต้องใช้ชีวิตอยู่รวมกันร่วม 2 เดือน เพื่อฝึกซ้อมสำหรับการแข่งขันครั้งนี้ ในการฝึกซ้อมมีทั้งความเหนื่อยล้า ความสนุกสนาน หรือแม้กระทั่งน้ำตา หลังจากการฝึกซ้อมเสร็จสิ้นเราก็พร้อมที่จะไปแข่งขัน ผลการแข่งขันก็ออกมาว่าทีมของเราติด1ใน10ของประเทศถึงแม้จะไม่ชนะแต่เราก็ภาคภูมิใจมากที่ได้มีโอกาสได้ทำกิจกรรมดีๆและมีเพื่อนดีๆอีกมากมาย
ถึงแม้ว่าการแข่งขันจะจบลงแล้ว แต่มิตรภาพของเพื่อนๆก็ยังคงดำเนินต่อไปโดยเฉพาะฉันและดิวเรายิ่งสนิทกันมากยิ่งขึ้น เราสามารถเล่าเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนให้ต่างฝ่ายต่างรับฟังได้ ด้วยความที่พื้นฐานครอบครัวของเราจะคล้ายกันจึงทำให้เรายิ่งเข้าใจกันมากขึ้น ฉันประทับใจดิวมากที่สุดคือ ความเข้มแข็ง ไม่ว่าจะเจออุปสรรคที่หนักหนาแค่ไหนดิวก็จะบอกกับฉันว่า “ไม่เป็นไร เอาใหม่ได้” มันทำให้ฉันรู้สึกถึงความอบอุ่นที่เพื่อนคนหนึ่งมอบให้โดยไม่หวังผลตอบแทน เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานกว่า 5 ปีแล้วที่มิตรภาพระหว่างฉันและดิวยังคงดีและจะดีที่สุด เพราะคำว่าเพื่อน ของฉันไม่มีวันสิ้นสุด ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม ฉันก็จะไม่ลืมคนที่ให้ฉันลอกการบ้าน คนที่ตามฉันหนีออกไปซื้อส้มตำนอกโรงเรียน และคนที่คอยกอดฉันเมื่อฉันรู้สึกเหนื่อยล้า ฉันจะไม่ลืมเธอ “ดิว”

ภิญญาพัชญ์ สุนทรธีระศาสตร์ กล่าวว่า...

นางสาวภิญญาพัชญ์ สุนทรธีระศาสตร์
รหัสนิสิต 52011220039 is

เรียงความเรื่อง เพื่อนที่ฉันประทับใจ

เพื่อนมีความหมายมากมายหลายอย่างที่ไม่อาจจะบรรยายได้หมด บางคนอาจจะคิดว่าเพื่อนนั้นไม่สำคัญ รึบางคนอาจจะคิดว่าเพื่อนนั้นสำคัญมาก แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะให้เพื่อนเรานั้นมีบทบาทหรือความสำคัญกับเรามากน้อยเพียงใด เพราะคำว่าเพื่อนนั้นไม่ได้มีความหมายตายตัวเราอาจจะรู้จักกันมานานหรือว่าเพื่งจะรู้จักกันเราก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้

ความประทับใจที่มีต่อเพื่อน ในตอนนั้นฉันได้ย้ายโรงเรียนไปใหม่ๆแถมยังไม่เจอคนที่รู้จักเลยตอนที่นั่งเรียนอยู่ฉันก็คิดว่าขออย่าให้พักเที่ยงเร็วๆเถิดเพราะไม่รู้ว่าจะไปทานข้าวที่ไหนแล้วไปกับใครดีไม่มีคนรู้จักเราเลยเราจะทำยังไงดีนั่งไปซักพักเสียงกริ่งดังฉันได้แต่มองซ้ายมองขวาทุกคนเขาก็ชวนกันไปทานข้าวโดยที่ไม่มีใครชวนฉันเลยแต่อยู่ๆก็มีผู้หญิง1คนกับผู้ชายอีก1คนเดินเข้ามาถามว่า"ชื่ออะไรเหรอไปกินข้าวเที่ยงกันมั๊ย"ฉันเลยยิ้มแล้วตอบพวกตอบเขาไปว่าไปซิกำลังหิวเลย2คนก็เลยยิ้มแล้วก็พูดว่า"เรา2คนชื่อเอ๋เหมือนกัน"
แล้วเทอล่ะชื่ออะไรฉันเลยตอบไปว่า "เราชื่อไอซ์ค่ะ"แล้วเขา2คนเลยยิ้ม หลังจากนั้นเราก็ไปไหนมาไหนด้วยกัน3คนตลอด มีอะไรก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอดไม่ว่าจะมีเงินรึไม่มีเงินเราก็คือเพื่อนกันเพราะมีอยู่เหตุการณ์หนึ่งเราทั้ง3ไปกินข้าวแล้วไปเจอเพื่อนในห้องกลุ่มหนึ่งเขาเลยชวนไปนั่งด้วยกันแล้วพวกเขาเลยมากระซิบถามฉันว่าพาเอ๋ชายมาด้วยทำไมมันกินแล้วไม่ชอบจ่ายเรา3คนเลยมองหน้ากันเพราะปกติเวลาเราไปกินข้าวกันเอ๋ชายจะเป็นคนที่ออกเงินมากที่สุดฉันเลยคิดในใจว่าทำไมพวกนี้ถึงว่าให้เพื่อนเราแบบนี้ถึงจะมีรึไม่มีเงินก็กินข้าวด้วยกันไม่ได้เหรอแล้วพอกินไปซักพักเอ๋ชายก็เลยมากระซิบแล้วยื่นเงินให้ฉันเลยมองหน้าแล้วถามว่าทำไมให้เยอะจังเอ๋ชายเลยตอบว่าก็ออกให้เธอทั้ง2คนด้วยไงแล้วเขาก็บอกว่าอย่าบอกพวกนั้นนะว่าเป็นเงินเรา ฉันเลยงงว่าทำไมต้องให้ทำแบบนี้ พอจ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็เลยชวนกันกลับ ฉันเลยถามเอ๋ชายว่าทำไมต้องทำแบบนี้ เอ๋ชายเลยตอนว่าถ้าไม่ทำแบบนี้แล้วจะรู้เหรอว่าพวกนั้นเป็นคนยังไง ถ้าเกิดใครไม่มีเงินกลุ่มนั้นไม่คบหรอก ฉันเลยถามต่อว่าแล้วที่เขาพวกว่าเอ๋ชายกินแล้วไม่ชอบจ่ายจริงเหรอ เอ๋ชายเลยตอบว่าก็ปกติเวลาเราไปกินข้าวกัน3คนเราไม่ได้เกี่ยงกันใช่มั๊ยว่าเราจะออกกันเท่าไหร่ใครมีเท่าไหร่ก็ออกเท่านั้นไม่ได้ว่ากัน แต่สำหรับเพื่อนกลุ่มนั้นเขาจะไม่ยอมเสียเปรียบกันเลยทั้งๆที่บางทีเขามาชวนเราแล้วเราบอกว่าไม่มีเงินเขาก็พูดต่อว่าไม่มีก็ไม่ต้องไปเหมือนกับว่าเป็นเพื่อนกันซะเปล่าแต่ทำไมถึงไม่มีน้ำใจกันเลยเราก็เลยหมั่นไส้ไม่จ่ายให้พวกเขาเห็นเฉยๆ เอ๋ชายพูดต่อว่านี่แหละดูไว้นะเพื่อนกันเพื่อนแท้เพื่อนที่จริงใจเขาไม่พูดไม่ทำกันแบบนี้หรอก ฉันเลยว่ามาคิด มันก็จริงเหมือนที่เอ๋ชายพูดถ้าเกิดซักวันหนึ่งฉันไม่มีเงินจะกินข้าวหรือว่าทำเงินหายเขาจะให้ฉันยืมหรือว่าจะชวนฉันไปกินข้าวด้วยรึป่าว แล้วฉันเลยย้อนกลับมาดูเพื่อนเอ๋ทั้ง2คนแล้วคิดว่าทำไม2คนนี้ถึงไม่เคยพูดเรื่องเงินกับฉันเหมือนเพื่อนๆกลุ่มนั้นเลย ฉันเลยเข้าใจว่าเพื่อนที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องมีเงินหรือเปล่าแต่ของให้มีความจริงใจให้กันเสมอ เพราะเพื่อนฉันทั้ง2มีความจริงใจให้ฉันตลอดมาไม่ว่าฉันจะเดือดร้อนมีเรื่องที่จะปรึกษาเขาทั้ง2ก็พร้อมที่จะให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาที่ดีๆให้แล้วสามารถทำให้ฉันสบายใจได้เสมอ

สุดารัตน์ พลศรี กล่าวว่า...

สุดารัตน์ พลศรี รหัสนิสิต52011310459
สาขา การเมืองการปกครอง กลุ่มเรียนที่1
เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ
เราทุกคนบนโลกใบนี้ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่เพียงลำพังได้เพราะปัจจุบันบนโลกใบนี้ของเราเป็นสังคมขนาดใญ่มีสิ่งยั่วยุมากมายที่จะคอยชักนำเราไปในทางที่ผิดทุกคนจึงควรมีครอบครัวมีญาติพี่น้องและสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือทุกคนต้อแงมีเพื่อนเพื่อคอยให้คำปรึกษา ตักเตือนและให้กำลังใจ
เพื่อน เป็นคำสั้นๆแต่มีความมายเป็นคนที่คอยให้ความช่วยเหลือให้กำลังใจคอยให้คำปรึกษา อธิบายให้เราเข้าใจในวิชาที่ไม่เข้าใจเรามีเพื่อนมากมายหลายคนหลายความคิดกันออกไปมีทั้เพื่อนแท้และเพื่อนที่หวังผลประโยชน์จากตัวเราหวังได้เพียงอย่างเดียวแต่ไม่เคยให้คนอื่นแต่มีเพื่อนคนหนึ่งที่ภูมิใจมากที่ได้เป็นเพื่อนด้วยคือเมย์รู้จักและได้เป็นเพื่อนกับเมย์มาตั้งแต่ตอนเรียน ม.1 เจอเมย์ตอนแรกไม่กล้าทักเพราะเมย์จะชอบทำหน้าตาเครียดชอบทำคิ้วขมวดแต่เอาเข้าจริงๆแล้วเมย์เป็นนคนนิสัยดี ร่าเริง สนุกสนาน บ้าๆบ้องๆเมย์เป็นคนตั้งใจเรียนขยันทำงานที่ได้รับมอบหมายมีความรับผิดชอบมีน้ำใจกับเพื่อนทุกๆคนเมื่อจบ ม.3 เพื่อนหลายคนก็ไปเรียนที่อื่นอี่กหลายคนก็เรียนต่อที่เดิมเรา2คนก็เป็นหนึ่งในกลุ่มที่เรียนต่อที่เดิมเรียนอยู่ห้องเดียวกันอยู่กลุ่มเดียวกันทำให้เรา2คนสนิทสนมกันกว่าเดิมจนกระทั้งเราเรียนจบ ม.6 เรา2คนสอบเข้ามหาวิทยาลัยมหาสารคามได้แต่คนละคณะเมย์สอบได้คณะสาธารณะสุขศาสตร์ส่วนตัวเองสอบได้คณะการเมืองการปกครองที่แปลกไปกว่านั้นเรา2คนได้มาพักที่ห้องเดียวกันและยังได้เรียนวิชาเลือกจิตวิทยากลุ่มเดียวกันมันยิ่งทำให้เรา2คนสนิทกันมากขึ้นเข้าใจกันมากขึ้นต่างคนต่างช่วยเหลือชึ่งกันและกัน
เพื่อนมีทั้งดีและไม่ดีอยู่ที่เราจะกระทำตัวถ้าคบเพื่อนดีก็จะทำให้เรามีอนาคตที่ดีแต่ถ้าคบเพื่อนไม่ดีมันก็จะเกิดผลเสียกับตัวเราเอง

ฐิติรัตน์ กล่าวว่า...

นางสาวฐิติรัตน์ ประจำถิ่น
รหัส 51010512563 คณะศึกษาศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ 2EN กลุ่มเรียนที่1
เพื่อนที่ประทับใจ
มนุษย์ทุกคนนั้นเกิดมาไม่สามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างโดดเดี่ยวเพียงลำพังคนเดียวได้ในสังคมคำว่าเพื่อนจึงมีบทบาทมากกับทุกๆคนในสังคม เชื่อว่าทุกคนย่อมต้องการเพื่อนที่เข้าใจเรา ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเราในยามที่เราท้อแท้สิ้นหวัง และมีความสุขนอกจากคนในครอบครัวแล้วก็คือเพื่อนเรานั่นเอง เพื่อนก็มีอยู่ 2ประเภทด้วยกัน คือเพื่อนกิน และเพื่อนตาย เพื่อนกินจะอยู่เคียงข้างเราในยามที่เรามีคุณค่ากับเขาหลังจากหมดความสำคัญเขาจะไม่เห็นเราในสายตาและคอยสมน้ำหน้าเราเมื่อเราเดือดร้อน เพื่อนตายคือเพื่อนที่จะอยู่เคียงข้างเราเสมอไม่ว่าเราจะสุขหรือทุกข์เพื่อนประเภทนี้ตามหลักพระพุทธศาสนาถือว่าเป็น “กัลยาณมิตร”คือ “มิตรแท้นั่นเอง”
สำหรับตัวดิฉันแล้วก็มีเพื่อนอยู่หลายคน และหลายประเภททั้งที่เป็นมิตรแท้ และไม่แท้ แต่ก็มีเพื่อนอยู่คนหนึ่งที่ดิฉันรัก และประทับใจในตัวเขามากๆ เพื่อนดิฉันคนนี้มีชื่อว่า “นายลิขิต ธรรมสาร ชื่อเล่น เอี่ยว เกิด วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2532 ปัจจุบันศึกษาต่อที่คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” ดิฉันได้รู้จักกับเอี่ยวตอนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เนื่องจากว่าเราได้เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน อยู่ห้องเดียวกัน และอยู่ในกลุ่มเดียวกันเป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งไปไหนเราก็จะไปด้วยกันตลอดไม่เคยทอดทิ้งกัน
มีอยู่ครั้งหนึ่งตอนเราอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5เราได้เดินทางไปเข้าค่าย“ฝันเป็นหมอขอได้ไหมครั้งที่4(Med Dream#4 ”ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เราได้เดินทางไปด้วยกันเอี่ยวเค้าจะคอยดูแล Take care ดิฉันเสมอ ไม่ว่าเรื่องกิน เรื่องที่อยู่อาศัย เนื่องจากว่ามันเป็นการเข้าไปในกรุงเทพมหานครอย่างโดดเดี่ยวเป็นครั้งแรกในชีวิตของดิฉัน เราได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เป็นช่วงเวลาที่ดิฉันมีความสุขและประทับใจในตัวของเค้ามากๆ
ตอนเราอยุ่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เขาจะคอยติวหนังสือให้ดิฉัน และคอยชวนดิฉันให้เข้าไปอ่านหนังสือในห้องสมุดอยู่บ่อยๆ เพราะว่าเค้าจะเป็นเด็กเรียนเก่งตั้งใจเรียน ส่วนดิฉันก็จะขี้เกียจ ไม่ค่อยจะสนใจเขาก็จะคอยชี้ทางและติวในส่วนเนื้อหาที่ดิฉันไม่เข้าใจอยู่ประจำเค้าจะคอยผลักดันและเป็นกำลังใจไม่ให้ดิฉันท้อแท้ และสู้กับปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิต และนี่ก็คืออีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ดิฉันประทับใจในตัวของเขา
ตลอดระยะเวลา 3ปีที่อยู่ด้วยกันหลายครั้งที่เราทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกัน แต่เหตุการณ์เหล่านั้นก็ไม่สามารถที่จะทำลายกำแพงมิตรภาพความเป็นเพื่อนของเราได้ แม้ในวันนี้เราจะไม่ได้อยู่ใกล้กันเนื่องจากต่างคนก็ไปเรียนคนละที่ แต่ระยะทางนั้นไม่สามารถที่จะตัดขาดความเราได้ และในวันนี้ดิฉันก็ยังคิดว่าเค้าคือเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับดิฉัน จึงทำให้ดิฉันประทับใจ และอยากจะบอกว่า “เพื่อนกินนั้นหาง่าย เพื่อนตายนั้นหายาก”ซึ่งเอี่ยวเขาก็เป็นเพื่อนตายของดิฉัน

นายวิทวัช เอมโอด กล่าวว่า...

นายวิทวัช เอมโอด
รหัส 52011010918 กลุ่มเรียนที่1

เรียงความเพื่อนสนิท
เพื่อนสนิทในความคิดของกระผมเองผมคิดว่า มันสื่อความหมายได้หลายอย่างแต่ในความคิดของกระแล้วผมว่าเพื่อนที่แท้จริงนั้นต้องรู้จักคำว่า ให้ ซึ่งหมายความว่าต้องรู้จักให้อภัย ให้ความคิดดีๆแก่ตัวเราเองและที่ขาดไม่ได้คือการให้อภัยซึ่งกันและกัน และเพื่อนที่กระผมรักที่สุดและเขาเป็นคนที่ให้อะไรหลายๆ อย่างเวลาที่กระผมเดินไปในสิ่งที่ผิดและไม่ถูกไม่ควรเขา ก็จะคอยบอกคอยสอนเรา และเมื่อเขาทำอะไรผิดเราก็จะคอยบอกคอยสอนกันอยู่ตลอดเวลา ว่าสิ่งนั้นมันไม่ดีอย่างไร และทำไมถึงต้องเป้นเช่นนั้น เราจะใช้เหตุผลคุยกันอยู่ตลอด และเมื่อยิ่งเราได้มาเรียนดว้ยกัน อยู่ห้องเดียวกันเราก็ต้องดูแลกันในถานะเพื่อนที่ดี และเป็นเพื่อนที่สนิท และเพื่อนที่สนิทเข้าในในการกระทำของกระผมเขาคนนั้นมีชื่อว่า นายพัฒนพงษ์ สิทธิเลาะ

ประวัติเพื่อนของผม
ชื่อ นายพัฒนพงษ์ สิทธิเลาะ
ชือเล่น มอส
ที่อยู่: บ้านห้วยม่วง ต.โนนจาน อ. บัวลาย จ. นครราชสีมา
ที่อยู่ปัจจุบัน : หอพักชายสุพรรณิการ์ จ.มหาสารคาม
สีที่ชอบ :ชมพู ม่วง แดง เขียว ดำ ขาว
อาหารที่ชอบ:ส้มตำไก่ย่าง และอาหารที่มีรสจัดทุกชนิด
งานอดิเรก: นอน กิน ฟังเพลง
ดาราที่ชอบ : อั้ม พัชราภา ชมพู่ อารยา โดม
นิสัยส่วนตัว : เป็นคนอารมณ์ดี
คติ : ทำวันนี้ให้ดีที่สุด

ฉนันแล้วเพื่อนในที่นี้คือคนที่จะต้องเขาใจเราและแนะนำเฉาะสิ่งที่ดีที่สุด และ ถ้าเลือกคลบเพื่อนสักคนเราต้องดูหลายสิ่งก่อนที่จะเลือกคลบเขาเพื่อน และเพื่อนคนนี้ที่กระผมคลบผมคิดว่าเขาเพื่อนที่ดีสำผมและเป็นคนดีสำผม และเราก็จะเป็นเพื่อนกันตลอดไปเพราะเขาคือคือเพื่อนแท้สำหรับกกระผม

จุราวรรณ จันทร์หาญ กล่าวว่า...

นางสาวจุราวรรณ จันทร์หาญ
52010913767 คอมพิวเตอร์ธุระกิจระบบ ปกติ

ในชีวิตของทุกคนต่างจำเป็นต้องมีเพื่อนทั้งเก่าและใหม่อยู่ในชีวิต เพื่อจะได้มีทั้งจำที่น่าภูมิใจ สิ่งดีๆที่เคยทีต่อกัน และปัจจุบันที่น่าอบอุ่นใจเพื่อที่จะได้มีวันวานและความทรงจำกับเพื่อนของเรา
เพื่อนที่ข้าพเจ้าประทับใจคือนางสาวหัทยา กุลศรี เป็นเพื่อนคนแรกที่ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเมื่อเราคุยด้วยกันหรือไปไหนทำอะไรด้วยกันจะรู้สึกสบายใจ เพื่อนข้าพเจ้าคนนี้จะมีนิสัยออกเหมือนผู้ชายหรือคนส่วนใหญ่เรียกว่าทอม เค้าจะเป็นคนที่นิสัยดี คุยได้ทุกเรื่องไปไหนไปกัน รักเพื่อนรักสนุก ข้าพเจ้ากับเพื่อนคนนี้รู้จักกันตอน ป.6 จนถึงปัจจุบัน ถึงแม้จะมีช่วงหนึ่งที่เราสองคนอาจมีความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่สุดท้ายเราสองคนก็สามารถดึงคำว่าเพื่อนกลับมาสู่เราสองคนได้ ข้าพเจ้าจะชอบคุยเรื่องต่างๆให้เพื่อนฟังและเมื่อคุยกันเสร็จก็จะออกความคิดเห็นกันว่าเป็นยังไง เราสองคนจะชอบคุยกันเรื่องการเรียน ความรัก และเรื่องที่บ้านเพราะข้าพเจ้ากับเพื่อจะไม่ค่อยปิดยังกันคือมีอะไรก็จะคุยจะเล่าให้กันฟัง ข้าพเจ้าประทับใจเพื่อนคนนี้คือ ความเป็นกันเอง ความรักเพื่อน เพราะเมื่อไหร่ที่ข้าพเจ้าไม่สบายใจก็จะคุยกับเพื่อนแล้วเค้าก็จะคอยบอกว่า “อย่าไปคิดมากกับมันเลย” ถึงแม้มันอาจจะเป็นประโยคที่อาจดูไม่ค่อยให้กะลังใจแต่เมื่อข้าพเจ้าได้ยินแล้วรู้สึกว่าเรายังมีเพื่อนอีกคนที่คอยเป็นห่วง คอยเป็นกำลังใจและช่วยเรามาตลอด ถึงแม้ตอนนี้เพื่อนของข้าพเจ้าจะไม่ได้อยู่เคียงข้างเหมือนตอนประถม กับมัธยม แต่ข้าพเจ้าก็โทรคุยกันกับเพื่อนตลอดไม่ว่าจะมีเรื่องทุกข์ใจหรือดีใจเราสองคนก็รับรู้ไปพร้อมๆกัน ข้าพเจ้าคิดว่าการที่มีเพื่อนเก่าเพื่อนใหม่ก็เหมือนเรามีรองเท้า เมื่อเรามีรองเท้าก็จะต้องเช็ดฝุ่นให้กับรองเท้าด้วย อย่าให้การเดินทางไปด้วยกันเป็นการเหยียบย่ำกัน อย่าให้ความเคยชินทำให้หมดไป ความเกรงใจและไม่ให้เกียรติกัน เพราะถึงแม้จะยี่ห้อดีสักแค่ไหนสักแค่ไหนเพื่อนใหม่คนนั้นจะดีกับเราสักเพียงใด ถ้าเราใช้งานแบบไม่ถนอม รองเท้าก็อาจจะพังได้ ซึ่งก็รู้ไม่ใช่หรือว่ารองเท้าดีๆที่ใส่แล้วเหมาะกับเราหาไม่ง่ายเลย เพื่อนดีๆก็เช่นกัน และบางทีตลอดชีวิตของเราอาจจะเจอเพียงแค่คนเดียว
คำว่า “เพื่อน” มีค่าเกินจะเอ่ย เกินจะเผยถ้อยคำมาสรรหา
แม้จะน้อยใจบ้างเป็นธรรมดา แต่ทว่าเพื่อนคือเพื่อนนิรันดร์กาล
ความร้าวฉานจะหายไปด้วยคำนี้ คำที่มีค่ายิ่งใหญ่เกินกล่าวขาน
มีความรักความผูกพันมายาวนาน จกวันวานจนวันนี้มิลืมเลือน

เพ็ญพักตร์ ดวงชัย DVM 52011812031 กล่าวว่า...

นางสาวเพ็ญพักตร์ ดวงชัย
รหัสนิสิต 52011812031
สาขาสัตวแพทย์ศาสตร์ DVM
กลุ่มเรียนที่ 1

เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ

เพราะในชีวิตของคนเรานั้นมีหลายอย่างที่เราทำเองแต่เพียงลำพังไม่ได้ ซึ่งเรายังคงต้องการผู้ที่สนับสนุนช่วยเหลือเราให้ผ่านพ้นสิ่งต่างๆเหล่านั้นไปได้ด้วยดี ไม่มีใครอยู่ในโลกนี้ได้อย่างมีความสุขโดยไม่มีเป้าหมายที่รู้ว่ามีคุณค่าอย่างแท้จริงและในการไปสู่เป้าหมายนั้นเราปรารถนาผู้ซึ่งร่วมทางที่เสริมสร้างกำลังใจ ด้วยรักและหวังในสิ่งเดียวกัน ความอบอุ่นในความหนาวเหน็บเป็นความวางใจได้ท่ามกลางพายุแห่งชีวิต ผู้ที่ทำให้เราผ่อนคลายเวลาที่เรามีทุกข์เดือดร้อน ผู้ที่ทำให้เรามีความสุขและความชื่นชมลึกๆในใจที่ยอมรับในความอ่อนแอของเราได้ด้วยและยังเห็นคุณค่าในตัวเรา ผู้ที่รู้ใจและพยายามเข้าใจเราเสมอ ผู้ซึ่งประเล้าประโลมเป็นของขวัญล้ำค่าที่ไม่สามารถทดแทนด้วยสิ่งใดๆได้เลย มิตรภาพที่แท้ เป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งไม่ฉาบฉวยคือใจที่ชุ่มชื่นเมื่อคิดถึง คำเพียงหนึ่งพยางค์ นั่นคือคำว่า “เพื่อน” การมีหลายคนรวมอยู่ในที่เดียวกันไม่ว่าจำนวนมากหรือน้อย ไม่ว่าห่างไกลหรือใกล้ชิดถ้าไม่มีความสัมพันธ์ที่ดี ก็ไม่ได้เป็นเพื่อนกันอย่างแท้จริง เพราะการไม่มีเพื่อนอาจทำให้เราเป็นทุกข์ระดับหนึ่ง แต่การที่เรามีเพื่อนมากมาย
แต่กลับรู้สึกเหมือนไม่มีเพื่อนเลยนั้น ก็ทุกข์ยิ่งกว่าหลายเท่า
ข้าพเจ้าเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เห็นคุณค่าของคำว่าเพื่อนนี้ว่ามีความหมายกับข้าพเจ้าเพียงไร ทำให้ข้าพเจ้าได้ทราบว่าทำไมคนเราจึงต้องมีเพื่อน และการมีเพื่อนนี่เองก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ก่อให้เกิดความผูกพันระหว่างกันทั้งสองฝ่าย เกิดเป็นสายใยแห่งความห่วงใย รักใคร่ปรารถนาที่ดีต่อกันด้วยใจบริสุทธิ์โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆจากผู้ที่ข้าพเจ้าเรียกเค้าว่าเพื่อน จึงมีสิ่งที่เราเก็บไว้เป็นความรู้สึกต่อกันที่ไม่ลบเลือนไปไหนเรียกว่า ความประทับใจนั่นเอง สำหรับเพื่อนที่ข้าพเจ้าประทับใจนี้คือ นางสาวอุษา มิตรภานนท์ หรือ นิ่ม ซึ่งปัจจุบันเป็นเพื่อนร่วมคณะเดียวกันของข้าพเจ้าเอง เราสองคนรู้จักกันเพราะเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ระดับประถมศึกษาเรื่อยมาจนปัจจุบันซึ่งก็ยังคงเรียนในสิ่งๆเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมายไว้ก่อนเลย นี่เองก็เป็นจุดแรกที่ข้าพเจ้าประทับใจในความยาวนานของการคบหากันโดยใช้คำว่าเพื่อน เราสองคนมีความชอบในสิ่งต่างๆที่เหมือนกันในหลายๆเรื่องทำให้พูดคุยกันได้อย่าลงตัวไม่น่าเบื่อ เรามีโอกาสได้พูดคุยกันในหลายๆเรื่องบนถนนระหว่างการเดินทางไปเรียนหนังสือในช่วงเช้าและช่วงเย็นระหว่างกลับบ้านทุกวันเพราะบ้านเราอยู่ในเส้นทางเดียวกัน นิ่มเองก็เป็นเพื่อนที่มีน้ำใจเอื้อเฟื้อ รักเพื่อน เป็นคนที่เสียสละ น่ารัก ร่าเริงสดใสทำให้ข้าพเจ้ายิ้มได้เสมอๆ นิ่มสามารถให้คำปรึกษาที่ดีและคอยเป็นห่วงเป็นใยข้าพเจ้าในเวลาที่มีปัญหา อยู่เคียงข้างเวลาต้องการคนรับฟัง เราชอบทำกิจกรรมร่วมกันหลายๆอย่างซึ่งก็เป็นสิ่งที่เราทั้งสองคนรักที่จะทำ นิ่มเป็นเพื่อนที่ข้าพเจ้าอยู่ด้วยแล้วมีความสุขใจถึงแม้ว่าบางทีเราอาจจะมีเรื่องน้อยใจ หรือโกรธกันบ้าง แต่เราสองคนก็สามารถให้อภัยต่อกันและรับฟังความคิดเห็นของกันและกันทั้งสองฝ่ายได้เพราะมิตรภาพดีดีของคำว่าเพื่อนที่เรามีให้กันเสมอมา
ดังนั้นข้าพเจ้าคิดว่าคนที่มีความทุกข์ที่สุดในโลก ไม่ใช่คนที่จนที่สุด ป่วยที่สุด หรือต้องทำงานหนักที่สุดแต่เป็นคนที่มีเงินมาก มีสุขภาพดีและมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี แต่ไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนด้วยเลยสักคน ตรงกันข้ามเส้นทางที่สั้นที่สุดในการเดินทางคือ เส้นทางที่มีเพื่อนรู้ใจร่วมเดินทางไปด้วย เพราะการเป็นเพื่อนกันไม่ใช่ภาระ แต่เป็นบำเหน็จแห่งมิตรภาพ และวันนี้ข้าพเจ้าคิดว่าหากเรามีผู้ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนแล้ว เราก็ควรจะรักษามิตรภาพที่ดีงามนั้นไว้อย่างดีเพราะมันเป็นสิ่งที่จรรโลงใจเราได้ในการดำเนินชีวิตไปพร้อมกัน ถ้าเราปรารถนาให้เพื่อนได้สิ่งที่ดีที่สุด เราย่อมไม่อิจฉาแม้เพื่อนจะได้สิ่งดีกว่าเรา เราควรขอบคุณเสมอในน้ำใจที่เพื่อนมีให้กับเราเพราะน้ำใจที่เราได้จากเพื่อนของเรานั้นเป็นโบนัส เราจึงควรตระหนักเห็นคุณค่าและขอบคุณเขาเสมอ เราควรปลูกความสัมพันธ์แห่งไมตรีจิตเสมอและหมั่นหว่านมิตรภาพเพื่อได้มิตรภาพ เราควรใส่ปุ๋ยแห่งมิตรภาพเพื่อเก็บเกี่ยวผลแห่งมิตรภาพอันงดงาม มิตรภาพที่มั่นคง จะดำรงความเป็นเพื่อนให้ยั่งยืน

สุริยา พาหิรัญ กล่าวว่า...

นายสุริยา พาหิรัญ
51011811335 AS ปกติ
กลุ่ม 1

เพื่อนที่ประทับใจ

เขาชื่อ นายกิตติศักดิ์ จันทแสน
ชื่อเล่น ตั้ม
เกิดวันที่ 14 มีนาคม 2531
ขณะนี้เรียนอยู่ มหาวิทยาลัยนเรศร
คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า ปี3

เราเรียนมัธยมโรงเรียนเดียวกัน แต่ตอน ม.4 ตั้มอยู่ห้อง 1 ส่วนผมอยู่ห้อง 3 เราจึงไม่รู้จักกันเลยในตอนนั้น และผมเห็นเค้าชอบเดินไปไหนมาไหนคนเดียว
พอขึ้น ม.5 เขาจึงยายมาห้อง 3 เราจึงสนิทกันมากขึ้น และเราก้อได้ตั้งวงดนตรีของห้องเราขึ้นมา ชื่อวง “ ไข่เนียน ” ซึ่งมีตั้มเป็นมือกีต้าร์ที่เก่งมาก และยังมีต้องมือกีต้าร์คอร์ด ตั๋มมือเบส เนสร้องนำ และผมเป็นมือกลอง เย็นวันศุกร์หลังเลิกเรียน เราจะไปซ้อมดนตรีกันเสมอ
ตั้มเป็นคนที่ไม่มีแฟน แต่เขาเป็นคนที่โรแมนติกมาก เขาชอบทำอะไรโอเวอร์ๆให้คนที่เขาชอบทุกคนเสมอ แต่ก้อยังไม่มีใครติดคารมอันน้ำเน่าของเขาเลย ^U^
ตั้มกับผมชอบแลกเปลี่ยนกันให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องความรักเสมอ และแน่นอนเขาก้อให้คำปรึกษากับเพื่อนทั้งห้องเช่นกัน และเป็นที่ปรึกษาที่ดีด้วย
เวลาเรียนตั้มกันผมมักจะนั้งใกล้ๆกัน เขาเป็นคนที่ตั้งใจเรียนมาก แต่ตรงกันข้าม ผมไม่ตั้งใจเรียนเอาซะเลย แถมยังดึงตั้มให้ไม่ตั้งใจเรียนไปด้วย เขาจึงชอบว่าให่ผมเสมอว่าให้ตั้งใจเรียน
ตั้มเป็นคนพูดน้อย แต่เวลาเขาพูดมักจะสร้างเสียงหัวเราะให้กับเพื่อนๆได้เสมอ

ความประทับใจ
- เป็นคนสนุกสนานร่าเริง
- ไปไหนไปกัน
- ชอบช่วยเหลือเพื่อนๆเวลาที่มีปัญหา
- เป็นคนให้คำปรึกษาเรื่องดนตรี และอื่นๆ

ขนิษฐา ศรีทอง กล่าวว่า...

นางสาวขนิษฐา ศรีทอง
รหัสนิสิต 51011211085 IS ปกติ
กลุ่มเรียนที่ 1


เพื่อนที่ประทับใจ
“เพื่อน”ทุกคนต้องรู้จักคำนี้ดี...
ไม่มีใครหรอกที่จะไม่มีเพื่อน..ถ้าไม่มีน่ะสิแปลก ดิฉันได้รู้จักคำนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำตั้งแต่จำความได้ก็มีคำนี้ติดตัวฉันมาตลอด แต่ทุกคนต้องมีความประทับใครสักคนที่เราสามารถเข้ากันได้และมีความประทับใจซึ่งกันและกัน
เมื่อเริ่มเข้าสู้โรงเรียนมัธยมดิฉันได้รู้จักใครๆมากมาย..ซึ่งต่างกับการรู้จักเพื่อนที่ยังอยู่ประถมด้วยซ้ำเพราะในตอนนั้นเราก็แค่ไปโรงเรียนตอนเช้าเล่นด้วยกันแล้วก็กลับแต่อาจจะมีเพื่อนที่เราสนิทบ้าง..แต่ในวัยขนาดนั้นยังไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้งมากมายไม่รู้หรอกว่าเพื่อนคืออะไรก็ได้แต่นั่งเรียนด้วยกันเล่นด้วยกันไปวันๆเพราะตอนนั้นยังเด็กมีพ่อแม่คอยช่วยเหลือคอยให้คำปรึกษา แต่เมื่อเราโตเราได้รู้ได้เข้าใจอะไรหลายๆอย่างด้วยตัวเอง แต่คำว่าเพื่อนในช่วงมัธยมนี้แหละ..ดิฉันว่าดิฉันเข้าใจมันมากที่สุดแล้วดิฉันได้รู้จักเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่ดิฉันยังไม่เคยจะเห็นหน้าไม่เคยรู้จักนิสัยไม่เคยแม้แต่จะคุยกัน เราได้ทำความรู้จักกันและรู้จักนิสัยของกันและกัน แต่อาจจะมีบ้างบางครั้งที่ขัดแย้งกันตามแบบภาษาเพื่อนๆแต่จะขัดแย้งกันยังไงสุดท้ายก็ต้องลงเอยกันอยู่ดี...
แต่เพื่อนคนนี้..ดิฉันรู้สึกประทับใจเค้ามากกว่าใครอื่น ดิฉันรู้สึกว่าเราเข้ากันได้ทุกอย่างทำอะไรก็เหมือนๆกัน ชอบกินอะไรเหมือนๆ แต่มันอาจจะเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ใครๆหลายคนอาจจะเป็น แต่สิ่งที่สำคัญคือ เพื่อนคนนี้สามารถช่วยเราได้ แม้กระทั้งเวลาที่เราลำบาก เราสามารถช่วยซึ่งกันและกันได้ มีปัญหาเราก็คุยกัน ซึ่งต่างกับเพื่อนคนอื่นๆที่บางทีอาจจะไม่กล้าคุยปัญหาบางอย่างให้เค้าฟังได้ เพราะเราไม่เชื่อใจก็ว่างั้น...เพราะต่างคนต่างนิสัย แต่เพื่อนคนอื่นๆก็ไม่ใช้ว่าจะนิสัยไม่ดีเข้ากับเราไม่ได้หรอก แค่เรื่องบางเรื่องมันคิดกันคนละแบบ คนบางคนอาจจะมีข้อดีข้อเสียไม่เหมือนกัน และก็ไม่ได้ว่าดิฉันจะดีไปซะทุกอย่าง แต่การที่เราคุยกับคนที่เหมือนเรามันก็จะดีกว่า ดิฉันรู้สึกว่ามันรู้สึกสบายใจมากกว่า เพื่อนคนที่ได้เล่ามานั้นตอนนี้เค้าไม่ได้เรียนที่เดียวกันกับดิฉัน เราเรียนกันคนละที แต่เรายังคงติดต่อกัน เค้าคนนี้เธอชื่อว่า นางสาว อาลิษา อภิวิมลลักษณ์ ชื่อเล่นของเธอคือ บิวตี้ ดิฉันประทับเธอมาก แต่เพื่อนคนอื่นๆไม่ใช้ว่าจะไม่ประทับใจ ดิฉันรักเพื่อนทุกคนที่หวังดี ดิฉันไม่เคยคิดโกรธเพื่อนเลยเวลาเราขัดแย้งกัน เพราะทุกคนคือเพื่อนกัน............

Unknown กล่าวว่า...

นายพนัส เพ็งที รหัส 50011712068 ENV กลุ่มเรียนที่1

ผมอยากเล่าเรื่อง "ความประทับใจ" ใน เพื่อนผมคนหนึ่ง คือ นายต้อม
เรื่องมีอยู่ว่า หลังเรียนจบม.6แล้ว พวกเราแต่ละคนก็ต้องแยกย้ายไปเรียนต่อ นาย ต้อม แม้จะเกือบไม่จบ เนื่องจากมีปัญหาเข้ามาในชีวิตหลายอย่าง ทั้งเรื่องครอบครัว เรื่องเงิน ทำให้ผลการเรียนตกในหลายวิชา แม้จะจบช้ากว่าเพื่อน แต่มันก็จบจนได้ มันเป็นคนที่สนุกสนานกับชีวิตได้อย่างน่าอิจฉา ผมไม่เคยเห็นมันทุกข์ร้อนใจกับเรื่องอะไรเลย ขนาดบางวันมาเรียนไม่มีตังค์ซักบาทมันก็ยังไม่ยอมขอหรือยืมจากเพื่อนซักครั้ง และมันยังไม่เคยเศร้าให้ผมเห็น ไม่เคยพูดถึงเรื่องทุกข์ใจของมันซักครั้ง เจอทีไรมันก็มีแต่เสียงหัวเราะทุกที จนผมแอบคิดว่ามันเป็นบ้ารึเปล่า แต่แล้ววันหนึ่งมีเพื่อนของเราทั้งสองคน หลังเรียนจบม.6 เธอได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ ขณะกำลังเดินทางไป กลับประสบอุบัติเหตุด้านรถยนต์ เสียชีวิต พ่อแม่ของเธอหวังว่าเธอจะได้รับความสำเร็จทางด้านการศึกษาเนื่องจากเธอเป็นคนเรียนดีมาก และทางบ้านก็ฐานะดีไม่มีปัญหาอะไร แต่สุดท้าย พ่อแม่ของเธอต้องไปรับเธอกลับมาในร่างที่ไร้วิญญาณ เพื่อมาทำพิธีทางศาสนา ผมยอมรับว่า เธอ เป็น แค่ "เพื่อนเก่า" คือ เพื่อนเก่า ที่เคยรู้จักเท่านั้น แต่กับ นายต้อม เธอ เป็นเพื่อนที่แสนดีคนหนึ่ง(บอกก่อนว่า ไม่ได้มีเรื่องสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวแต่อย่างไร เป็นมิตรภาพระหว่างเพื่อนต่างเพศจริงๆ)
วันเคารพศพที่วัด ฝนตกหนัก นาย ต้อม มาที่วัดโดยชุดที่เรียบร้อยตามมารยาท แต่ เป็นที่น่าตลกของเพื่อนฝูง คือ เขาหกล้ม เสื้อและกางเกง เปื้อนโคลน +ขี้ดิน เป็นทาง เขาก็ยังยิ้ม และหัวเราะให้กับเพื่อนๆ เหมือนเช่นเคย ไม่ได้รู้สึกอับอายแต่อย่างใด ขณะพระสวด อภิธรรม ผมซึ่งอยู่ข้างๆกับเขา ผมก็เห็นน้ำตา จาก นาย ต้อมไหลออกมา ไม่มีเสียงสะอื้น ไม่มีคำพูด ไม่มีอะไรทั้งสิ้น มีเพียงน้ำตาที่ไหลมาช้าๆ ( ผมอยากบอกว่า โคตรเท่ห์เลย แมนมากๆ ) ผมไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร และก็ไม่เคยเอ่ยถามอะไรจากเขา ถึงเรื่องนี้เลย ปล่อยให้กลายเป็นตำนานความประทับใจในหลายๆเรื่อง ของผมที่มี ต่อเพื่อนคนนี้จริงๆ โดยที่ผมไม่เคยบอกเขาเลยจนถึงปัจจุบัน เก็บไว้ให้รู้ว่า" กับเพื่อนดีๆ บางทีก็ไม่ต้องพยายามแสดงอะไรให้ดูดีในสายตาของเรา เพียงแค่เป็นความดีแล้ว มันย่อมปรากฎให้รู้โดยไม่จำเป็นต้องร้องป่าวประกาศบอกให้ใครๆเห็น "
นี่คือเรื่อง เพื่อนของผม ที่ยังเป็น "เพื่อนยาก" มาจนถึงปัจจุบันนี้ แม้ผมจะมีเพื่อนไม่มากเท่าไร แต่มีไอ้บ้านี่ สักคน ผมก็คิดว่า เหลือเฟือแล้วครับ

Unknown กล่าวว่า...

นางสาวมินตรา เวินชุม รหัส 50011712068 ENVกลุ่มเรียนที่1


เรียงความเรื่องเพื่อนของฉัน
จากที่ดิฉันเริ่มก้าวเข้ามาในมหาวิทยาลัยมหาสารคามแห่งนี้ก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงเพราะมันแตกต่างจากชีวิต ม.ปลายมาก ถึงแม้ว่าจะมีพี่ๆคอยต้อนรับคอยให้คำแนะนำแต่มันก็ยังรู้สึกโดดเดี่ยวอยู่ดีทำให้คิดถึงชีวิตตอน ม.ปลาย มีเพื่อนมากมายอยากไปไหนก็ไปสนุกเฮฮากับเพื่อน เงินก็มีใช้ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย มีปัญหาอะไรก็มีคนคอยช่อยอยู่ตลอดเพื่อนตอน ม.ปลายก็คบกันมาหลายปีรู้ใจกันแล้วว่าแต่ละคนเป็นยังไง แต่พอมาที่นี่มีเพื่อนมากมายก็จริงแต่ เราไม่รู้เค้าเป็นยังไงจริงใจกับเราแค่ไหน เค้าจะรับฟังเราไหมตอนที่เรามีปัญหา แต่พออยู่ได้ประมาณ 1 เดือนก็เริ่มตอบตัวเองได้แล้วว่าในมหาวิทยาลัยไม่มีคำว่าจริงใจทำให้รอแต่วันหยุดรอกลับบ้านกลับไปหาพ่อกับแม่กลับไปหาเพื่อนเก่าตอนม.ปลาย
จนวันหนึ่งก็ได้รู้จักกับเพื่อนคนหนึ่งชื่อแต้ว น.ส.วรรณ์นิภา ทองผาสุก อยู่จ. อุดรธานี ซึ่งเรียนอยู่คณะเดียวกันแต้วเป็นคนน่ารัก สดใส จริงใจ ทำให้เราไว้ใจได้ สามารถให้คำปรึกษากับเราได้ พอคบกันนานไปก็เริ่มรู้จักนิสัยกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องกิน เรื่องเที่ยวเราก็เข้ากันได้ทุกเรื่องทำให้รู้สึกสนุกสนาน ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว และมีความสุขในการเรียน
ในวันนี้ตัวดิฉันได้รู้แล้วว่ามิตภาพมีค่าแค่ไหน เพื่อนดีๆ ในมหาวิทยาลัยก็มีเหมือนกัน ตอนนี้ก็พูดได้เต็มปากแล้วว่าชีวิตในมหาวิทยาลัยไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ตรงกันข้ามกลับเป้แหล่งที่ให้ความรู้และประสบการณ์ในการใช้ชีวิตการทำงานและการเข้ากับคนอื่นอีกด้วย

ศุจิกา มูลเหลา hos 51011011760 กล่าวว่า...

ความเป็นเพื่อนแท้ มิได้จำกัดอยู่ที่ว่า ต้องอยู่ใกล้กันตลอดเวลาต้องโทรหากันทุกวันต้องพบหน้ากันทุกครั้ง
บางครั้ง คนหนึ่งอยู่ที่นี่แต่อีกคนอยู่ไกลออกไปอีกฟากฟ้าและยังคงรอคอยเวลาที่จะได้มาพบกันอีกครั้งความเป็นเพื่อนอยู่ที่ว่าใจทั้งสองยังผูกพันกันอยู่หรือไม่หากเป็นอย่างนั้นจริงกาลเวลา ก็ไม่อาจทำให้เรา เ ป ลี่ ย น แ ป ล งหากยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ต้องทำตัวให้เหมือนบ้านแม้เขาจะสุขทุกข์เช่นไรจะสุขสบายหรือผิดหวังซมซานแค่ไหนประตูบ้านก็ยังเปิดกว้างไว้เ พื่ อ ร อ ก า รก ลั บ ม า เ ส ม อ ความหมายเพื่อนซั ก ค รั้ ง ไ ห ม ที่ จ ะ มี เ พื่ อ น ที่ ดี ซั ก ค นทุกๆคนต้องการเพื่อนที่ดีอย่างน้อยซักคนมาอยู่เคียงวข้างกายและใจไม่ว่าจะชนะ หรือพ่ายแพ้ความหมายอันลำค่าของเพื่อนไม่ใช่แค่อยู่ไกล้ ยิ่นมือออกมาให้ความช่วยเหลือเบิกบานร่วมกันสร้างสรรค์แต่เป็นความอบอุ่นใจที่ได้รู้ว่าใครซักคนที่เชื่อมั่น เข้าใจ ไว้ใจซึ่งสิ่งเหล่านั้นมิ ไ ด้ แ ป ร ผั น ต า ม ก า ล เ ว ล าและเพื่อนที่ดีที่สุด คือคนที่ฉันสามารถนั่งอยู่ริมระเบียงด้วยกันโดยไม่พูดอะไรกันซักคำ แต่สามารถเดินจากไป ด้วยความรู้สึกเหมือนได้คุยกันอย่างประทับใจที่สุด

นางสาวรัตติกาล โพธิ์ศรี กล่าวว่า...

เรียงความเรื่องเพื่อนที่ฉันประทับใจ
เพพื่อนที่ฉันประทับใจนั้น เป็นเพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยมมาด้วยกัน ฉันกับเขารู้จักกันตอนเข้าเรียนม.4 เขาชื่อนางสาวรัชนีกรณ์ มณีขัติย์ ปัจจุบันเขาศึกษาอยูมหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะรัฐประศาสนศาสตร์ เหตุผลที่ประทับใจเพื่อนคนนี้คือ เขาเป็นคนจริงใจกับเรามีน้ำใจและก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่ดีพอสมควร แต่ข้อเสียก็มีเหมือนกันคือเขาจะไม่ค่อยมีเงินในโทรศัพท์ เวลาโทรมาหาฉันเขาก็จะใช้วิธีโชว์เบอร์มาแล้วให้ฉันโทรกลับไป เป็นอะไรที่น่าเบื่อมากเพราะเขาทำบ่อยมากหรือเรียกว่าทำทุกครั้งที่โทรมาเลยก็ว่าได้ แต่นั้นก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับคำว่าเพื่อนของเรา เพราะนี่ถือเป็ฯเรื่องเล็กน้อยมากสำหรับคำว่าเพื่อน เขารู้จักสนิทสนมกันและเปนเพื่อนกลุ่มเดียวกันตอนเรียนม.4 เทอมต้น ในกลุ่มมีสมาชิกทั้งหมด 6 คนรวมฉันด้วย แต่ฉันก็มีความรู้สึกดีกับเพื่อนคนนี้เป็นพิเศษ ฉันรู้สึกรักเขาและก็รู้สึกเป็นห่วงเขา เพราะเขาเป็นคนมองโลกในแง่ดีมาก และเป็นคนเชื่อคนง่าย กลัวว่าเขาจะโดนหลอก ฉันก็ได้เตือนเขาอยู่เหมือนกันว่าอย่าไว้ใจใครง่ายๆ คนเราทุกวันนี้รู้น่าไม่รู้ใจ ปากกับใจไม่ตรงกัน เป็นระยะเวลาที่นานพอสมควรที่เราได้นั่งเรียนด้วยกัน เราเลือกนั่งข้างกันตั้งแต่เรียนม.4 จนจบม.6 มีตั้งใจเรียนบ้าง คุยกันไม่สนใจเรียนบ้าง หลับในห้อง
เรียนบ้าง พอจบม.6 ก็ต้องสอบเรียนต่อเข้ามหาวิทยาลัย นี่แหละเป็นการแยกจากกัน จากกันไปเรียนคนละที่ แต่กันก็ไม่ได้เลิกติดต่อกันนะ เรายังติดต่อกันอยู่ตลอด มีนัดเจอกันบ้าง ส่วนมาจะโทรคุยกันมากกว่า บางครั้งฉันก็ไปนอนค้างบ้างเขา บางครั้งเขาก็มานอนค้างบ้านฉัน เราสนิทเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ครอบครัวเขาก็อบอุ่นดี พ่อแม่เขาบอกกับฉันว่าให้คิดว่าพ่อแม่เขาเป็นเหมือนพ่อแม่ตัวเอง ให้ไปหาหรือไปค้างที่นั้นได้ตลอดเลย แล้วก็ต้องกลับไปเยี่ยมบ่อยๆด้วย แล้วช่วงปิดเทอมเราก็จะไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน ต้องหาเวลาไปให้ได้ในแต่ละปี บางทีฉันก็ไปกับครอบครัวเขา บางครั้งเขาก็ไปครอบครัวฉัน หรือก็ไปกันทั้งครอบครัวฉันและครอบครัวเขาเลยก็มี หลังจากที่ฉันได้รู้จัก ได้สนิทสนมกับเขา ฉันก็บอกกับตัวเองได้เลยว่า ผู้หญิงคนนี้คือเพื่อนของฉัน และเป็นเพื่อนคนที่ฉันรักและประทับใจมากที่สุด ฉันสามารถบอกได้เลยว่าเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป และในตอนนี้ฉันก็ยังมีความรู้สึกแบบนั้นกับเขาเสมอ การที่จะหาเพื่อนมันไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่การที่จะหาใครมาเป็นเพื่อนแท้ของเราสักคนนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพื่อนที่ค่อยช่วยเหลือเรา จริงใจกับเรา และรักเราจริง แต่ในวันนี้ฉันก็ได้พบกับเขาแล้ว ฉันและเขาเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป

Unknown กล่าวว่า...

นางสาวณัฐพัชร์ ประยูรหาญ
รหัสนิสิต 51010512514 (2EN)
กลุ่มเรียนที่ 1

เพื่อนคนนี้…ที่ประทับใจ
เราทุกคนต่างก็ต้องการเพื่อน คนที่จะคอยอยู่เคียงข้างเรา คอยช่วยเหลือเราเมื่อเรามีปัญหาร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเราอย่างเต็มใจ เป็นคนที่เราไว้ใจสามารถเปิดใจพูดคุยได้ทุกเรื่อง หลายครั้งที่
เรามีปัญหา เพื่อนจะเป็นคนแรกที่ได้รับรู้เรื่องราวก่อนเสมอ เป็นเรื่องน่าแปลกที่คนๆหนึ่งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่ได้มาจากครอบครัวเดียวกัน ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องกัน คนๆหนึ่งที่เมื่อก่อนเป็นคนแปลกหน้าแต่ตอนนี้กลายมาเป็นคนที่เราไว้ใจมากที่สุด มิตรภาพระหว่างเพื่อนนั้นเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ การที่เราจะมองหาเพื่อนสักคนนั้นต้องมองลึกลงไปในจิตใจไม่ใช่มองแค่รูปลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว เช่นเดียวกับเพื่อนคนนี้ที่ดิฉันรู้สึกประทับใจและเมื่อมองย้อนกลับไปก็รู้สึกโชคดีที่ได้รู้จักเพื่อนดีๆแบบนี้
นุ่มนิ่มหรือนิ่มนิ้มเป็นเพื่อนที่เรียนชั้นมัธยมปลายมาด้วยกันและชื่อเรียกที่ต้องเรียกว่านิ่มนิ้มนั้นก็เพราะว่ามีเพื่อนอีกคนในห้องที่ชื่อนุ่มนิ่มเหมือนกัน นิ่มนิ้มจึงเป็นชื่อที่เพื่อนๆตั้งขึ้นมาเพื่อไม่ให้สับสนกันนั่นเอง นิ่มนิ้มเป็นคนที่มีนิสัยร่าเริง สนุกสนาน แต่ในเรื่องของการเรียนนั้นนิ่มนิ้มก็ตั้งใจเรียนและเป็นคนที่เรียนเก่งระดับต้นๆของห้องที่เรียนสายวิทยาศาสตร์เลยทีเดียว เรื่องความสามารถนั้นนิ่มนิ้มเป็นคนที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ชอบวาดภาพ ชอบแต่งเพลง ชอบร้องเพลง เมื่อมีกิจกรรมต่างๆที่โรงเรียนจัดขึ้นนิ่มนิ้มต้องได้ออกความคิดเห็นอยู่เสมอ ตลอดเวลาสามปีที่ใช้ชีวิตในช่วงมัธยมปลายของดิฉันนั้นมีนิ่มนิ้มเป็นเพื่อนสนิทที่พูดคุยกันได้ทุกเรื่องที่เป็นเช่นนั้นก็อาจจะเป็นเพราะว่าดิฉันสามารถรู้สึกถึงความไม่กดดันและความสบายใจเมื่อได้พูดคุยกับนิ่มนิ้มเรื่องที่เราพูดคุยกันส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นเรื่องการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย เลือกคณะอะไร เลือกมหาวิทยาลัยไหน เป็นหัวข้อที่เราจะพูดคุยกันอยู่เสมอ คณะที่นิ่มนิ้มอยากจะเรียนนั้นก็คือคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะที่ดิฉันอยากจะเรียนก็คือคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เราต่างก็แลกเปลื่ยนความคิดเห็นต่างๆมากมาย ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วเราทั้งคู่จะไม่ได้เรียนในคณะที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้และเราก็ไม่ได้
เรียนต่อที่เดียวกัน แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
แม้ว่าในตอนนี้ดิฉันและนิ่มนิ้มจะไม้ได้เจอกันและไม่ได้พูดคุยกันบ่อยเหมือนเมื่อก่อนแต่เราก็ยังโทรศัพท์พูดคุยกันบ้างเป็นครั้งคราวและบทสนทนาที่เราพูดคุยกันก็ยังฟังดูสนิทสนมและเป็นกันเองแม้เราจะไม่ได้เจอกันนานเกือบสองปีแล้วก็ตาม เพราะความเป็นเพื่อนของเรา ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ว่าต้องโทรหากันทุกวันต้องพบหน้ากันทุกครั้ง และดิฉันเชื่อว่าในตอนนี้ทั้งดิฉันและนิ่มนิ้มเองต่างก็ต้องมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนใหม่หรือสังคมใหม่และดิฉันก็เชื่ออีกเช่นกันว่าไม่ว่าอะไรจะเปลื่ยนแปลงไปแต่มิตรภาพของเราก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงดั่งเช่นคำที่ว่า ไม่ว่าเพื่อนจะอยู่ที่ไหนมิตรภาพยังคงเดิม

แพรวพรรณ กล่าวว่า...

น.ส แพรวพรรณ เยือกเย็น

หรัสนิสิต 51010918333

กลุ่ม1

เพื่อนที่ประทับใจ

เพื่อน คือ หัวไหล่… ที่ให้เราซบเมื่อเราอยู่สึกแย่
เพื่อน คือ คนจ่ายค่าข้าวเมื่อเรามมีตัง
เพื่อน คือ คำสั้นๆทีทำให้เราไม่เหงาเวลาเราทุกข์
เพื่อน คือ คือที่พึ่งยามทุกข์
เพื่อน คือ ที่ปรึกษา
เพื่อน คือ คนที่คอยสับรางรถไฟเวลารถไฟจะชนกัน

เพราะฉะนั้น ทุกคนต้องเลือกสิ่งที่มีค่ามากกว่าและสิ่งที่เราเลือกสิ่งนั้นก็คือ เพื่อน..

และเพื่อนที่ข้าพเจ้าจะกล่าวถึงในที่นี้คือ น.ส. จารุณี กองศรี
ประถมเรียนที่ โรงเรียนบ้านก่าน
มัธยมเรียนที่ โรงเรียนหนองสังข์วิทยายน
ปัจจุบันเรียน คณะบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

เขาเป็นเพื่อนที่ไม่ทิ้งเพื่อนด้วยกัน ไปไหนก็ไปด้วยกันเสมอ ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขเขาก็จะอยู่กับเราตลอด ทำให้ฉันชื่อในคำว่าเพื่อนตาย มีอยู่หลายครั้งที่ฉันไม่เหลือเงินติดตัวเลยสักบาท ก็มีเพื่อนคนนี้คอยช่วยเหลือหรือในยามฉันหิว ยามฉันกระหาย ก็มีเพื่อนฉันคนนี้ คอยจุนเจือช่วยเหลือฉันมาตลอดหลายปี
อาจมีหลายอย่างที่ตรงข้ามกันบ้าง แต่แม่เหล็กต่างขั้วย่อมดึงดูกันเสมอ หลายครั้งที่มีกานทะเลาะกันบ้าง แต่สุดท้ายก็กลับมาดีกันเหมือนเดิม เพราะคำว่าเพื่อนที่ดึงดูดเราไว้ด้วยกันมานานหลายปี

มิตรภาพของคำว่าเพื่อนจะอยู่กับเราตลอดไป friend forever

ศักดิ์ชัย ยิ่งมีมา กล่าวว่า...

นายศักดิ์ชัย ยิ่งมีมา
รหัสนิสิต 52011011532 Hos กลุ่มเรียนที่ 1

เรียงความเรื่อง เพื่อนที่นิสิตประทับใจ
เพื่อน คือ คนที่เราอยู่ด้วยแล้วมีความสุข รู้สึกดี คอยเตือน คอยห่วงใยกัน มีความหวังดีซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทหรือว่าไม่สนิทก็ตาม สำหรับผม เพื่อน คือ คนที่อยู่เคียงข้างเรา คอยช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน ยามที่มีปัญหา
ผมมี เพื่อนอยู่คน นึง ที่ประทับใจ แล้วก็เป็นเพื่อนสนิทกันด้วย เพื่อน คนนี้ ชื่อ นางสาววชิราพร สิมงาม (ต่าย) เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2533 อยู่บ้านเลขที่ 104/12 บ้านหนองบัว ตำบลหนองบัว อำเภอศรีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ปัจจุบัน ต่ายเรียน คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม เป็นคณะเดียวกันกับผม ผมรู้จักต่ายตอนเรียนอยู่ ม.4 ซึ่งได้มาเรียนอยู่ โรงเรียนเดียวกัน ห้องเดียวกัน แรกๆ ก็ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไรหรอก เริ่มมาสนิทกัน ตอนที่ หนีเรียน หลังจากนั้นก็เริ่ม รู้จัก สนิทสนม กันมา ไปใหนก็ไปด้วยกัน ต่ายเป็นคนเฮฮา ไม่ค่อยเครียด สนุกสนานตลอด เวลา อยู่ด้วยกันจะหัวเราะตลอด มีเรื่องคุยกันตลอดเวลาเลย ต่ายเป็นคนรักเพื่อน ชอบช่วยเหลือเพื่อน เวลาผมทำการบ้านไม่ทันก็ได้ต่าย คอยช่วยทำจนเสร็จ หลายครั้งที่เราหนีเรียนกัน สาเหตุที่หนีเรียนก็เพราะว่า ถึงเวลาที่ต้องเรียนวิชาสังคม ทีไร อาจารย์ไม่สอนเลย เข้ามาก็บ่นแล้วก็สั่งงานแล้วก็ไป
อีกอย่าง ชอบด่านักเรียนมาก ผมเลยไม่ค่อยอยากจะเข้าเรียน เลยพากันออกไปข้างนอก กับเพื่อนๆ หลายครั้งที่ หนีเรียน แต่ก็ไม่ทิ้งเรื่องการเรียนสุดท้ายก็ได้จบพร้อมกับเพื่อนๆ รู้สึกดีใจมาก เลย ที่จบกับเค้า
บางครั้ง เวลาอยู่กับต่ายก็รู้สึก โกรธ เคืองกัน เป็นบางครั้ง เพราะว่า ต่ายใจร้อน พูดบอก ก็ไม่ยอมฟัง แต่ผลสุดท้ายก็ เข้าใจกันเหมือนเดิม เวลาที่มีปัญหาก็อยู่คอยช่วยเหลือกัน ผมรักเพื่อนคนนี้มาก จนถึงปัจจุบัน ยามใดที่มีสุขก็สุขด้วยกัน ยามใดที่มีทุกข์ก็ทุกข์ด้วยกัน ผมประทับใจเพื่อนคนนี้มากครับ แล้วก็รักเพื่อนคนนี้มาก
สุดท้ายก็ไม่มีอะไรมาก อยากจะบอกว่า
เพื่อนแท้นั่น ไม่จำเป็นต้องนิสัยดี เสมอ.......รักเพื่อน

พนิดา ภูขันสูง กล่าวว่า...

นางสาว พนิดา ภูขันสูง
รหัสนิสิต 52010913342 1BC กลุ่มเรียนที่ 1

เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ

เพื่อน คือคนที่รู้ใจ เพื่อนคือคนที่หวังดีต่อเรา เพื่อนคือคนที่เข้าใจเราเมื่อเรามีความสุข เพื่อนก็มี ความสุขกับเรา เมื่อเรามีความทุกข์เพื่อนก็มีความทุกข์ กับเรา เพื่อนคือคนที่ให้ความรู้กับเรา ถ้าเราไม่เข้าใจบทเรียนเพื่อนก็อธิบายให้เราเข้าใจ เมื่อการบ้านไม่ เสร็จเพื่อนก็ให้กำลังใจ เพื่อให้ข้าพเจ้าทำการบ้านให้เสร็จ นี่คือเพื่อนเรียนเพื่อนรักตามความคิดของข้าพเจ้ามีอยู่ 2 ประเภท คือเพื่อนกินกับเพื่อนแท้ สำหรับคำว่าเพื่อนแท้ก็คือ เพื่อนที่ช่วยเหลือเราในเวลาที่เราไม่สบายใจซึ่งเขาสามารถทำให้เราเกิดความสุขหรือทำแทนเราได้ คอยให้กำลังใจเราเสมอเมื่อเราท้อแท้หรืออ่อนแอ
และให้โอกาสเราเสมอเมื่อเราทำผิดส่วนคำว่าเพื่อนกิน คือเวลาที่เราเกิดเรื่องไม่สบายใจเขาก็จะทำเหมือนไม่ได้รู้จักเราเหมือนกับไม่ได้เป็นเพื่อนกัน เพื่อนประเภทนี้จะอยู่กับเราก็ต่อเมื่อเรามีความสุขแต่เมื่อเรามีความทุกข์ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเราเลย

เพื่อน คือ ... คนที่ไม่ต้องอยู่ด้วยกันก็รักกันได้

ไม่ต้องเห็นกันทุกวัน ... ก็รักกันได้

ไม่ต้องหวานใส่กัน ... ก็รักกันได้

แต่รักอยู่ฝ่ายเดียว ... เป็นเพื่อนกันไม่ได้

เพราะเพื่อน ...

ไม่ได้เกิดมาพร้อมหน้าที่ ... อย่างคำว่า ... พ่อแม่

ไม่ได้จบลงพร้อมหน้าที่ ... อย่างคำว่า ... แฟน

แต่เกิดจาก ...

การกระทำซึ่งกันและกัน

จะอยู่หรือไป ... ใช้ "ใจ" เป็นเกณฑ์

จะอีกกี่นาน ... เพื่อนก็ยังเป็นทั้งรอยยิ้ม

และเสียงหัวเราะที่ไม่มีวันเลือนหาย

เพื่อนคือคนที่เรามั่นใจ อยากไปหาที่สุด

ไม่ว่าจะในยามทุกข์หรือยามสุข

เพื่อนคือคนที่เราไม่ต้องนอนร้องไห้

คอยโทรศัพท์ทั้งคืน ... เพื่อนก็โทรมาหา

ฐานะ ... ไม่ใช่ตัววัดว่าใครเหมาะจะเป็นเพื่อนใคร

หน้าตา ... ไม่ใช่มาตรฐานว่าใครควรจะเป็นเพื่อนใคร

แต่น้ำใจ ... จะเป็นเครื่องชี้ให้เรารู้ว่า

ใครที่ควรจะเป็นเพื่อนเรา

เพื่อนคือ ... คนที่แอบมาปรุงแต่งชีวิตเรา

ซะจนกลายเป็นอาหารจานแปลก

มีทั้งหวาน ขม อมเปรี้ยว

เดี๋ยวเติมความห่วงใย เดี๋ยวใส่ความรัก

หมักความผูกพันจนได้ที่

สุดท้ายก็กลายเป็นอาหารจานดี ที่ไม่มีผักชีโรยหน้า

แต่ว่าเติมความจริงใจได้จนเต็มจาน

เพื่อน ... ก็เหมือนเสื้อตัวเก่ง

ที่เราจะหยิบมาใส่ทุกครั้งที่เราต้องการความมั่นใจ

และเมื่อพ้นเวลานั้นไป ...

เสื้อตัวนี้ก็ยังแขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้าใบเดิมเสมอ

เหมือนกับเพื่อนที่จะอยู่กับเราในวันที่เราไม่สบายใจ

ชนากานต์ อ่อนพินา กล่าวว่า...

นางสาวชนากานต์ อ่อนพินา
รหัสนิสิต 52011011411 HOS1 กลุ่มเรียนที่ 1

เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ

คำว่า"เพื่อน" เป็นเพียงคำสั้นๆแต่มีความหมายมาก ทุกคนในโลกนี้ไม่มีใครเลยที่จะอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้ มนุษย์ทุกคนในโลกนี้จะต้องมีเพื่อน มีสังคม

คำว่า"เพื่อน"สำหรับดิฉัน มีความหมายกับดิฉันมาก เพื่อนดิฉันชื่อ "แป้ง" เราเรียนด้วยกันตั้งแต่ม.1-ม.6 แป้งเป็นคนที่ร่าเริง ช่วยเหลือฉันทุกอย่าง ปลอบใจฉันเมื่อฉันเสียใจ แรกๆเราไม่ค่อยจะสนิทกันเท่าไหร่ เราไม่ถูกกันด้วยซ้ำ ตอนม.ต้น เราไม่ค่อยจะถูกกันแต่เราก็เล่นด้วยกัน พอมาม.ปลายเราก็มาสนิทกัน เล่นด้วยกัน เป็นเพื่อนซี้กันเลยทีเดียว ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด แป้งจะมีนิสัยพูดตรงไปตรงมา จริงใจกับทุกคน มีอะไรก็จะพูดกันตรงๆไม่อ้อมค้อม แป้งเป็นผูหญิงตัวใหญ่ ใครๆก็กลัว ทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นนักเลง แต่ที่จริงแล้ว เขาตลก เฮฮา บ้าบอมาก เราก็เล่นด้วยกันมาจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ เราก็ยังติดต่อกันอยู่ตลอดโทรหากันตลอด กลับบ้านเราก็นัดกันออกมาเที่ยวกัน มีความสุขกันมาก ตอนฉันอกหัก แป้งก็มาปลอดใจฉัน ให้กำลังใจฉันจนฉันผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายได้ แป้งเรียนนิติศาสตร์(บ้ากฎหมายมาก)แป้งใฝ่ฝันที่จะเป็นผู้พิพากษา เขาตั้งใจเรียนมากกว่าเดิม เขามีความคิดเป็นผู้ใหญ่ เขามักจะสั่งสอนฉันเสมอ ฉันเชื่อว่าในอนาคตเขาจะต้องมีงานทีดีทำ เขาอาจจะเป็นผู้พิพากษาอย่างที่เขาใฝ่ฝันไว้ก็ได้ ฉันรักเพื่อนคนนี้ของฉันมากและเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป
เพื่อนสำหรับฉันไม่ว่าจะเป็นคนที่ฉันกล่าวถึงหรือเพื่อนคนอื่นๆก็ตาม เพื่อนก็มีความหมายสำหรับฉันมากและฉันจะรักษามิตรภาพของเราตลอดไป

ขนิษฐา เงินสันเทียะ กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ขนิษฐา เงินสันเทียะ กล่าวว่า...

นางสาวขนิษฐา เงินสันเทียะ
52011010096 HOS กุล่ม 1

เพื่อนคำสั้นๆที่เรียกกันบ่อยครั้ง เป็นคำที่บ่งบอกถึง
ความสนิทสนมในขั้นหนึ่งมากกว่าคนรู้จัก ดังนั้นเพื่อนจึงต้องใช้ระยะเวลาในการทำความคุ้นเคยในระดับหนึ่ง กว่าจะมาเป็นเพื่อนต้องใช้เวลาศึกษาดูใจ ว่าเพื่อนคนนี้เป็นอย่างไร นิสัยใจคอเป็นอย่างไร เพราะการเลือกคบคนที่ดี ก็จะทำให้เราได้เจอแต่สิ่งดี เนื่องจากเพื่อนนั้นมีหลายรูปแบบ มาจากทั่วทิศทั่วทาง จึงไม่รู้ถึงตัวตนของเขาดีเท่าไร
ตลอดชีวิตของเราจะมีสักกี่คนที่จะเจอกับเพื่อนแท้จริงๆ ส่วนในชีวิตของฉันนั้น ในมีเพื่อนอยู่เยอะเหมือนกัน ตั้งแต่ประถมจนถึงมหาวิทยาลัย เพื่อนทุกคนที่ฉันเคยคบด้วย ต่างก็เป็นคนดี จนรู้สึกว่าไม่เคยเจอเพื่อนที่ไม่ดีเลย แต่จะมีสักกี่คนที่จะอยู่กับเราตลอดเวลา เพื่อนเปรียบเสมือนคนๆหนึ่งที่คอยให้คำปรึกษา บางครั้งเวลาเรามีความทุกข์ เพื่อนก็จะช่วยแก้ปัญหาเสมอ ฉันก็มีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง ที่ใช้เวลาศึกษานิสัยใจคอมาพอสมควร ครั้งแรกที่เห็นหน้ากันไม่ค่อยชอบพอกันสักเท่าไหร่นักเนื่องจากเขาเป็นคนเรียบร้อยและพยายามทำสวยซะจนหน้ารำคาญพอได้คบกันมาสักระยะหนึ่งก็เริ่มรู้ถึงนิสัยของเขาว่าทุกอย่างที่เขาทำไปล้วนออกมาจากจิตใจของเขาทั้งนั้น ทำให้ฉันเลือกที่จะคบเพื่อนคนนี้อย่างสนิทใจ เวลาที่มีปัญหาก็มักจะปรึกษาเต้าเป็นคนแรกและเขาจะทำให้ฉันยิ้มได้เสมอ เวลาที่เขามีความทุก ตลอดระยะเวลาที่ฉันและเพื่อนคนนี้คบกันมาเราสองคนไม่เคยทะเลาะกันเลย เราต่างเข้าใจในเหตุผลของกันและกันเสมอ

Unknown กล่าวว่า...

นางสาวชลีกร ศิริสวัสดิ์
52011011417 HOS Sec.1

เรียงความประทับใจเรื่องเพื่อน

เพื่อนที่ดิฉันประทับใจคือนางสาวกนกพร เพ็ชรศรี ชื่อเล่นว่ากล้วย อายุ 19 ปี เกิดเมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ.2533 เกิดที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จบการศุึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนบางลี่วิทยา
เป็นเพื่อนที่ดิฉันรู้จักกันเป็นเวลาไม่นาน ดิฉันรู้จักเพื่อนคนนี้เพียงประมาณ 4 เดือนเท่านั้นเอง หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเพิ่งรู้จักกันแค่ 4 เดือนทำไมถึงได้เป็นเพื่อนสนิทกัน ดิฉันกับกล้วยเริ่มรู้จักกันเมื่อตอนที่ดิฉันรู้ว่า
ดิฉันสอบเข้ามหาวิทยาลัยมหาสารคามได้ ดิฉันรู้จักกับกล้วยทางอินเตอร์เน็ตเราสองคนได้คุยกันในทางเอ็มเอสเอ็นเป็นครั้งแรก และนับตั้งแต่ตอนนั้นเราก็เริ่มคุยกันเริ่มพูดคุยกันมากขึ้น และพอวันมารายงานตัวที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
เราก็ได้มาได้มาเจอกันเป็นครั้งแรก และนั่นเองทำให้เราสองคนได้รู้จักนิสัยใจคอกันมากขึ้น อาจจเป็นเพราะนิสัยเราทั้งสองคนนั้นมีนิสัยที่เหมือนกันมาก เราชอบอะไรๆที่เหมือนกัน ชอบทานอาหารที่คล้ายๆกัน ลักษณะท่าทาง การพูด
บางครั้งก้อคล้ายๆ กัน อาจเป็นเพราะเหตุนี้เองจึงทำให้เราสองคนสนิทกันมาก และเราสองคนมาเรียนอยู่ที่มหาสารคาม เราทั้งสองคนก็มาจากภาคเดียวกันนั่นก็คือภาคกลาง จึงทำให้เราสองคนไปไหนก็ไปด้วยกัน แล้วยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆ
มันทำให้เรายิ่งสนิทกัน เชื่อใจกัน เวลาที่ดิฉันไม่สบายใจมีเรื่องอะไรก็ปรึกษากล้วยได้ทุกเรื่อง และมีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้ดิฉันและกล้วยได้ผ่านมันมาด้วยกัน มันจึงทำให้ดิฉันและกล้วยมีความรักและความผูกพันกันมาก
และมิตรภาพของเราสองคนก็จะอยู่อย่างนี้ตลอดไป

Unknown กล่าวว่า...

นางสาวกนกพร เพ็ชรศรี
52010815051 FPD Sec.1

เรียงความประทับใจเรื่องเพื่อน

เพื่อนที่ดิฉันประทับใจคือ นายสุรเดช เกิดโภคา ชื่อเล่น ตั้ม อายุ 19 ปี เกิดวันที่ 13 เมษายน 2533 เกิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี จบจากโรงเรียนบางลี่วิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนเดียวกับดิฉัน
ตั้มเป็นเพื่อนที่ดิฉันคบมาในระดับชั้นมัธยมปลายเป็นเวลา 3 ปี ตั้มยังเป็นคนที่คอยแนะนำดิฉันในเรื่องการเรียนวิชาชีววิทยา ตั้มเป็นเพื่อนรู้ใจดิฉันมากๆตั้มเป็นบุคคลที่เป็นเพศที่สาม
แต่สำหรับตัวดิฉันแล้วตั้มเป็นทั้งพี่และเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับดิฉันเลย ตั้มเป็นเพื่อนที่มีความร่าเริงและสนุกสนานอยู่ในตัวเองและมีความเป็นตัวของเองสูงและเป็นกันเองกับเพื่อนมากๆ ตั้มเป็นเพื่อนรู้ใจดิฉันตลอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร
และเรื่องเที่ยวดิฉันกับไปไหนจะไปด้วยกันตลอด ทำให้เพื่อนในห้องตั้งฉายาว่า กระเทยทึกกับหญิงบึก แต่ดิฉันและตั้มก็ยอมรับฉายานั้นแต่โดยดี เพราะว่ามันเป็นเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ นิสัยเราสองคนเหมือนกันมากๆ ดิฉันจารู้ใจตั้ม
ว่าตั้มชอบอะไร ไม่ชอบอะไร และตั้มก็จะรู้ว่าดิฉันชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ในทุกๆเรื่องเราสองคนจะรู้ถึงกันและกันหมด และเวลาใดที่ดิฉันมีเรื่องทุกข์ใจตั้มก็จะเป็นคนคอยปลอบใจและเป็นกำลังใจให้ดิฉันเสมอ ไม่ว่าเรื่องที่ทุกข์ในนั้นจะ
เป็นเรื่องที่เล็กหรือว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ก็ตาม ตั้มจะช่วยปลอบใจดิฉันทำให้ดิฉันมีกำลังใจขึ้น ในตอนนี้ตัวของดิฉันเองได้มาเรียนที่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แห่งนี้ แต่มิตรภาพระหว่างดิฉันและตั้มก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

กุญชร พวงสันเทียะ กล่าวว่า...

ทุกคนบนโลกไม่มีใครเกิดมาแล้วอยู่ได้โดยลำพังเพราะทุกชีวิตต้องพึ่งพาอาศัยกันแม้แต่สิ่งมีชีวิตอื่นๆก้อเช่นกันโดยเฉพาะมนุษย์
เช่นเดียวกับข้าพเจ้าที่เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ต้องการมีเพื่อนเช่นกันและข้าพเจ้าก็โชคดีที่ข้าพเจ้าคนหนึ่งที่ข้าพเจ้ามีเพื่อนที่ดีกับข้าพเจ้ามากมายเพื่อนข้าพเจ้าที่อยู่แก๊งเดียวกันมีอยู่ห้าคนและมีอยู่หนึ่งในนั้นที่ข้าพเจ้าสนิทเป็นพิเศษเธอคนนั้นชื่อว่า"ผักกาด"เธอเป็นคนที่กินจุแต่ตัวเล็กมากที่สุดในกลุ่มผักกาดเธอเป็นคนดีจริงใจกับเพื่อนมากโดยเฉพาะกับข้าพเจ้าข้าพเจ้าเองโตมายังไม่เคยเจอเพื่อนที่แสนดีอย่างนี้มาก่อนเธอเป็นได้ทั้งเพื่อน พี่และน้องในคนเดียวกัน
เธอมีน้ำใจกับข้าพเจ้าอย่างมากเช่นว่าตัวข้าพเจ้ามักจะชอบปวดท้องตอนกลางคืนดึกมากแต่พอโทรไปหาเพื่อนคนนี้ทุกครั้งไม่ว่าจะกี่ทุ่มเธอก็จะรีบขี่มอไซค์มาทั้งที่ดึกมากแล้วเธอรีบมาแล้วพาไปหาหมอจากนั้นเธอก็คอยเฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาลไม่ยอมไปโรงเรียนรอจนเช้าจนครอบครัวของข้าพเจ้ามาถึงแล้วเธอจึงกลับบ้านเธอทุ่มเทและรักเพื่อนจริงๆแม้ว่าเวลาที่ฉันเหงา เศร้า ท้อ ไม่มีใครคนแรกที่ข้าพเจ้าเห็นหน้าก็คือยัยผักกาดนี่แหละเธอไม่เคยทอดทิ้งแม้ยามที่ข้าพเจ้าหมดกำลังใจไม่สดใสยัยเพื่อนก็จะคอยให้กำลังใจทำให้ข้าพเจ้าสดชื่นได้เสมอแม้บางครั้งเราจะงอนกันบ้างทะเลาะกันบ้างแต่ก็ไม่เคยเกินสามชั่วโมงสักทีที่ทะเลาะกันมา
แม้เวลาที่เราไม่มีเงินเราสองคนก็จะแบ่งกันหรือผลัดกันยืมบางครังก็แทบจะไม่ต้องปริปากพูดว่าขอยืมก็ได้ยืมแล้วทุกๆวันหลังจากเลิกเรียนเราสองคนชอบไปกินก๊วยเตี๋ยวร้านเดิมทุกๆวันเธอก็ชอบพูดคำเดิมๆว่าข้าพเจ้าชอบปวดท้องจะคอยบอกให้ใส่พริกกับน้ำส้มน้อยๆข้าพเจ้ารู้สึกดีอยู่ทุกครั้งทีเพื่อนคอยดูแลเหมือนคนในครอบครัวอย่างนี้ความประทับใจที่ข้าพเจ้ามีต่อเพื่อนคนนี้พูดเท่าไรก็ไม่จบเพราะมันมีมากมายข้าพเจ้าได้รู้จักเพื่อนคนนี้มากขึ้นนานขึ้นก็รู้สึกเห็นคุณค่าของคำว่าเพื่อนมากกว่าเดิมหลายเท่าแต่น่าเสียดายพอจบม.6เราก็ต้องจากกันไกลเพื่อนก็เรียนต่อที่กทม.ส่วนข้าพเจ้าถูกบังคับให้ออกมาต่างจังหวัดอย่างนี้จึงไม่ได้เจอกัน
แต่อย่างไรก็ตามมิตรภาพทำอย่างไรก็ไม่สูญหายถ้าเรารักษามันไว้และดูแลมันด้วยใจมันก็จะยังคงอยู่กับเราตลอดไปและยิ่งนานนับวันมันยิ่งมีค่ามากขึ้นไปเรื่อยๆสำหรับคำว่า"เพื่อน"

สาธิต เมืองกระโทรก กล่าวว่า...

นายสาธิต เมืองกระโทรก
รหัสนิสิต 52011011051 2HOS กลุ่มเรียนที่ 1

เพื่อนที่ข้าพเจ้าประทับใจ
เพื่อน คอยเป็นคุณครูสอนการบ้าน
เขกกบาลเวลาฉันนั้นตอบผิด
เพื่อน คอยเป็นครูสอนวิชาคณิต
ช่วยกันคิดจนสมองแทบระเบิด
เพื่อน คอยเชิดเวลาฉันขอยืมเงิน
เหมือนฉันเป็นคนรู้จักแค่ผิวเผิน
เพื่อน ของฉันชอบทำตัวเกินๆ
ชอบแอบเดินหนีไปเวลาเผลอ
เพื่อน เป็นคนสำคัญของพวกเธอ
ถ้าหากเจอเพื่อนแท้จงยินดี
เพื่อนของข้าพเจ้าเขาเป็นคนที่ดีต่อข้าพเจ้ามากเขาชื่อ นายทินกร ขันมา ชื่อเล่น กร เขาเป็นคนจังหวัดอุดรธานี เขาจบจากโรงเรียนโนนสะอาดพิทยาสรรค์ เขาเกิดวันที่ 12 เดือนพฤษภาคม 2533 สีที่เขาชอบคือ สีที่เขาชอบคือสีฟ้า สีขาว และสีม่วง อาหารที่เขาชอบคือ ข้าวพัดทะเล ยำปลาหมึก
ดาราที่เขาชอบคือ พี่ปอ ทฤษฎี และแพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์ นักร้องที่เขาชอบคือ พี่บี้ เดอะสตาร์
สถานที่ท่องเที่ยวที่เขาชอบคือ ทะเล และน้ำตก
วัฒนธรรมที่เขาอยากจะรักษาไว้คือ การไหว้
รายการโทรทัศน์ที่เขาชอบดูคือ รายการคันปาก ดอกไม้ที่เขาชอบคือ ดอกกล้วยไม้ ดอกกุหลาบ
ความสามารถพิเศษคือ แกะสลัก และวาดภาพ
คติประจำใจคือ Do not be selfish...
ในอนาคตเขามีความใฝ่ฝันว่าเขาอยากจะทำงานในโรงแรมชื่อดังในเมืองไทย
เหตุผลที่ข้าพเจ้าประทับใจในตัวเขาคือ....เขาคอยช่วยเหลือข้าพเจ้าในหลายๆอย่าง เขาคอยเตือนข้าพเจ้าไม่ให้ตื่นสาย เขาคอยแนะนำเวลาข้าพเจ้าทำผิด และเขาก็ยังช่วยบอกการบ้านข้าพเจ้าด้วย ถึงแม้ข้าพเจ้ากับเขจะพึ่งรู้จักกันแตเขาก็เป็นเพื่อนที่ดีมากเหมือนกับเราเคยรู้จักกันมานาน ข้าพเจ้าคิดว่าการที่เรามีเพื่อนก็เป็นสิ่งที่ดีเพราะเราเนมนุษย์เป็นสัตว์สังคมไม่สามารถจะใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังได้เราจะต้องอาศัยคนอื่น ดังนั้นเพื่อนจึงเป็นคนที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าใครเลย เมื่อเรามีเพื่อนดีๆเราก็ควรรักเพื่อนอย่าทำให้เพื่อนผิดหวังที่เขาดีกับเรา เพราะมิตรภาพดีๆนั้นหายากมากเลย
" มิตรภาพอันดีที่มีให้
คล้องสายใจมัดไว้เป็นใยหนา
จะตัดใจเหมือนตัดสายธารา
ยากหนักหนาจะให้ขาดสะบั้นไป
แม้จะใช้ดินทรายมาถ่ายถม
จนเป็นตมติดขัดสายน้ำไหล
แต่มีน้ำสายน้อยร้อยเส้นใย
คอยหลั่งไหลต่อใจมิตรไมตรี "

วัชมล กล่าวว่า...

นางสาววัชมล แสนพวง นิสิตชั้นปีที่ 2 คณะศึกษาศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ รหัส 51010512569

เพื่อนที่ประทับใจ

คำว่า…เพื่อน…หากจะให้คำนิยาม ทุกคนคงจะนิยามแตกต่างกัน เช่น เพื่อน…คือคนที่อยู่ข้างๆ เราเวลาเรามีปัญหา เพื่อน…คือคนที่คอยให้คำปรึกษา เพื่อน…คือคนที่ไม่ทิ้งเราไม่ว่าเราจะตกอยู่ในสถานการณ์ใด ฯลฯ นิยามคำว่าเพื่อนของแต่ละคนก็ย่อมแตกต่างกันออกไป แต่สำหรับดิฉัน เพื่อน…ในนิยามของดิฉันก็คือ คนที่อยู่เคียงข้างดิฉัน คนที่พร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุข ช่วยเหลือกันและกัน เป็นคนที่คอยให้กำลังใจในทุกๆเมื่อ รู้จักให้อภัยเพื่อนได้เสมอ และเข้าใจกัน ไม่ว่าทุกคนจะให้นิยามคำว่าเพื่อนอย่างไรแต่เพื่อนก็คือเพื่อน คือคนที่ทิ้งเรา ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเราได้ในทุกๆเมื่อ
เพื่อนที่ดิฉันประทับใจ คือ นางสาวมณียา เฉิดฉาย หรือแอ๊ดด้า เธอเป็นเพื่อนที่อาจเรียกได้ว่าเข้าใจดิฉันทุกอย่างเลยก็ว่าได้ บางทีทั้งๆที่ดิฉันยังไม่เอ่ยปากพูดแอ๊ดด้าก็เข้าใจดิฉันแล้วว่าดิฉันคิดอะไรอยู่ เพราะเราสนิทกันมาก เรารู้จักกันตอน ม.2 แต่ตอนนั้นไม่ใช่เพื่อนสนิท เพียงแค่อยู่ห้องเดียวกันเฉยๆ แล้วพอขึ้น ม. 3 มาเราได้นั่งด้วยกัน จึงได้คุยกันมากขึ้น ทำให้เราสนิทกัน และด้วยความที่เรามีนิสัยหรือความคิดคล้ายๆ กัน เราจึงเข้ากันได้ และสนิทกันมากขึ้น และดิฉันก็ได้ไปบ้านแอ๊ดด้าบ่อยๆ ทำให้เราสนิทกันมากขึ้น แอ๊ดด้าเป็นคนมีน้ำใจ เป็นคนที่ชอบแบ่งปัน ชอบช่วยเหลือดิฉันเสมอในทุก ๆ เรื่อง พอขึ้น ม. 4 เราได้แยกกันอยู่คนละห้องแต่อยู่ห้องใกล้ๆ กัน เราจึงไปไหนด้วยกันเหมือนเดิม ความเป็นเพื่อนของเราก็ยังคงเหมือนเดิม แล้ว ม. 5 เราก็ได้กลับมาอยู่ห้องเดียวกันอีก เวลามีงานกลุ่มเราก็จะจับกลุ่มด้วยกันตลอด ทำให้มิตรภาพความเป็นเพื่อนของเราแน่นแฟ้นมากขึ้น เวลาคนหนึ่งมีเรื่องไม่สบายใจก็จะเล่าให้เพื่อนอีกคนหนึ่งฟัง และช่วยกันแก้ปัญหา เราจะทำแบบนี้เสมอมา พออยู่ ม. 6 เราก็ได้อยู่ห้องเดียวกันอีก ได้นั่งด้วยกัน
ไปไหนไปด้วยกันตลอด แม้กระทั่งตอนสอบแอดมิชชั่น เราก็สอบคณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่ก็ไม่ติดด้วยกัน ตอนนี้แอ๊ดด้าเรียนพยาบาล ที่มหาวิทยาลัยอุดรธานี ดิฉันเรียนศึกษาศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เราได้แยกกันเรียนคนละที่ แต่การที่คนเราจะเป็นเพื่อนกันนั้นมันไม่ได้อยู่ที่สถานที่ มันอยู่ที่ความรู้สึกดีๆ ที่เพื่อนมีให้เพื่อนมากกว่า ตอนนี้ทั้งดิฉันและแอ๊ดด้า เรายังติดต่อหากันเสมอ เรียกได้ว่าแทบจะทุกๆ วันเลยก็ว่าได้ เราก็ยังมีความรู้สึกดีๆ ให้กันและกันเสมอ ช่วยเหลือกันเสมอ เป็นที่ปรึกษาที่ดีสำหรับเพื่อนเสมอ แม้ว่าเราอยู่ไกลกัน แต่ความเป็นเพื่อนของเรา จะยังคงอยู่ตลอดไป ตราบนานเท่านาน

สกุลรัตน์ กล่าวว่า...

นางสาวสกุลรัตน์ คุ้มอรุณรัตนกุล นิสิตชั้นปีที่ 2 สาขาภาษาอังกฤษ คณะศึกษาศาสตร์ รหัส 51010512573

เพื่อนที่ประทับใจ

เพื่อนที่ดีมีเพียงหนึ่งถึงจะน้อย ดีกว่าร้อยเพื่อนคิดริษยา
เกลือเม็ดหนึ่งถึงจะน้อยด้อยราคา ยังมีค่ากว่าน้ำเค็มเต็มทะเล
……….
เพื่อนคือผ้าเช็ดน้ำตาเวลาเศร้า เพื่อนคือเงาเวลาเหงาไม่ไปไหน
เพื่อนคือคนปลอบทุกข์ยามไม่สุขใจ เพื่อนคือใครคนหนึ่งที่หวังดี
เพื่อนคือคนช่วยงานไม่ต้องเอ่ย เพื่อนคือคนที่ไม่เคยซ้ำเติมหรือวิ่งหนี
เพื่อนคือใครที่คุยสนิทแม้ห่างไปหลายปี เพื่อนคือคนที่ดีที่อยู่เคียงข้างเราเสมอ

เพื่อนที่ดิฉันประทับใจ คือ นางสาวศศิธร ฉวีรัมย์ หรือมะเหมี่ยว นิสิตชั้นปีที่ 2 สาขาภาษาอังกฤษ
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มะเหมี่ยวเป็นเพื่อนที่ดิฉันเพิ่งจะรู้จักตอนมาเรียนที่นี่ ด้วยที่ว่าเราอยู่สาขาเดียวกันจึงทำให้เรารู้จักกัน และได้มาอยู่กลุ่มเดียวกัน สนิทกันมากขึ้น ม่าเหมี่ยวเป็นคนที่พูดตรงๆ
คิดยังไงก็พูดออกมาแบบนั้น จนบางทีมันทำให้คนฟังรู้สึกไม่ดี แต่สำหรับดิฉันแล้วการที่เราสนิทกัน มันทำให้ดิฉันรับรู้ถึงความจริงใจของเธอ มันไม่ใช่การเสแสร้งแกล้งทำ มันมันแสดงออกมาจากความรู้สึกของเธอจริงๆ
ม่าเหมี่ยวเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือเพื่อน ไม่ว่าเรื่องใดๆ ก็ตาม ทั้งๆ ที่เพื่อนยังไม่เอ่ยปากขอร้องหรือให้ช่วยทำ
เธอก็จะช่วยด้วยความเต็มใจ ชอบแบ่งปันเสมอ บางทีตัวเองยังไม่ได้กินแต่มะเหมี่ยวก็ให้เพื่อนก่อน และเป็นคนที่ทำให้เพื่อนยิ้มได้เสมอ เธอจะชอบให้กำลังใจเพื่อนถ้าเพื่อนรู้สึกท้อ หรือหมดกำลังใจ ดิฉันรู้สึกประทับใจในตัวเพื่อนคนนี้มาก แม้ว่าเราจะมาจากคนละที่ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่เมื่อเราได้มาอยู่ร่วมกัน
มันก็ทำให้คำว่ามิตรภาพที่ดี ก่อตัวขึ้น ท่ามกลางคำว่าเพื่อน ดิฉันคิดว่าการที่เราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนั้น
ไม่จำเป็นต้องรู้จักกันมานาน ไม่จำเป็นต้องรู้จักกันมาก่อน เพียงแค่เราเข้าใจกัน มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน
ไม่คิดร้ายต่อกัน ความเป็นเพื่อนของเราก็จะมั่นคงและยืนยาว
เพื่อนจะคอยช่วยเหลือเราในยามที่เราทุกข์ยาก เพื่อนจะอยู่เคียงข้างบเราในเวลาที่เราไม่มีใคร
เพื่อนจะคอยเป็นที่ปรึกษาให้เราเวลาเรามีปัญหา เพื่อนจะคอยช่วยเหลือเรา เพื่อนยังคอยให้อภัยเวลาที่เราทำผิดพลาด เพื่อนคือคนที่มีความสุขเวลาที่เห็นเรามีความสุข และเราจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเพื่อนคอยช่วยเหลือ
เพื่อนจึงเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับเรา เราควรเก็บและรักษามิตรภาพนั้นไว้ตลอดไป

สุภาพร โวหารลึก กล่าวว่า...

ชื่อนางสาวสุภาพร โวหารลึก
รหัสนิสิต 52011011562 กลุ่ม 1
คณะ การท่องเที่ยวและการโรงแรม

เพื่อนที่ปรระทับใจ
คำว่า "เพื่อน" ไม่สามารถจำกัดความได้ เพราะเพื่อนคือบุคคลคนที่จะอยู่เคียงข้างคนเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วตั้งแต่จำความได้ตัวข้าพเจ้าก็มีเพื่อนแล้ว เป็นเพื่อนวัยเดียวกัน ส่วนมากก็เป็นญาติกันไม่ก็เป็นเด็กในหมู่บ้าน และส่วนใหญ่ในแต่ละช่วงของการใช้ชีวิตตั้งแต่วัยเด็ก จนจบมัธยมปลายตัวข้าพเองไม่เคยขาดเพื่อน
"เพื่อน" คำนี้คำเดียวสั้นๆแต่มีความหมายมากมายเกินที่จะบรรยาย คือคนที่คอยอยู่ข้างๆ คือคนปลอบเราในเวลาที่เราร้องให้หรือเสียใจ คือคนที่ให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่อง คือคนที่ให้กำลังใจเราท้อ คือคนที่รักและหวังดีกับเราด้วยความจริงใจ ฯลฯ
ซึ่งเพื่อนที่สนิทก็มีหลายคนแต่คนที่คุยได้ทุกเรื่องมีอยู่สองคนก็คือน้องสาวของข้าพเจ้าและพื่อนคนนี้ เพื่อนคนนี้ที่ว่าชื่อเชอร์รี่ เชอร์รี่เป็นเพื่อนในกลุ่มตอนที่เรียนมัธยมปลาย เราเรียนที่โรงเรียนชุมชนเชียงใหม่พัฒนามาด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาลและปฐม เรียนมัธยมต้นจนจบมัธยมปลายที่โรงเรียนเชียงใหม่ประชานุสรณ์มาด้วยกัน จะว่าไปแล้วข้าพเจ้าก็ร้จักกับเชอร์รี่มาเป็นสิบปีแล้วแต่เพิ่งมาสนิทกันตอนมัธยมปลายคงเพราะเพิ่งได้เรียนห้องเดียวกันแล้วก็เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดในกลุ่ม เป็นคนที่ไว้ใจ เป็นคนที่ทำอะไรให้เราในหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง ไม่มีเรื่องอะไรที่เพื่อนคนนี้ไม่รู้เกียวกับตัวข้าพเจ้า เพราะเราจะคุยกันทุกเรื่อง สิ่งที่เพื่อนคนนี้ทำให้ข้าพเจ้าประทับใจในตัวเชอร์รี่ ก็คือเชอร์รี่จะอยู่ข้ๆาๆเราเสมอไม่ว่าจะตอนเหงา เศร้า เวลามีเรื่องไม่สบายใจ จะสุขหรือทุกข์ เชอร์รี่ก็ไม่เคยทิ้งเรา แล้วตอนที่เรียนด้วยกันเวลามีปัญหาอะไรเชอร์รรี่ก็คอยช่วยเหลือเราทุกอย่าง เวลาอกหักก็มีเชอร์รี่คอยปลอบ เวลาทะเลาะกับใครเชอร์รี่ก็จะอยู่ข้างเรา เวลาไปไหนมาไหนก็จะมีเชอร์รี่ที่ไปด้วยกัน เพราะบ้านเราอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ขี่มอไซด์ไปหาไม่ถึงห้านาที่ก็ถึง เวลาอาจารย์ให้ทำงานกลุ่มเราก็จะอยู่กลุ่มเดียวกันตลอด แม้แต่ตอนที่ร้องให้เชอร์รี่ก็จะอยู่ข้างๆเสมอ มีหลายอย่างที่ไม่สามารถบรรยายได้ เหนือสิ่งอื่นใดที่เชอร์รี่มีให้ก็คือความรัก ความจริงใจ และความเข้าใจ ถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะไม่ได้เรียนต่อที่เดียวกัน แต่เราก็ยังพักอยู่ด้วยกัน แม้ว่าอีกไม่นานเชอร์รี่จะไปอยู่ที่อื่น เราก็ตกลงกันว่าเราจะโทรคุยกันเสมอ จะยังไปเทียวด้วยกันเมื่อว่าง จะยังกินข้าวด้วยกันทุกครั้งที่มีโอกาส ยังไงเราก็จะไม่ห่างกัน ถึงแม้ต่อไปในอนาคตต่างคนต่างเรียนจบต่างคนต่างมีทางเเดนของตัวเอง ต่างคนต่างไปตามความฝันและความหวังของตัวเอง ข้าพเจ้ายังหวังว่าเราจะได้ทำงานที่เดียวกัน ถึงมันจะเป็นไปได้อยาก และถึงแม้จะไม่เป็นอย่างนั้น เชอร์รี่ก็ยังจะเป็นเพื่อนที่อยู่ในใจเราตลอดไป
อยากให้เพื่อนคนนี้รู้ไว้ว่าไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เวลาใด จะสุข จะทุกข์ยังไง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราก็จะไม่มีวันลืมเพื่อนคนนี้ และหากวันไหนที่เชอรืรี่ไม่มีใครก็ให้รู้ไวเสมอว่ายังมีเราที่จะอยู่เคียงข้างเชอร์รี่เสมอเหมือนที่เชอร์รี่อยู่ข้างๆเราเสมอมา
***แล้วคุณละคะเพื่อนคนไหนที่คุณประทับใจ คำนิยามของคำว่า "เพื่อน" สำหรับคุณคืออะไร?

รัตนาภรณ์ พันพิพัฒน์ กล่าวว่า...

เพื่อนที่ประทับใจ
เพื่อน คือ คนๆ หนึ่งที่ครั้งหนึ่งก็เป็นได้แค่ คนแปลกหน้าคนหนึ่ง ผ่านเวลาคนแปลกหน้าคนนั้นก็กลับกลายมาเป็นคนที่เรา “ไว้ใจ” เพื่อน คือ คนที่พร้อมอยู่กับเราเสมอๆ ไม่ว่า สุข ทุกข์ เหงา เศร้า เพื่อน คือ คนที่พร้อมแชร์ความรู้สึกต่างๆ โดยไม่เคยเอ่ยปากว่า “ถ้าทำอย่างนั้นแล้วฉันจะได้อะไร” เพื่อน คือ คนที่ไม่เคยสนใจว่าเราจะหน้าตาดี มีสกุล ร่ำรวย ยากจน สูง ต่ำ ดำ ขาว หรือไม่ เพื่อน คือ คนที่ไม่เคยเสแสร้ง แกล้งทำ ...แต่เพื่อนตาย หายากที่สุด
“เพื่อน” ที่ประทับใจที่จะกล่าวถึง เป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล เป็นเพื่อนที่อยู่ข้างๆมาโดยตลอด แม้ว่าตอนนี้เราไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนเมื่อก่อน เพราะเราต่างต้องออกเดินทางตามหาความฝันที่เรามีไม่เหมือนกัน เป็นเพื่อนที่ฉันไว้ใจมากที่สุด คุยกันได้ทุกเรื่อง เราไม่ค่อยมีความลับต่อกัน เราชอบไปไหนมาไหนด้วยกัน เค้าอยู่ข้างๆฉันตลอดเวลาไม่ว่าเวลานั้นฉันจะทุกข์หรือจะสุข ทุกย่างก้าวที่เราเคยร่วมเดินไปด้วยกันเต็มไปด้วย “มิตรภาพ” ที่ไม่สามารถเลือนหายไปตามเวลา ฉันร้องไห้เพื่อนคนนี้ก็จะคอยปลอบใจนั่งอยู่ข้างๆ หรือไม่ก็กอดคอกันร้องไห้ให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย เราร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตั้งแต่เด็กๆร่วมสร้างวีรกรรมทั้งน่าจดจำ น่าขำ ทั้งดีและไม่ดี อ้อมกอดของเพื่อนช่างเป็นอ้อมกอดที่อุ่นใจดี รองจากอ้อมกอดของคนในครอบครัว เค้าทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาที่ดี ให้คำแนะนำที่ดีทีเดียว ช่วยเหลือทุกเรื่องที่เค้าช่วยได้ที่สำคัญให้ยืมตังค์แล้วไม่เคยทวงเลย บางทีเราอาจจะทะเลาะกันบ้าง ไม่เข้าใจกันบ้าง ความคิดไม่ตรงกันบ้าง แต่สุดท้ายคำว่า “เพื่อนตาย” และความรัก ความจริงใจ หวังดีที่เราต่างมีให้กัน ที่ทำให้เรากลับมาเข้าใจกันเหมือนเดิม ทุกข้อความข้างต้นคือสิ่งที่ฉันประทับใจในตัวเพื่อนคนนี้ ทุกรอยยิ้ม ทุกเสียงหัวเราะ ทุกหยดน้ำตา ยังอยู่ในความทรงจำไม่เคยจางหายไปไหน นานแค่ไหน “มิตรภาพ”ไม่เคยเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
เราไม่สามารถมองด้วยตาเปล่าได้ว่า คนๆ นี้เป็นเพื่อนตายของเรา เรามองด้วยตาเปล่าไม่ได้ว่า คนๆ นี้ เป็นคนที่พร้อมจะเคียงข้างเราเสมอไปมั๊ย คนๆ นี้จริงใจกับเราแค่ไหน เราใช้ “ตา” มองไม่เห็น แต่.... ทั้งหมดนี้เราใช้ “ใจ” มองเห็นได้ เราบอกไม่ได้ว่าคนๆ ไหนดี ไม่ดี จนกว่า... เราจะมีโอกาส รู้จักกับคนนั้น แล้วใช้ ใจ ของเราสัมผัสการคบใครสักคน คบเพียงแค่กายก็ไม่มีประโยชน์ แต่ การคบใครสักคน จำเป็นต้องคบกันด้วยใจ

นางสาวรัตนาภรณ์ พันพิพัฒน์
รหัสนิสิต 52010911443
GM 522 กลุ่ม 1

มัลลิการ์ จันทคาน กล่าวว่า...

เพื่อนที่ประทับใจ

“เพื่อน” เติมเต็มบางสิ่งในชีวิตที่ขาดหาย ทำให้เรารู้จักการให้ การรับ และการให้อภัยยอมรับได้ในความเป็นตัวเราเองไม่อิจฉา ริษยา และไม่ว่าร้ายเราลับหลังเก็บความลับของเรา และไม่เอาไปเล่าต่อคอยรับฟังความเป็นไป และเรื่องราวของเรา คอยเป็นกำลังใจ คอยให้คำแนะนำที่ดี
คอยชื่นชมยินดีกับความสำเร็จของเราสามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง อย่างไม่ต้องกลัวอะไร อย่างเปิดใจ และไม่เสแสร้งไม่เคยตั้งใจทำให้เราเสียใจ จะร่วมแบ่งปันความทุกข์ ความสุขด้วยกัน ยังอยู่ข้างเรา แม้ในตอนที่เราแย่ที่สุดในชีวิต จะคอยตักเตือน และเป็นกระจกเงาให้เราเสมอ ทำให้เรามีความรู้สึกดีดีได้เสมอ คือคนที่อยู่เคียงข้างทุกครั้งที่มีปัญหา
“เพื่อน” ที่รู้สึกประทับใจและมีความผูกพันธ์มากที่สุด คือ เพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่ชั้นประถม เป็นคนแรกที่เข้ามาทัก มาคุยด้วย ยังจำได้ตลอดเวลา เมื่อนึกถึงรอยยิ้มของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เดินเข้ามาจับมือและบอกชื่อตัวเองพร้อมกับถามชื่อเพื่อนใหม่คนนี้ ตอนนั้นรู้สึกประทับใจเพราะตัวเราเองเป็นคนขี้อายพูดไม่ค่อยเก่ง จึงทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อน จนได้มารู้จักกับเพื่อนคนนี้ เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารัก สดใส ร่าเริง อัธยาศรัยดี เพื่อนทุกคนรู้จักและรักเธอซึ่งเป็นผลที่ทำให้เรามีเพื่อนเพิ่มมากขึ้น กล้าพูดมากขึ้น เมื่อเรียนจบประถมก็ได้เรียนที่โรงเรียนมัธยมด้วยกันอีกเหมือนกับว่าเป็นพรมลิขิต เราได้อยู่ห้องด้วยกันตอนนั้นเราต่างก็โตขึ้น ปัญหามากขึ้น ทุกคนต่างมีความคิด บางครั้งก็ทะเลาะกัน แต่เราก็คบกันมานาน รู้จักนิสัยของกันทำให้รู้สึกถึงความผูกพันธ์ ความจริงใจที่มีต่อกัน เพื่อนคนนี้เป็นคนที่คอยช่วยเหลือเวลาที่เรามีปัญหา คอยให้กำลังใจ จนเป็นคนพิเศษสำหรับเรา ความรู้สึกที่ผูกพันธ์รู้จักกันมา มีทั้งความรัก ความไว้ใจ และความซื่อสัตย์ ทุกสิ่งทุกอย่าง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทำให้เรารู้ว่า เพื่อนแท้มีอยู่จริง
ชีวิตคนเราแท้จริงแล้ว ก็ต้องการเพียงแค่เพื่อนแท้ ๆ สักคนหนึ่ง ไว้คอยพูดคุย ปรึกษา ไว้คอยห่วงใย เอื้ออาทร ร่วมทุกข์ ร่วมสุข หัวเราะและร้องไห้ เพื่อโลกใบนี้จะได้ไม่เงียบเหงา และอ้างว้างเกินไป หากมีเพื่อนแท้แล้วจงรักษาความเป็นเพื่อนนั้นไว้ให้ดีที่สุดแม้ว่าจะไม่ได้พบเจอกันนานแค่ไหนแต่ความรู้สึกในใจยังเหมือนเดิม

นางสาวมัลลิการ์ จันทคาน
รหัสนิสิต 52010911772
GM 524 กลุ่ม 1

ปิยะภรณ์ กล่าวว่า...

นางสาวปิยะภรณ์ วินทะไชย รหัสนิสิต 52010911326 GM 524
เพื่อนที่ดีของฉัน
เพื่อนที่ดีของฉันเริ่มตั้งแต่ประถม พอฉันขึ้นมามัธยมศึกษาตอนต้นฉันเริ่มรู้จักเพื่อนมากขึ้นสนิทกับเพื่อนมากขึ้น เพื่อนของฉันตอนนี้ก็ดี มัธยมศึกษาตอนปลายก็ดี
เวลามีเรื่องที่ฉันไม่สบายใจเพื่อนก็จะช่วยให้คำปรึกษา และช่วยเหลือฉันตลอดเวลา
เวลาฉันเกิดปัญหาที่ไรเพื่อนตอนมัธยมจะไม่เคยทิ้งฉันสักที
ตอนนี้ฉันขึ้นมหาวิทยาลัยเพื่อนใหม่ของฉันก็ดีเหมือนเพื่อนตอนมัธยม เวลามีปัญหาก็สามารถช่วยฉันแก้ปัญหา เพื่อนของฉันชอบมีความสุขความสนุกสนานหรืออยู่เรื่อย เวลาจะไปเที่ยวที่ไหนเราก็จะชวนกันไปด้วยเสมอ เวลาไปเที่ยวกับเพื่อนถ้าคนไหนไม่มีเงินเพื่อนก็จะไม่ให้ออก ส่วนคนที่มีเงินก็จะมาแชร์กันและรวมเงินไปเที่ยว เพื่อนของฉันไม่ว่าฉันจะบ่นหรือทำอะไรที่ไม่ถูกใจเพื่อน เพื่อนก็ไม่เคยบ่นตอบกับเลยกับบอกฉันว่าเวลาฉันบ่นสนุกดี กลุ่มของฉันเป็นกลุ่มที่สนุกสนานไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่ซีเรียส พอเวลาฉันเดือดร้อนเรื่องเงินเพื่อนก็จะให้ฉันยืมเงินตลอด เวลารถมอเตอร์ไซค์ของฉันหมดน้ำมันเพื่อนก็จะมารับฉัน
ในความรู้สึกของฉันตอนนี้เพื่อนมีส่วนสำคัญกับฉันและถ้าฉันไม่มีพวกเพื่อนพวกนี้ฉันว่าฉันไม่รู้จะไปเจอเพื่อนแบบไหน เพราะว่าเพื่อนๆพวกนี้ไม่เคยพาฉันทำเรื่องเสียหายแต่อย่างใด แต่เพื่อนๆกับทำให้ฉันมีแต่ความสนุกสนานทั้งวัน เวลาฉันเสียใจเพื่อนของฉันก็เศร้ากับฉันด้วย และตอนนี้ฉันคิดว่าฉันเจอเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับฉันแล้วถึงแม้ว่าเราจะเพิ่งเจอกันตอนมาเรียนที่มหาวิทยาลัยก็ตาม…

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

นางสาวกัณทิมา ผาตินาวิน
รหัส 52011011377 (1HOS)

คนเราเกิดมาแล้วไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวตลอดไป เพราะตั้งแต่เล็กจนโตก็จะมีคนเคียงข้างเสมอ โดยเมื่อตอนยังเล็กเป็นทารกก็จะมีพ่อกับแม่อยู่เคียงข้าง แต่เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเข้าโรงเรียน พ่อกับแม่ ก็ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดเหมือนตอนเล็กแล้ว จึงจำเป็นที่จะต้องมีเพื่อนไว้เคียงข้าง เหมือนเวลาที่อยู่กับพ่อแม่ง
ส่วนตัวดิฉันเองแล้วก็มีเพื่อนที่ประทับใจอยู่คนหนึ่ง เธอมีชื่อว่า สุกัญญา ทรงศิลป์ ชื่อที่เรียกเล่น ๆ ว่า "แป้ง" ถ้าจะพูดถึงแป้งแล้ว แป้งเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งเลยล่ะ แป้งเป็นเพื่อนสมัยประถมของพี่ชายของดิฉันเอง หลายคนสงสัยว่า ทำไมไม่เรียกว่า พี่แป้ง ทำไมต้องเรียกแป้ง ก็เพราะว่าดิฉันและพี่ชายได้เข้าเรียนพร้อมกัน เพื่อนของพี่ชายก็เหมือนเพื่อนของดิฉัน ถึงแม้ว่าดิฉันกับแป้งจะรู้จักกันตั้งแต่ประถมแต่เราก็ไม่ได้สนิทอะไรกันมากมาย เพราะไม่ได้อยู่ในห้องเดียวกัน จนมาเข้าโรงเรียนมัธยม เราก็เรียนที่เดียวกันแต่ก็คนละห้องอีกตามเคย จนมาขึ้น ชั้นมัธยมปลาย ทำให้มีเรื่องที่จำเป็นต้องทำให้ดิฉันได้ย้ายไปอยู่ห้องเดียวกันกับแป้ง (หรือจะต้องเรียกพรหมลิขิตดีนะ) ดิฉันได้อยู่ห้องเดียวกันกับแป้งในตอน ม.5 แต่ก็ไม่ได้ทำให้เราสนิทกันเท่าไหร่นัก จนมาขึ้น ม.6 ได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่างร่วมกัน ทั้งรายงานและกิจกรรมต่าง ๆ จนทำให้เราสนิทกันมากขึ้น บ้านของเราก็อยู่ไม่ไกลกันมากนัก เวลาจะไปเล่นไปคุยหรือเจอกันก็ไม่ยากอีกด้วย แป้งเป็นคนที่นิสัยดี น่าคบ อัธยาศัยดี พูดตรง เป็นคนที่ห่วงเพื่อนมากกว่าที่จะห่วงตัวเองซะอีก ถึงแม้ว่าเราจะทะเลาะกันบ่อยครั้ง มีโกรธกันบ้างบางหน แต่เราก็กลับมาคืนดีกันเหมือนเดิมทุกครั้งเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงจะมีเรื่องปกปิดกันบ้างแต่ก็ปิดไม่เคยสนิทสักที เพราะถ้ามีเรื่องปกปิดก็จะสามารถดูได้จากการพูดจาหรือท่าทางที่แสดงออกมา เวลาเรียน เวลาเล่น เวลาที่มีปัญหาแป้งก็จะเป็นคนช่วย หรือเวลาที่กลุ้มใจทั้งเรื่องเรียน เรื่องเงิน หรือเรื่องอะไรที่ทำให้กลุ้มใจ ดีใจ เสียใจ แป้งก็จะเป็นคนช่วยพูด คอยปลอบใจ และเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับดิฉันตลอดไป

เพื่อน เป็นสิ่งที่มีค่า เราจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวถ้ามีเพื่อน อยู่เคียงข้าง...รักเพื่อนให้มาก และเพื่อนจะรักเรามากเช่นกัน !!

อุ้ม กล่าวว่า...

นางสาวอุมาภรณ์ กงตะใน
รหัสนิสิต 52010913744 คณะการบัญชีและการจัดการ สาขา BC กลุ่มเรียนที่ 1

เรียงความเรื่องเพื่อนที่ประทับใจ
"เพื่อนรักของฉัน"
จะผิดอะไรไหม
ถ้าเด็กประถมคนหนึ่งจะเขียนเรียงความเรื่อง "เพื่อนรัก"
โดยไม่พูดถึงเพื่อนตัวน้อยๆ ที่อยู่รอบตัว แต่กลับพรรณนาถึงสิ่งไม่มีชีวิต
เจ้ากระดาษเปื้อนหมึกที่ถูกร้อยเรียงที่เรียกว่า "หนังสือ"

แปลกดีนะ... พอนึกย้อนไปถึงช่วงเวลาสมัยประถม
เวลาแสนสุขของชีวิตที่เรายังจดจำได้ดีนั้น
ถ้าถามว่าเด็กหญิงฐิติรัตน์เป็นเด็กแบบไหน...

ในสมุดพกมักจะมีลายมือคุณครูเขียนไว้ว่า
...สติปัญญาดี ขยันทำงานส่งเรียบร้อย แต่เวลาเรียนไม่ค่อยตั้งใจ ชอบวาดรูป
ความประพฤติเรียบร้อย อุปนิสัยช่างพูด มีความเป็นผู้นำ...

ถามรุ่นน้องในโรงเรียน....
อ้อ พี่หญิงตัวโย่งๆ นะเหรอ ก็ประธานนักเรียนที่โหดและดุที่สุดในโลกไง
(อยากตายเรอะน้อง...)

ถ้าไปถามเพื่อนๆ โดยเฉพาะพวกก๊วนเดียวกันแล้ว
มันคงว่า...ติ๊งต๊อง บ้าพลัง พูดมาก มือหนัก มันไม่ใช่ผู้หญิงหรอก (เฮ้ย..แกพูดว่าไรนะเมื่อกี้ ผัวะ!!)
เปล่าคับเปล่า เป็นหัวหน้าห้องที่เรียนเก่ง ทำงานหนักมากค้าบบบ

ถามป๊ากะแม่ สองคนนั่นคงยิ้มๆ แล้วบอกว่า
ดื้อ ไม่ค่อยฟังพ่อแม่ ช่างพูด ช่างเถียง แต่ขี้อ้อน ขี้เกียจทำงานบ้านบางที
ไปเล่นนอกบ้านแล้วกลับช้าประจำ อ่านหนังสือไม่รู้จักเวล่ำเวลา

ตลกดี ...ที่ในตัวเรามันมีทั้งเด็กเรียน หัวโจกจอมซ่า
ลูกสาวขี้อ้อนและหนอนหนังสือในเวลาเดียวกัน
จริงๆ อาจจะไม่แปลกอะไรก็ได้ เพราะเด็กผู้หญิงที่กำลังเติบโตคนหนึ่ง
ได้อ่านและประทับใจกับหนังสือมากมาย แล้วก็ซึมซับสิ่งต่างๆ จากสิ่งที่อ่านนั้น

ตอนอ่านแมงมุมเพื่อนรักจบใหม่ๆ... ก็พยายามจะไปคุยกะหมาที่โรงเรียน (จนบัดนี้ยังไม่เลิกนิสัย)
อ่านเถ้ากุหลาบของทมยันตีจบ... ก็พยายามจะเดินตัวตรง คอเชิดอย่างสง่างามเหมือนนางเอกอยู่พักหนึ่ง
อ่านพวกวรรณกรรมเยาวชนผจญภัยจบ... ก็พยายามจะชวนเพื่อนข้างบ้านไปเล่นในป่าช้า
อ่านการ์ตูนญี่ปุ่นจบ... ก็พยายามคิดแผนแกล้งเพื่อนแบบแสบๆ ยกขบวนไปท้าเพื่อนข้างห้องบ้าง
ถ้าเป็นการ์ตูนหวานๆ ก็มานั่งวาดรูป แล้วก็รับจ้างเพื่อนเขียนจดหมายรัก วางแผนจับคู่เพื่อน
พอไปหยิบธรรมธายาท และหนังสือธรรมะของอาเตี๋ยมาอ่านก็นั่งสมาธิ รักษาศีลแปด
ขี่จักรยานไปดูพระอาทิตย์ขึ้น เดินจงกรมยามเช้า เขียนกลอนธรรมะไปให้เพื่อนอ่าน
...และอะไรแปลกๆ อีกเยอะแยะ.. เช่นไขประตูบ้านไม่ได้ ก็มีคาถาชูกุญแจขึ้นแล้วหมุนตัวสามรอบ

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย คือนิสัยหนอนหนังสือ
ที่ต้องมีหนังสือกับสมุดบันทึกเล่มเล็กติดตัวทุกครั้ง แล้วก็นิสัยอ่านหนังสือก่อนนอน
ตอนปิดเทอมแต่ละที ก็ขนหนังสือมาจากห้องสมุด และร้านเช่า
วางกองเป็นตั้ง แล้วก็นั่งอ่านทั้งวัน หมดตั้งก็ไปหามาอ่านใหม่...
ดึกๆ ดึนๆ ก็ทนถ่างตา อ่านไปกลิ้งไปบนที่นอน
(ค่า..ค่า อีกนิดเดียว จบแล้วเดี๋ยวนอน...บางทีก็ถึงเช้าแหละ เพราะต่อเล่มสอง)
ถึงงานสัปดาห์ฯ ก็ไปเดินวนเลือกหนังสือให้ตัวเอง ให้ป๊า ให้น้องพาย ซื้อๆๆ
เสร็จแล้วแล้วก็มานั่งรื้อดูหนังสือกองเบ้อเริ่มในรถอย่างเบิกบานใจ...

พอเริ่มโต ก็เริ่มคุยกะป๊ากะแม่ เรื่องเนื้อหา แนวคิด มุมมองที่เราได้มาจากหนังสือ
คิดเห็นตรงกันบ้าง เถียงกันบ้าง จนบางทีก็ทะเลาะกันก็มี...
แล้วก็เรื่อยไปถึงเพื่อนฝูง โดยเฉพาะกับ หนูเก่ง ตอนที่เราอยู่ป.สี่ ป.ห้า
ชอบเดินไปรอบๆ โรงเรียน นั่งคุยกันในสวน สร้างโลกของนิยาย ตัวละคร
คุยกันได้ไม่หยุดหย่อน ลงมือเขียนไปด้วย บางทีก็วาดรูป...เป็นโลกที่สนุกมากๆ เลย
..เหล่านี้ ได้หล่อหลอมให้เราเป็นเรา เป็นคนที่ชอบคิดชอบฝันไปมากมาย
และถึงบางครั้งที่ความคิดของเราจะไม่ตรงกันใคร เราก็ยังเชื่อว่าจะเจอใครที่คิดตรงกับเราสักวัน...

นายนพดล ราชบุญ กล่าวว่า...

นายพัชพล ขันโมคา GM 52010911357 กลุ่ม 1


จิตวิทยาทั่วไป
นายธีรวัฒน์ สมคำศรี อายุ 18 ปี เป็นเพื่อนคนสนิทของข้าพเจ้าเอง ลักษณะการใช้ชีวิตของเขาก็เป็นการใช้เวลาไปวันๆ เขาก็เป็นนิสิตคณะพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 มองดูแล้วเขาคงฉลาดเอาการเพราะสอบได้เรียนถึงพยาบาล ได้ยินเขาบ่นอยู่บ่อยว่าการเรียนในแต่ละวันยากมาก รวมทั้งกิจกรรมก็เยอะเป็นงามตามตัวเหมือนกัน แล้วข้าพเจ้าก็ถามเขากับคำถามที่ว่า คุณแบ่งเวลาอย่างไรสำหรับการเรียนและการทำกิจกรรม และข้าพเจ้าก็ได้คำตอบกับมาว่าในด้านการเรียนก็มาเป็นอันดับที่หนึ่งอยู่แล้ว ในชั่วโมงเรียนนั้นหรือในห้องเรียนก็จะตั้งใจเรียนและพอเรียนเสร็จก็กับมาทบทวนใหม่อีกที ในการทบทวนก็ทบทวนบ่อยเพื่อให้เกิดความเคยชินกับเนื้อหาแล้วสมองของเราจะจดจำไว้ใต้จิตสำนึกเพื่อให้เกิดความจำที่ถาวรในเวลาสอบก็จะอ่านทบทวนแล้วก็ไปสอบ ปรากฏว่าผลการสอบของเข้าผ่านทุกรายวิชาที่มีการทดสอบกลางภาค ในส่วนของการทำกิจกรรมนั้นก็ทำทุกกิจกรรมที่เข้ามาในชีวิตแต่ละวัน แล้วได้ยินเขาพูดอีกว่าเขาจะทำกิจกรรมทุกกิจกรรมที่สามารถลงมือทำด้วยตนเองได้เพราะว่ากิจกรรมจะสร้างคนให้เป็นงาน เป็นกำไรชีวิตสำหรับการเรียนในระดับอุดมศึกษา และกิจกรรมเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเราเองในตอนทำงานหรือออกไปดำเนินชีวิตเมื่อศึกษาจบไปแล้ว ในส่วนของบุคลิกภาพส่วนของธีรวัฒน์เองก็เป็นมีสัมพันธ์ภาพกับทุกๆคน เป็นคนพูดออกจะมากนิดหน่อยแต่กับได้สาระ เป็นคนมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โอบอ้อมอารี แล้วยังมีสัมมาคารวะอ่อนน้อมถ่อมตน เหตุผลข้อนี้ข้าพเจ้าไม่ได้ถามเขาแต่ข้าพเจ้าสังเกตจากพฤติกรรมของเขา ในขณะที่เดินไปด้วยกันนี้เข้าจะยกมือไหว้ใครก็ไม่รู้ทั้งตลาดเลย แล้วอีกประการหนึ่งข้าพเจ้าคิดว่าเขาน่าจะเป็นคนที่อ่อนโยน ประณีตเพราะเขาชอบการเป็นพยาบาลซึ่งพยาบาลก็เป็นการเรียนเกี่ยวกับการช่วยชีวิตคน การรักษาคนไข้ การดูแลปฏิบัติซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับข้าพเจ้านะ และอีกอย่างหนึ่งเป็นคุณสมบัติข้อที่ข้าพเจ้าจะกล่าวต่อไปนี้คนทุกคนต้องมีอยู่ตัวของตนเองบางละไม่มากก็น้อยแต่สำหรับเพื่อนคนนี้ของข้าพเจ้าคงจะต้องมีมากเพราะเขาเรียนที่จะเป็นพยาบาลเขาต้องมีคุณสมบัติข้อนี้ในตนเองสูงมากเพราะในการทำอะไรลงไปเขาต้องคิดพิจารณาไตร่ตรองว่าทำลงไปแล้วเป็นประโยชน์หรือเดือดร้อนกับตนเองและคนรอบข้างหรือไม่ถ้าเดือดร้อนกับตนเองก็ไม่ต้องทำลงไป สาเหตุที่เขาต้องมีความมั่นใจในตนเองสูงก็เนื่องจากวิถีชีวิตของเขาอยู่กับคนไข้ แต่ถ้าวันใดเขาขาดสติขาดการไตร่ตรองเช่นฉีดยาคนไข้ไปโดนเส้นประสาททำให้พิการเดินไม่ได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้าพเจ้าจึงคิดว่าเขาน่าจะเป็นที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและการทำงานในภายภาคหน้า

Klonel กล่าวว่า...

นาย ณัฐ คงบุญ
รหัสนิสิต 47011220207
คณะวิทยาการสารสนเทศ สาขา MIS กลุ่มเรียนที่ 1


“เพื่อน”คำจำกัดความที่ค่อนข้างกว้าง ถ้าให้ผมแปลความหมายของมันล่ะก็ เพื่อน คงจะหมายถึงคนที่คอยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเราในกิจกรรมต่างๆที่สำคัญในชีวิตเรา ความสำคัญ ก็จะมาตามหลังครอบครัวและญาติพี่น้อง นั่นคือค่อนข้างจะสำคัญในคำจำกัดความของผม และ ด้วยคำจำกัดความของผมนั้นทำให้ “เพื่อน” ผมมีน้อยมาก แต่ด้วยความโชคดีและด้วยอะไรก็แล้วแต่ผมจึงพอจะมีเรื่องของเพื่อนให้ประทับใจบ้าง
เพื่อนของผมคนนี้เป็นเพื่อนต่างเพศครับ ด้วยความที่เราสนิทกันมากๆจนบางครั้งก็มีคนคิดว่าพวกเราเป็นแฟนกันบ้างกิ้กกันบ้าง แต่ผมกับเธอก็ยังคบกันมาตลอด และไม่ว่าคนอื่นจะคิดยังไงพวกเราก็ยังยืนยันว่าจะคบกันต่อไปโดยสำหรับผมแล้วเธอถือเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของผมคนนึงเลยก็ว่าได้ ตอนที่รู้จักกันตอนแรกๆนั้นผมพึ่งย้ายกลับจาก รร.สาธิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น(ศึกษาศาสตร์) เพื่อมาเรียนที่ รร.สาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งอยู่ใกล้บ้านกว่าด้วยคำสั่งของพ่อแม่(ต้องบอกว่าตอนนั้นผมคัดค้านสุดๆแล้วแต่ไม่สามารถต้านทานแรงกดดันได้) ช่วงที่กลับมาก็ได้เจอเพื่อนเก่าตั้งแต่สมัยประถมอยู่เยอะการปรับตัวเลยไม่มีปัญหาอะไร ผมเจอกับเพื่อนคนนี้วันแรกก็โดนถามแบบไม่เกรงใจเลยว่า “พี่ๆห้อง ม.4 มันอยู่ทางไหนคะ” แทบทรุดครับ ผมก็ว่าหน้าตาผมก็ยังไม่แก่มากดันมาเรียกเราว่าพี่ก็เลยแกล้งบอกให้เดินกลับลงไปชั้น 1 ซะเลย จนพอมาเจอกันอีกทีบนห้องเรียน เราก็เลยเป็นคู่กัดกันตลอดมา ในช่วงตลอด 3 ปีตอนมัธยมปลายก็มีกิจกรรมหลายๆเรื่องที่ทำให้เราสนิทกันมากขึ้น จนพวกเราจบ ม.ปลาย และเข้ามหาวิทยาลัยคนละที่กันพวกเราก็ห่างกันไป เรื่องก็เกิดขึ้นตรงนี้
ด้วยความที่เพื่อนผมคนนี้หน้าตาค่อนข้างดีและจัดเป็นคนน่ารักคนหนึ่ง จึงมักมีปัญหากับเพื่อนเพศเดียวกันและเพื่อนต่างเพศของเค้าบ่อยๆ ทำให้เค้าต้องโทรมาขอคำปรึกษากับผมอยู่บ่อยๆ(สาเหตุที่เป็นผมนั้นเพราะผมเรียนต่อที่ มมส.เราและติดต่อเพื่อนคนอื่นง่ายที่สุดด้วย) จนผมเปรียบได้กับเพื่อนทางโทรศัพท์ของเค้า ด้วยความเครียดทำให้เค้าขอกลับมาที่มหาสารคามเพื่อมาหาเพื่อนๆที่อยู่ทางนี้ ในวันที่เราเจอกัน เพื่อนๆต่างก็ทักอย่างไม่เกรงใจว่าเธออ้วนขึ้น(รวมผมด้วย) เพราะด้วยความเป็นเพื่อนก็แซวๆแกมหยอกเล็กน้อยไม่นึกว่าเธอจะจริงจัง ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีและหาทางลดความอ้วนซึ่งผิดวิธี นั่นคือการกินยาลดความอ้วน ซึ่งไม่มีใครคิดว่าเธอจะทำ จนระยะหลังๆก่อนจะสอบเธอโทรมาปรึกษาผมบอกว่ารู้สึกว่าจะโดนตามอยู่(ซึ่งตอนนั้นผมไม่รู้ว่าเธอกินยา) ผมก็ให้คำปรึกษาเธอพอเป็นพิธีเพราะเราก็ยุ่งๆกับการสอบของตัวเอง ทำให้ไม่มีเวลาคุยกันมากนัก ก็เลยฝากเพื่อนสนิทอีกคนที่อยู่ใกล้ๆเค้าเป็นคนดูแล จนสอบเสร็จไป 1 อาทิตย์ มีโทรศัพท์เข้ามาจากเพื่อนที่ฝากให้ดูแลว่า เธอเข้าโรงพยาบาลบำบัดโรคทางจิต ผมงงมากเพื่อนคนนั้นบอกว่า เธอกินยาลดความอ้วนติดต่อกันจนเป็นแบบนี้ และตอนเธอเข้าโรงพยาบาลเธอเป็นคนบอกเพื่อนอีกคนว่าห้ามบอกผม(ด้วยสาเหตุอะไรไม่ทราบแต่ตอนนั้นเธออยู่ใน รพ.แล้ว) ผมตกใจและรีบต่อโทรศัพท์หาเธอทันทีแน่นอนมันไม่ติด ผมจึงตัดสินใจโทรบอกทางบ้านของเธอ ทุกคนตกใจและรีบไปหาเธอที่ รพ.ทันที
หลังจากเกิดเรื่องคราวนี้ผมกับเธอก็สนิทกันมากขึ้นเพราะเรื่องนี้มีคนรู้ไม่เยอะและผมก็คอยคุยเป็นเพื่อนเธออยู่ประจำ จนเธอย้ายกลับมาเรียนที่ มมส. ผมกับเธอจึงเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดตั้งแต่นั้นมา เรามีเรื่องปรึกษา คอยช่วยเหลือ และคอยให้กำลังใจกันตลอดและในปัจจุบันผมกับเธอก็ยังคบกันอยู่ และเธอก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับผมเสมอมา

น.ส.ดรรชนี พลรู้ กล่าวว่า...

ดรรชนี พลรู้ รหัส 51011011210

กลุ่มเรียนที่ 1

เรียงความเพื่อนที่ประทับใจ

"เพื่อน" พูดถึงคำนี้ทีไรรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกค่ะ
ดิฉันเชื่อว่าทุกคนเกิดมาต้องมีเพื่อนอาจจะมากหรือน้อยแตกต่างกันไป สำหรับดิฉันจัดว่าอยู่มนกลุ่มมากค่ะอาจจะเป็นเพราะความพูดมากของดิฉันล่ะมั้ง ^^

ดิฉันมีเพื่อนที่รักอย่าสนิทใจอยู่หลายคนค่ะ แต่มีอยู่คนนึงที่ดิฉันรักมากกๆๆๆๆๆ รักเหมือนคนในครอบครัวเลยยก็ว่าได้ มันมีชื่อว่า ธัญญมณี วงศ์สวาส ค่ะ ชื่อเล่นชื่อไอติม แต่คงเป็นไอติมช๊อคแล๊ตน๊ะ เพราะ สีเดียวกัน เหอๆ แต่ทุกคนไม่ได้เรียกมันว่าไอติมหรอกค่ะ เราจะเรียกมันว่า อีติ๋ม เพราะอะไรน่ะหรอ? ก็เพราะชื่อนี้มันเข้ากะหน้ามันแล้วล่ะ

สิ่งที่ดิฉันประทับใจในเพื่อนคนนี้ก็คือ นิสัยที่ มองโลกในแง่ดี ไม่เคยคิดร้าย หรือ ว่าร้ายใคร ห่วงใย ใส่ใจ เพื่อนเสมอ อีกอย่างที่สำคัญคือมันเป็นเพื่อนที่รู้ใจดิฉันดีที่สุดค่ะ ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่ดิฉันไม่สบายใจ ติ๋มจะมี sent พิเศษทีสามรถรับรู้ได้โดยที่ดิฉันไม่ต้องบอก หรือ ไม่แสดงอาการอะไรออกไปมากนัก ซึ่งดิฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องยากนะที่จะมีคนซักคนมาเข้าใจเราโดยที่ไม่ต้องบอกอะไรเลย

ดิฉันรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากมายค่ะ ที่ได้มีเพื่อยสนิทแบบติ๋ม นี่ล่ะมั้ที่เค้าเรียกว่าเพื่อนแท้ คนที่สามารถทำอะไรให้ได้มากมายโดยที่ไม่คิดเสียดายหรือเสียใจที่ได้ทำให้ ว่าแล้วก็คิดถึงจังเลยค่ะ
เออ ลืมบอกไปว่าตอนนี้ติ๋มเรียนอยู่ที่โคราชค่ะ เราไม่ได้เจอกัน จะครบปีแล้วมั้ง แต่ความรักและความรู้สึกที่ดีไม่เคยจางหายไปใหนค่ะ มันยังอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจค่ะ